วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 151: การนั่งสมาธิแบบคริสต์

151. สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                วันนี้ (อ. 24  กย. 56)  เป็นวันพิเศษ  เพราะเป็นวันฉลองแม่พระไถ่ทาส  ที่วัดคอนเซ็ปชัญ  ตัวน้อยไปร่วมมิสซาฉลองแต่เช้า  คุณพ่ออำนวยพระพรอันอุดมของพระเจ้ามากมาย เป็นพิเศษ   ตัวน้อยขอนำมาแจกจ่ายแด่ผู้อ่านที่รักทุกท่านด้วยคะ.... 
เมื่อมิสซาเลิก  ตัวน้อยรีบกลับบ้าน  มาเอากล้องไปถ่ายรูปแม่พระไถ่ ทาส เพื่อลงเมล ประกอบเรื่องนี้  แต่แบตตอรี่กล้องหมด  จึงได้แต่ถ่ายภาพ ด้วยโทรศัพท์มือโพสต์ลงเฟสบุ๊ค เผยแผ่  (คือ...ตัวน้อยยังนำภาพจากโทรศัพท์มือมาลงเมล พร้อมกับเรื่องไม่เป็นคะ...แฮะ..แฮะ...) 
 เมื่อตัวน้อยกลับบ้านมาหยิบกล้อง  และโทรศัพท์มือถือ  รีบเดินกลับไปที่วัด  ละอองฝนโปรยปราย  เหมือนแม่พระประทานพร  ด้วยความสบพระทัย  ที่ลูก ๆ ของแม่กระตือรือร้นที่จะไปฉลอง  เพื่อเทิดพระเกียรติแม่พระไถ่ทาส
 ตัวน้อยปรารถนา...ขอให้แม่พระ  ไถ่ทาสบาปในใจ ชีวิต  และวิญญาณของตัวน้อยเช่นกัน  ตัวน้อยไปถึงวัดแต่เช้า  และได้รับศีลอภัยบาปด้วย  รู้สึกใจ...มันเบา  โปร่ง  ..โล่ง  สบาย มีสันติสุขในใจจริง ๆ
                ขอเชิญชวนทุกท่าน  มาร่วมแห่ฉลองแม่พระไถ่ทาส  ในมิสซาหกโมงเย็น  ที่วัดคอนเซ็ปชัญ สามเสน  แทนตัวน้อยด้วยนะคะ  เพราะตัวน้อยติดงานทัวร์  ...  จึงร่วมฉลองในมิสซาเช้าแทน
ขอประชาสัมพันธ์อีกสองงาน  ในสองเสาร์  ที่น่าสนใจมาก ๆ ด้วยนะคะ
งานที่ 1:  วันเสาร์ที่ 28 กันยามีการฝึกสมาธิและเพ่งพิศพระเยซูที่บ้านเซเวียร์ เวลา
09.00 - 16.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วแต่ใครจะช่วยค่าอาหาร จองได้ที่
คุณพ่อมหาร์โซโน โทร 084-728-4137 หรือที่ อีเมล์
maharsono@hotmail.com ภายในวันที่ 25 กันยานี้ค่ะ
งานที่ 2: คณะพระเมตตาประเทศไทย
ประกาศรวมพลคนรัก-ศรัทธาในพระเมตตา และพี่น้องมวลสัตบุรุษ
เข้าร่วมฟื้นฟูจิตใจโอกาสครบรอบ 75 ปีนักบุญโฟสตินา โควัลสกา
วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2013 เวลา 9.00 – 16.30 .
ณ วัดพระมหาไถ่ ซอยร่วมฤดี กรุงเทพฯ
                ขอขอบคุณทุกเมล ดี ๆ ที่กรุณาส่งมาแบ่งปัน  ขอพระเจ้าทรงตอบแทนทุกน้ำใจดี ร้อยเท่าพันทวี  ทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  อาแมน.
“ ลูก ๆ คงลืมไปแล้วกระมังว่า  ลูก ๆ คือ เจ้าชาย  และเจ้าหญิง  ผู้เป็นโอรส  และธิดาของพระบิดาเจ้าสวรรค์  กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่  วันอาทิตย์ เป็นวันแห่งการกลับไปหาพระบิดาเจ้าสวรรค์  กลับคืนสู่อ้อมพระหัตถ์ของพระองค์  และใช้เวลาในวันนี้ให้สมกับที่ลูกรอคอยมาตลอดหนึ่งสัปดาห์  ลูกจงเข้าไปหาพระองค์ด้วยความภาคภูมใจเถิดว่า  ลูกนี้  คือลูกของพระองค์   หากลูกได้ทำอะไรผิดพลาดไป  ก็ขอให้ลูกสำนึกผิด  และกล้าที่จะสารภาพความจริงกับพระองค์  แม่หวังว่า  ลูกยังคงจำเรื่องลูกล้างผลาญได้ใช่ไหม  ผู้เป็นพ่อจะยินดีเพียงใด  ที่เห็นลูกที่หายไปนั้นกลับคืนมา  แค่เพียงคำขอโทษจากหัวใจลูก  พ่อก็พร้อมที่จะอภัยให้  พร้อมทั้งสวมกอดต้อนรับการกลับคืนสู่บ้านเดิมของลูก”  ข้อความจากหนังสือ  แม่รักลูก  เล่ม 3  หน้า 47
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 151: การนั่งสมาธิแบบคริสต์
เราจะภาวนาอย่าง “จริงใจ” ได้  ก็ต่อเมื่อเราพร้อมที่จะ “เปิดใจ”  เราจริง ๆ  และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการ  “เปิดใจ”  ของเรา  และการยอมรับความจริงในตัวเรา  และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน  เป็นก้าวสำคัญจะนำไปสู่ “ความจริงใจ” ในการภาวนาของเรา  (ข้อความจากเอกสาร  การนั่งสมาธิแบบคริสต์ หน้า 1)
                ตัวน้อยคิดอยู่ในใจ  “วันว่าง ๆ ทำอะไรดีน้า”  เมื่อสมองคิด  การกระทำ ก็เกิด   เมื่อแสวงหา  ก็จะพบ ตัวน้อยไปวัด  และหยิบสาร อัครสังมณฑลกรุงเทพ  มาอ่าน  ปกติจะไม่หยิบ  ไม่ค่อยสนใจ  อันนี้ ไม่ดีนะคะ สงวนลิขสิทธิ์  ไม่ควรทำตามแบบอย่างที่ไม่ดีคะ พระเยซูทรงสอนไว้ 
 เมื่อหยิบมาอ่าน ก็จะมีอะไรน่าสนใจเสมอ    และตัวน้อยพบ  การฝึกสมาธิแบบ WWCM (World  Communitty  for  Christian Meditition)  อะไรน่ะ...  แบบไหนอะ...  อุ๊... คุณพ่อจิตตธิการ....  พ่อครูตรวจงานเขียนตัวน้อยนี่นา  ไปหาท่านดีกว่า  คิดถึง.... คิดถึง....
                แล้วใจที่คิดถึง  ก็พากายไป วัดพระมหาไถ่ ซอยร่วมฤดี  เริ่มกิจกรรม 9:30  (ทุกวันเสาร์)
                เมื่อเข้าไปในห้องประชุม  มีสมาชิก  และคุณพ่อจิตตาธิการ  กำลังคุยกัน  แบ่งปันอย่างกันเอง  บรรยากาศดูเป็นมิตรดีจัง  ....
                ตัวน้อยชอบ  คุณพ่อแบ่งปันถึงพระสันตะปาปาฟรังซีส  ความว่า
 “พระสัตตะปาปา  ท่านเป็นแบบอย่างแห่งความยากจนจริง ๆ ท่านยังไม่เข้าพักในที่พักประจำตำแหน่ง แต่พักที่อาคาร พระสังฆราช  และทรงเดินไปทำงาน  ในวันหนึ่ง  ขณะที่ท่านทรงเดินไปทำงาน  ได้พบพระสังฆราชท่านหนึ่ง  กำลังยืนอยู่  พระสัตตะปาปา  จึงทักทาย  ว่า  “ยืนทำอะไรอยู่หรือ”  พระสังฆราชตอบว่า  “รอรถมารับ”  พระสัตตะปาปา ตรัสว่า  “เดินไม่เป็นเหรอ”...... แป๋ววววว.....
                แรงงงง.....  แต่ดี  ...  คิดถึงพระวาจาในหัวใจที่ว่า 
“เราตีสอน  ผู้ที่เรารัก”
                คนถูกตี  คงไม่ชอบเท่าไหร่  แต่คนตี  คงอยากให้เข้าใจ  ที่ทำไป  ก็เพราะรักนะ....
                กิจกรรมต่อไป  คืออ่านไบเบิ้ลไดอารี่ ของวันอาทิตย์  และเริ่มนั่งสมาธิประมาณยี่สิบถึงสามสิบนาที  แล้วแบ่งปันประสบการณ์ การนั่งสมาธิในครั้งนี้
พี่สมาชิก  ได้มอบเอกสาร และอธิบายคร่าว ๆ ถึงการทำสมาธิ  คือ ให้นั่ง  หลังตรง ปิดตาเบา ๆ แล้ว   หายใจเข้า .... ท้องฟอง   หายใจออก.... ท้องแฟบ..... เงียบเริ่มท่องคำเดียว – คำหรือวลี  อย่างเช่น "Maranatha" ... “มารานาธา”  แปลว่า  “เชิญเสด็จมาเถิด  พระเจ้าข้า”  เป็นคำภาษาอาราเมอิก  ซึ่งเป็นภาษาที่พระเยซูเจ้าทรงใช้พูด  หรือใช้คำอื่น ๆ เช่น  เย...ซู..... กล่าวคำนี้ ซ้ำไปซ้ำมา  เพื่อให้จิตมีหลักยึด  ไม่วอกแวก  เมื่อจิตวอกแวก คิดถึงเรื่องต่าง ๆ ให้ดึงจิตกลับมา  เงียบ....นิ่ง....นิ่งลงถึงห้องที่ลึกที่สุดของใจ  ที่ที่พระเจ้าทรงประทับอยู่   และอยู่กับพระองค์  สักยี่สิบถึงสามสิบนาที  ฝึกทั้ง  เช้า และเย็น โดยไม่ต้องประเมินผล  หรือเปรียบเทียบการฝึกในแต่ละครั้ง  แต่ให้มีวินัยในการฝึกเป็นประจำทุกวัน
ตัวน้อยคิดถึงเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง  ที่อ่านพบ  และได้ฟังคุณพ่อที่วัดใกล้บ้านแบ่งปันในมิสซา  ความว่า
 “ที่วัดแห่งหนึ่ง  จะชายคนหนึ่ง  ชอบเข้ามานั่งในวัด....  เงียบ ๆ ....  แทบทุกวัน   คุณพ่อก็แอบมองด้วยความใส่ใจ  ชายคนนั้นไม่ได้สวดสายประคำ  แค่นั่งมองพระแท่น  จนวันหนึ่งคุณพ่อเข้าไปทักทาย  ว่า  “ทำอะไรอยู่หรือ”  ชายคนนั้นตอบว่า  “นั่งเฉย ๆ”........แป๋ววววว.....
การนั่งเฉย ๆ ของชายคนนี้  คงมีความสุข  สุข...เหมือน   มีคนที่รักที่สุด  นั่งอยู่ข้าง ๆ แม้ไม่ต้องพูดอะไร  แค่ได้อยู่เคียงข้าง  แค่ได้เห็น  ก็มีเป็นสุข  แม้อาจไม่ใช่ตลอดเวลา  แค่บางเวลา  ก็เป็นสุข.....
นิ่ง.... เงียบ...  เรียบง่าย... บริสุทธิ์.... อยุ่กับพระ ในขณะปัจจุบัน  แค่นี้...ในใจก็จะเกิด สันติสุข และความชื่นชมยินดีแล้ว  เหมือนใจได้พัก  หลังจากสาละวัน...ว้าวุ่น....วุ่นวายกับเรื่องต่าง ๆในชีวิตประจำวัน  เพื่อจะเป็นพลังทำกิจการดี ด้วยใจยินดีต่อไป
วิธีปฏิบัติ เรียบง่าย  แต่ทำไม่ง่าย  เพราะความคิด  จิตซุกซน  นิ่งยาก  ลองเงียบ  ...  และนิ่ง....บ้างก็ดีนะคะ  เพื่อจะได้ได้ยินเสียงของพระเจ้าบ้าง  หมั่นฝึกกันนะคะ
เมื่อเราเริ่มหยุดคิดถึงตนเอง  ความสนใจของเราก็จะเคลื่อนลงสู่สถานที่ที่ลึกยิ่งกว่า  บริสุทธิ์ยิ่งกว่า  ..... ซึ่งก็เงียบกว่า  และมีสติกว่า..... ในขณะที่เราเคลื่อนเข้าสู่จิตใจของพระคริสตเจ้า  (ข้อความจากเอกสาร การนั่งสมาธิแบบคริสต์ หน้า 7)
เมื่อเรานั่งสมาธิ  นั่นคือความสามารถที่จะ  “อยู่กับพระเจ้า”  ( With God)  “ในพระเจ้า”  ( In  God)  ณ “ที่นี้  ( Here)  และ ใน “ขณะนี้” ( Now)  (ข้อความจากเอกสาร การนั่งสมาธิแบบคริสต์ หน้า 2)
การมีชีวิตอย่างเพิ่งพิศภาวนา  ไม่ได้แปลว่า  เราต้องอยู่ในอาราม  หรือต้องใช้วิถีชิวิตอยู่อย่างเงียบ ๆ แต่หมายความว่าไม่ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่  ในขณะที่เรากำลังทำหน้าที่ของเรา  หรือปฏิบัติตามอาชีพของเราอยู่นั้น  เราอยู่ใน “ขณะปัจจุบัน”  และต่อหน้าการประทับอยู่ของพระเจ้าในการกระทำที่เรากำลังทำอยู่นั้นเสมอ  “การภาวนาตลอดเวลา”  หมายถึง  เรากำลังเปิดจิตสำนึกในระดับที่ลึกลงไปของเรา  ซึ่งเป็นระดับที่พระคริสตเจ้าทรงกำลังภาวนาในตัวเรา    (ข้อความจากเอกสาร การนั่งสมาธิแบบคริสต์ หน้า 12)
ลูกจงมองดูเราซิ  เราเป็นพระเจ้าพระบิดาสวรรค์ของลูก   เราจะส่งพระจิตมา.... ด้วยตัวของลูก  ลูกจะทำอะไรไม่ได้เลย  จงร่วมอยู่ในความรักของเรา  แล้วไม่มีสิ่งใดที่ลูกจะทำไม่ได้ ( ข้อความจากหนังสือ พระวาจาพระเจ้า หน้า 48)
ขอพระเจ้าทรงพระเจริญเทอญ  อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
03.09.2556  เขียนเสร็จ
24. 09. 2556  เขียนเพิ่ม  และส่งเมล 
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับ เรื่องที่ 152: มากกว่าคำภาวนา
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน

http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE --à CATHOLIC BY MY STORY                   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 150: สมบัติล้ำค่า

150. สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                “การไม่มีโรค  เป็นลาภ อันประเสริฐ”  เพราะตัวน้อยป่วย  จึงซึ้ง ว่า   คนที่ป่วยนั้นทรมานอย่างไร  ตัวน้อยไม่ได้เป็นทุกข์เท่าไหร่.... (นิดนึงอะ....  ก็ยังเป็นมนุษย์  ผู้อ่อนแอ อยู่นะคะ)  แต่เพราะวางใจในพระเยซูเจ้า  ปล่อยวาง  ด้วยการฝากชีวิต   และทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า  ทำให้ตัวน้อยอยากจะบอกว่า คนที่แข็งแรงดี  โชคดีเพียงใด  ดูแลสุขภาพ  และใช้ชีวิตดี ๆ กันต่อไปนะคะ  เพราะไม่ว่าอย่างไร  เราไม่รู้วันเวลา  ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น  ขอให้ใช้ชีวิตอย่างดี ๆ อย่างที่ไม่ต้องนึกเสียใจทีหลัง  อะไรดี ๆ ทำได้ ก็เพียรทำ  เพื่อพระเจ้า  เพราะความรักต่อพระองค์  เพื่อพี่น้องในพระคริสตเยซู  เราจึงเป็นพี่น้องกันกับคนทั้งโลก
 เมื่อวาน  ตัวน้อยลื่น.. หกล้ม... ใช้มือเท้าไว้ ก่อนล้มถึงพื้น  จึง เจ็บมือมาก  เจ็บ....เจ็บ.....เจ็บ... เจ็บจัง... ทำอย่างไรดี  อือ..อือ...
 เมื่อคืน (16 กย. 56) ไปวัด ใกล้บ้านตัวน้อย   คุณพ่อเทศน์แบ่งปันว่า  ความเชื่อคือของขวัญ  คนที่มีความเชื่อ  จึงเป็นเหมือนคนที่ได้รับของขวัญจากพระเจ้า  ส่วนพระวาจา  เป็นตอนที่  ความเชื่ออันยิ่งใหญ่ของนายร้อย  ที่ได้ส่งคนมาขอให้พระเยซูทรงรักษาคนรับใช้ที่นายร้อยรักมาก ๆ  เขาไม่ขอให้พระองค์มารักษาที่บ้าน  แต่ขอให้พระองค์ตรัสเพียงพระวาจาเดียว  คนรับใช้ของเขาก็จะหาย  เมื่อเขาเชื่อเช่นนั้น พระเยซูทรงเมตตารักษา  ให้คนรับใช้ของเขาหายจริง ๆ และนายร้อย... ทำให้พระเยซูเจ้าทรงประหลาดใจ  และตรัสชมว่า  “เราไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอล”  เทียบ ลูกา 7:1-10
เมื่อตัวน้อยหกล้มเจ็บมือมาก ๆ แต่ลองขยับดู  กระดูกไม่ได้หัก  หรือเป็นอะไรร้ายแรง  แค่เจ็บ...  ไม่ชอบเจ็บ ๆ แบบนี้เลย  พรุ่งนี้จะซักผ้าด้วยมือ  ไม่ใช้เครื่องซักผ้า  เพราะไม่อยากให้ผ้ายับ  มือเจ็บแบบนี้จะซักผ้าได้อย่างไร   อือ...อือ....  ตัวน้อยคิดถึงสิ่งที่คุณพ่อเทศน์  เรื่องนายร้อย  และโดยเฉพาะ  เรื่องหญิงที่ตกเลือดมาหลายปี  เธอแค่แอบสัมผัสชายฉลองพระองค์ของพระเยซู  แล้วเธอก็รู้สึกได้ว่า  โรคที่เธอป่วยมานาน  หายในทันที...  เทียบ  ลูกา 8:43-48
เมื่อนึกได้ดังนั้น  ตัวน้อยจึงแนบฝ่ามือที่เจ็บมาก ๆ กับรูปพระเมตตาที่หัวนอน  สวดขอพระองค์ทรงรักษาให้หาย  ...สวดขอ..ขอ...ขอ..   และจบบทสวดด้วย  ลูกวางใจในพระองค์ ลูกวางใจในพระองค์...ลูกวางใจในพระองค์  อาแมน.
มือของตัวน้อยหายเจ็บได้อย่างน่าอัศจรรย์  และอาการนิ้วแข็ง งอแล้วเจ็บ  ที่เพิ่งเป็นหนัก ๆ ได้สักเดือนกว่าที่ผ่านมา  ซึ่งสันนิษฐานว่า  เป็นหนึ่งในผลของอาการข้างเคียงจากการรับประทานยาต้านมะเร็ง  หายไปด้วย  ตัวน้อยสวดขอบพระคุณพระเจ้า  และเข้านอนด้วยรอยยิ้ม  มีความสุขใจในความรัก  และพระเมตตาของพระเยซูเจ้ายิ่งนัก..  รักพระองค์  จุ๊บ...จุ๊บ...
ตื่นขึ้นมา ดูนาฬิกา ตีห้าสิบห้านาที  นอนคิด.... ขยับมือข้างที่เจ็บเพราะหกล้ม  พลางคิดในใจ  “ มือหนึ่งหายแล้ว  แต่อีกมือหนึ่งยังตึง..แข็ง...งอ  แล้วเจ็บอยู่  สวดขอพระเยซูทรงรักษาด้วยดีกว่า”   แล้วตัวน้อยนำมือมาทาบรูปพระเมตตาอีกครั้ง  สวดบทพระเมตตาเวลาบ่ายสามโมง  ขณะสวดรู้สึก...  เหมือน.. มีกระแสบางอย่างผ่านเข้ามาที่ฝ่ามือ  ไม่ต่างจากการสวดขอครั้งแรก  เมื่อสวดจบ  มือของตัวน้อยก็หาย  กำแบ  งอได้ดี ไม่เจ็บอีก....   จริง ๆ เลยคะ...
ความเชื่อ  นำมาซึ่งความหวัง  และปาฏิหารย์ ได้เกิดขึ้นด้วยความรักและพระเมตตาของพระเจ้า  ตัวน้อยจึงรีบเขียนแบ่งปันประสบการณ์เหลือเชื่อนี้  เพื่อเป็นประจักษ์พยานยืนยัน ความศักดิ์สิทธิ์ ฤทธานุภาพ  ความเที่ยงแท้  ความรัก  และพระเมตตาของพระคริสตเยซู   องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา....  ขอนมัสการ  สรรเสริญ และโมทนาขอบพระคุณพระองค์  ตลอดนิรันดร์  อาแมน.
ขอขอบคุณทุกเมลดี ๆ ที่กรุณาส่งมาให้  ขอพระเจ้าตอบแทนทุกน้ำใจดีร้อยเท่าพันทวี ทั้งในโลกนี้  และในสวรรค์  อาแมน.
ในท้ายเรื่องตัวน้อย  คัดลอก ผลข้างเคียงของการรับประทานยาต้านมะเร็งมาให้อ่านกัน  กรุณาอ่าน  และตัวน้อยขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ  ว่าตัวน้อยสมควรรับประทานต่อไปหรือไม่  อ่านแล้ว  รู้สึก  เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน  ตั๊กแตนตาย   ช้างก็ดูเหมือนจะไม่รอดเหมือนกัน... ?????   ตัวน้อยจะทำอย่างไรดี....
พระองค์ตรัสว่า  “ลูกเอ๋ย  ความเชื่อของเจ้าช่วยเจ้าให้รอดพ้นแล้ว  จงไปเป็นสุขเถิด”  ลูกา 8:48
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 150: สมบัติล้ำค่า
ชีวิตในโลกนี้  เป็นการเดินทางสู่ความครบครัน  จึงไม่ต้องแปลกใจที่ว่า  ในส่วนลึกของทุกคนมีแรงผลักดัน  ไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้นเสมอ ( ข้อความจากหนังสือ ทางสู่พระเจ้าของข้าพเจ้า  หน้า 26)
                 เมื่อตัวน้อยได้หยุดงานหลายวัน   ตัวน้อยคิด...คิด...คิด...ทำอะไรดีน้า... เริ่มต้นด้วยการดูแลทำความสะอาดบ้าน  เพื่อจะได้อยู่บ้านที่สะอาด  สบายตา ก็สบายใจ  พาให้ใจเป็นสุข 
บ้านก็ไม่ต่างจากใจที่เป็นวิหารที่ประทับของพระเจ้า  เราก็ต้องหมั่นชำระให้สะอาดเช่นกัน  ด้วยการไม่ทำบาป ถ้าเผลอทำผิด  ก็สำนึกผิด  กลับใจ  ขอโทษ แก้ไข พยายามไม่ทำผิด อีก รับศีลอภัยบาป  และศีลมหาสนิทบ่อย ๆ ใช้ชีวิตติดอยู่กับพระในทุกกิจการ ในทุกขณะจิต เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างเรากับพระเจ้าผู้ที่รักเราที่สุด   คิดถึงเรื่องเล่าโดนใจ  เก็บไว้ในใจตัวน้อยนานแล้วความว่า 
               
มีปีศาจ สามตนคุยกันว่า  “พระเจ้าคือสมบัติที่มีค่าที่สุดสำหรับมนุษย์  เราจะเอาพระองค์ไปซ่อนที่ไหนดี  มนุษย์จะได้หาไม่เจอ”  ปีศาจตนแรก  บอกว่า  “เอาซ่อนในทะเลลึก”  ปีศาจตนที่สอง บอกว่า  “เดี๋ยวมนุษย์ ก็ไปขุดเจาะน้ำมัน หาเจอ  เอาไปซ่อนไว้ในป่าลึกดีกว่า”  ปีศาจตนแรกแย้ง  “มนุษย์ ไปตัดไม้ทำลายป่า  เดี๋ยวก็หาเจออยู่ดี”  ปีศาจทั้งสองตน จึงหันมาถามปีศาจอาวุโสว่า  “ซ่อนไว้ที่ไหนดี”  ปีศาจอาวุโสตอบว่า  “ซ่อนไว้ในใจมนุษย์น่ะแหละ มนุษย์ชอบแสวงหาแต่สิ่งไกลตัว  พระเจ้ารักขนาดมาประทับอยู่ในใจ  ไม่เห็นมีใครใส่ใจเลย”  แป๋วววววว.......
                เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  พระเจ้าอยู่กับเรา  ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ พระองค์อยู่เคียงข้างเราเสมอ  เพียงเราเปิดหู  เปิดตา  เปิดใจ  เราจะรับรู้ได้    เมื่อรับรู้....ทำให้อุ่นใจ  มีความสุข  สันติสุข  และชื่นชมยินดี  ว่าเราช่างโชคดี เสียนี่กระไร  มีพระเจ้า เท่ากับมีทุกสิ่ง  คุณเป็นคนที่โชคดีแล้วหรือยังคะ....
มนุษย์เป็นใคร  พระองค์จึงทรงระลึกถึงเขา  บุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร พระองค์จึงต้องทรงเอาพระทัยใส่  ถูกแล้ว  พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ให้ด้อยกว่าฑูตสวรรค์เพียงน้อยนิด  ประทานความรุ่งโรจน์ และเกีรติยศให้เป็นเสมือนมงกุฏประดับศีรษะ  ทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นเจ้านายของผลงานทั้งมวลจากฝีพระหัตถ์  และทรงวางสรรพสิ่งไว้ใต้เท้าของเขา” สดุดี 8:4-6
ทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีก เมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่า  คือการรู้จักพระคริสตเยซู  องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า  ฟิลิปปี 3:8
อย่ากระวนกระวายใจถึงสิ่งใดเลย  จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบความปรารถนาทุกอย่างของท่าน  โดยการอธิษฐาน  การวอนขอพร้อมด้วยการขอบพระคุณ  แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินสติปัญญาจะเข้าใจได้นั้น  จะคุ้มครองดวงใจ  และความคิด  ของท่าน ไว้ในพระคริสตเยซู  ฟิลิปปี 4:6-7
ขอโมทนาขอบพระคุณ  และสรรเสริญ พระเจ้าสุดจิตสุดใจ   อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย 
03/09/2556  เขียนเสร็จ
17. 09. 2556  เขียนเพิ่ม  และส่งเมล 
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับ เรื่องที่ 151: การนั่งสมาธิแบบคริสต์
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE --à CATHOLIC BY MY STORY                   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ
บทความเพิ่มเติม  เรื่อง  อาการข้างเคียงของยาต้านมะเร็ง  ข้อมูล  จาก GOOLE
ในขณะที่ผลการวิจัยเริ่มต้นของบทบาท tamoxifen ในการรักษาโรคมะเร็งเต้านมที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มเป็นเช่นนั้นการวิจัยต่อไปนำเสนอความกังวลหลุมฝังศพสำหรับการใช้งานอย่างแพร่หลาย ในความเป็นจริงการอ้างอิงแผนกแพทย์รายการ 25 อาการไม่พึงประสงค์เพื่อ tamoxifen บางคนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

อาการวัยหมดประจำเดือน

Tamoxifen มักจะก่อให้เกิดอาการหมดประจำเดือนในหญิงสาว ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้หญิงที่มีประสบการณ์กะพริบร้อนเก็บน้ำ, น้ำหนัก, ตกขาวและช่องคลอดฝ่อ บางการศึกษายังพบว่าผู้ใช้ premenopausal ที่มีความเสี่ยงของการพัฒนากระดูกการสูญเสียแร่ธาตุและเร่งการเกิดโรคกระดูกพรุน ความผิดปกติประจำเดือนยังเกิดขึ้นในผู้หญิง premenopausal ประจำเดือน (ตัวตนของรอบประจำเดือน) มักจะส่งผลและสามารถถาวร

ความเสียหายตา

ประสบการณ์เรตินาได้รับความเสียหายผู้หญิงใช้ tamoxifen เพิ่มขึ้น opacities กระจกตาและการมองเห็นลดลง การเปลี่ยนแปลงของกระจกตาและม่านตากลับไม่ได้นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจจูงใจสายตาไปสู่​​ปัญหาในภายหลังรวมทั้งต้อกระจก

เลือดอุดตัน

Tamoxifen ระคายเคืองผนังของเส้นเลือด การระคายเคืองและการอักเสบคงอ่อนตัวเส้นเลือดที่ทำให้เกิดเลือดออก, thrombophlebitis, แข็งตัวและในกรณีที่เลวร้ายที่สุด - การอุดตันของหลอดเลือดที่ให้บริการปอดซึ่งอาจจะเป็นอันตรายถึงตายได้และเกิดขึ้นกับคำเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ7 งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงของการพัฒนาที่คุกคามชีวิตลิ่มเลือดที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่าที่เจ็ดครั้งในผู้หญิงการ tamoxifen8

อาการทางจิตวิทยา

อาการซึมเศร้าได้รับรายงานว่ามีศักยภาพผลข้างเคียงของยา tamoxifen ใน 30% ของผู้หญิง กรณีที่ได้รับรายงานจากการไร้ความสามารถที่จะมีสมาธิ

โรคหอบหืด

Tamoxifen สามารถเรียกโรคหอบหืดในผู้ป่วยที่มีความละเอียดอ่อนบาง

การเปลี่ยนแปลงของสายเสียง

Tamoxifen ยังสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสายเสียงทำให้เกิดการด้อยค่าของการร้องเพลงและความสามารถในการพูด

มะเร็งตับและโรคตับ

Tamoxifen เป็นพิษต่อตับและอาจทำให้เกิดโรคตับอักเสบเฉียบพลัน ล่าสุดการศึกษาของมนุษย์แสดงเพิ่มขึ้นหกเท่าในโรคมะเร็งตับในกลุ่มผู้หญิงที่ใช้ยา tamoxifen นานกว่า 2 ปี9ความล้มเหลวของตับและตับอักเสบ tamoxifen ที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะหายากที่ได้รับรายงาน ในขณะที่เซนเนก้า, ผู้ผลิตของ tamoxifen ยอมรับว่ามันเป็นสารก่อมะเร็งตับก็ยังคงยังคงอุกอาจส่งเสริมการใช้งาน

มะเร็งมดลูก (เยื่อบุโพรงมดลูก)

การเจริญเติบโตในมดลูกเช่นติ่งเนื้องอก thickenings เยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งที่เกิดขึ้นในจำนวนที่มีนัยสำคัญของผู้หญิง หนึ่งการศึกษาตรวจพบเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติในวิชาในวันหลังจากที่แท็บเล็ตครั้งแรกที่ถูกนำตัว!10
ในการศึกษาล่าสุดการเปลี่ยนแปลงของมดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูกมะเร็งได้เห็นใน 10% ของผู้หญิงที่ใช้ยา tamoxifen สูงกว่าปริมาณของยา tamoxifen และอีกต่อไปมันจะได้รับมากขึ้นความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงใช้ยามาตรฐานสำหรับสองปีจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งมดลูกที่เป็น 2-3 ครั้งยิ่งใหญ่กว่าปกติ หลังจากห้าปีมีความเสี่ยง 6-8 ครั้งยิ่งใหญ่กว่าปกติ11
ในกุมภาพันธ์ 1996 คิดเห็นประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์จากประเทศต่างๆปิดฉาก "ว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะถือว่าเป็นสารก่อมะเร็ง tamoxifen มนุษย์ที่เพิ่มความเสี่ยงของผู้หญิงคนหนึ่งของการพัฒนา .... มะเร็งของ endometrium, เยื่อบุด้านในของมดลูก."12
เมื่อข่าวออกมารายงานว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ใช้ tamoxifen เป็นเวลาห้าปีหรือนานกว่านั้นอาจมีสามความเสี่ยงของโรคมะเร็งมดลูก13นักวิจัยหลายคนกล่าวว่า "มันไม่ใช่เรื่องใหญ่" ตั้งแต่เนิ่น ๆ ของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกไม่ค่อยมีผลในการตาย คำว่าโกรธแค้นนักวิจารณ์ที่ตั้งข้อสังเกตว่าการรักษาสำหรับโรคมะเร็งมดลูกคือการผ่าตัดมดลูก แต่ตอนนี้มันเป็นที่รู้จักกันว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่เป็นโรคมะเร็งมดลูกในขณะที่ใช้ tamoxifen มีแนวโน้มที่จะมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในรูปแบบที่ร้ายแรงของโรค14
ในเดือนกันยายนปี 2000 มีดหมอรายงานการศึกษาซึ่งแสดงให้เห็นว่า tamoxifen ยาเสพติดมักใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเต้านมและในขณะที่การป้องกันในบางผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงเช่นกันเพิ่มขึ้นความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก นอกจากนี้ความเสี่ยงนี้เพิ่มขึ้นด้วยเวลานำนักวิจัยตั้งคำถามกับการใช้ยาเสพติดในผู้หญิงที่มีสุขภาพดี พบว่าผู้หญิงที่เอา tamoxifen สำหรับ 2-5 ปีละสองครั้งมีความเสี่ยงของโรคมะเร็งเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้มัน ผู้หญิงที่ได้รับมันเป็นเวลา 5 ปีหรือมากกว่ามีความเสี่ยงเจ็ดครั้งที่สูงขึ้นของโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นรวมสำหรับผู้หญิงทุกคนที่ใช้ tamoxifen ที่เป็น 50% มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกขั้นสูงได้มากขึ้นที่พบบ่อยในผู้หญิงที่ได้รับยา tamoxifen ระยะยาวกว่าในบรรดาผู้ที่ไม่ได้ การอยู่รอด 3 ปีสำหรับโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกคือ "แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ" ระยะยาวสำหรับผู้ใช้ tamoxifen
เฮ่อ....   มันอะไรกันคะเนี่ย....   ตัวน้อยมึน.....  ตัวน้อยรับประทานยาอะไรอยู่เนี่ย.....

++++++++++++     +++++++++++++++      +++++++++++++++++     +++++++++++++++++    

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 149. บวชแรมวาร

149. สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                ตัวน้อยทำงานทัวร์เป็นวันที่สี่  ตาจะปิดตั้งแต่หกโมงเย็น  แต่มีอะไรหลายอย่างต้องทำ  ตอนนี้สองทุ่มกว่า  สมองหลับไปเจ็ดสิบเปอร์เซนต์แล้ว  ขอทักทายสั้น ๆ นะคะ 
ลูกทัวร์ทัวร์นี้น่ารักมาก ๆ น่ารักทุกคน  และ มีคนพิเศษสุด..สุด.. เป็นหนุ่มเท่...น่ารัก.. อารมณ์ดี...ใส..ซื่อ... ใส่แว่นดำตลอด  เพราะโลกของเขาดำเหมือนแว่นตา  แต่จิตใจของเขาแจ่มใส  ได้รับการโอบอุ้ม  ดูแล  จากพ่อแม่ ลุงป้า และคุณน้า  
ไม่ต่างจากชีวิตเรา  ที่ดำเนินชีวิตไปโดยไม่รู้อนาคต   เราทุกคนก็ไม่ต่างไปจากคนตาบอด  ที่ไม่รู้ว่า ข้างหน้าเราจะพบกับอะไร  เหวลึก  ลุมพราง ทุกหญ้า  สวนดอกไม้  และ  ขุมทรัพย์    อยู่ตรงไหน  ขอบคุณพระเจ้าที่มีพระองค์ในชีวิต
ขอขอบคุณทุกเมลดี ๆ ที่กรุณาส่งมาให้  ขอพระเจ้าตอบแทนทุกน้ำใจดีร้อยเท่าพันทวี ทั้งในโลกนี้  และในสวรรค์  อาแมน.
ขอให้พระเยซูคริสตเจ้าสถิตกับท่านเพื่อป้องกัน  อยู่ในตัวท่านเพื่อคุ้มครอง  อยู่ข้างหน้าท่านเพื่อนำทาง  อยู่ข้างหลังท่าน  เพื่อเฝ้าพิทักษ์  อยู่เหนือท่านเพื่อประทานพระพร  เดชะพระนามพระบิดา  และพระบุตร  และพระจิต.....อาแมน.  
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 149. บวชแรมวาร
“จงดูผู้รับใช้ของเรา  ผู้ซึ่งเราเชิดชู  ผู้เลือกสรรของเรา  ผู้ซึ่งเราปิติยินดี”  อิสยาห์ 42:1
                ในช่วงวันที่ 8-13 สค. 56  ตัวน้อยได้มีโอกาสไปเข้าร่วม กิจกรรม  บวชแรมวาร  ของคณะอูร์สูลิน  ซึ่งตัวน้อยได้รับเมลประชาสัมพันธ์มา  ตัวน้อยไม่ทราบว่า  การบวชแรมวาร  คืออะไร เป็นอย่างไร  คณะอูร์สูลิน....  เคยได้ยินชื่อคณะนี้  ตอนไปเรียนอบรมครูคำสอนภาคฤดูร้อน ของศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมแห่งชาติ  เพราะมีรุ่นพี่ปีสาม เป็นซีสเตอร์จากคณะนี้   เพราะเท่าที่เห็นจากไกล ๆ ซีสเตอร์ดูน่ารัก ... สดใส... มีชีวิตชีวา  เป็นมิตร  และเป็นคนมีความสามารถ  น่าชื่นชม  ตัวน้อยจึงอยากรู้จัก....เป็นพิเศษ 
                ห้าวัน ที่ได้ไปใช้เวลากับพระเจ้า  เรียนรู้จัก การบวชแรมวาร  และคณะอูร์สูลิน  ตัวน้อยขอแบ่งความรู้  และความประทับใจ ที่ได้รับจากคุณพ่อ ซีสเตอร์ และพี่ ๆ เพื่อนสมาชิกทั้งสิบคน (ตัวน้อยอายุน้อยที่สุด เลยไม่มีน้องเลย  เสียดายจัง.....)
                กิจกรรม คือ  ในวันที่หนึ่ง  เมื่อเดินทางถึงที่พัก  ที่ดอยสุเทพ จ. เชียงใหม่  เริ่มกิจกรรมโดย  ซีสเตอร์ให้เราเขียนถึงสิ่งที่เราอยากเขียน และเป็นความคาดหวังของการมาร่วมกิจกรรมนี้  และให้เราอ่านทีละคน  หน้าพระแท่นบูชาในวัดน้อย  เป็นเหมือน การปฏิญาณตน ต่อพระเจ้า และซีสเตอร์ ได้มอบหนังสือ  “ยังคงอยู่...ท่ามกลางเรา....การทบทวนชีวิตจิตของนักบุญอัญจลา เมริชี”  ผู้ก่อตั้งคณะ  เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต  และจี้กางเขนแห่งพระจิตเจ้า  เพื่อทรงนำเราตลอดการร่วมกิจกรรมนี้  และตลอดไป
                กิจวัตรประจำวัน คือ ตื่นตีห้ากว่า  หกโมงเช้าเริ่มทำวัตร และมิสซา เจ็ดโมงครึ่ง รับประทานอาหารเช้า แปดโมงครึ่งทำงานบ้าน  เก้าโมงครึ่งคุณพ่อแบ่งปัน  สิบโมงครึ่ง พัก รับประทานของว่าง สิบเอ็ดโมง ซีสเตอร์แบ่งปัน  เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน  บ่ายสองโมง ร่วมกันศึกษา ชีวิตจิตของนักบุญอัญจลา เมริชี จากหนังสือ “ยังคงอยู่... ท่ามกลางเรา”  สี่โมงครึ่ง พัก รำพึง  ตามอัธยาศัย  ห้าโมงครึ่งทำวัตรเย็น  หกโมงรับประทานอาหารเย็น  หนึ่งทุ่ม ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ในแต่ละวัน  สามทุ่มสวดทำวัตรค่ำ  พักผ่อน นอนหลับสนิทดี  ในพระพรของพระที่รักเราที่สุด...
                สิ่งที่เหลือในใจ  จากการแบ่งปันของคุณพ่อ  คือ
                เราต้องย้อนกลับไปสู่การเป็นตัวตนจริง ๆ ของเรา  ซึ่งก็คือเรามาจากพระเจ้า  เราต้องกลับไปหาพระเจ้า  เมื่อมีชีวิตอยู่ ก็ต้องมีชีวิตในพระเจ้า  แบบพระเจ้า  แบบไหนอะ ?????...... 
พระเจ้าเป็นองค์ความรัก  พระเจ้าเป็นองค์ความจริง  พระเจ้าเป็นความดีบริบูรณ์  .....  คิดถึงเพลง  ขอหัวใจที่เหมือนพระทัยพระองค์.......อู้...แล้วจะทำได้อย่างไรนี่.....
ตัวน้อยเหงื่อตก  หูตก  หางตก เริ่มต้นจากความคิด...  ตั้งใจ  ... ทำเท่าที่ทำได้ก่อน  แล้วภาวนา  ภาวนา  และภาวนา  ขอพระเจ้าทรงสร้างลูกขึ้นมาใหม่  ยอมให้พระองค์ปั้นตามน้ำพระทัย  แล้วพระองค์จะบันดาลให้สำเร็จไป  ตามแผนการณ์ของพระองค์ ......   พระเจ้าข้า  ลูกวางใจในพระองค์
ประโยคที่ติดใจ  คือ “เหนือความเป็นจริง ที่เป็นได้...”  อย่างเช่น ให้เราใช้ชีวิตเหมือนปลา...ปลา ที่ว่ายทวนน้ำอยู่เสมอ  จึงมีชีวิต  คุณพ่อใช้คำว่า  “ทำไมเราไม่เปลี่ยนจากปลา  เป็นแมลงปอเพื่อจะอยู่เหนือน้ำ...  เหนือ...กระแสโลก”  เหมือนพระเยซูทรงสอนให้เรา  อยู่เหนือกระแสสังคม เหนือโลก ที่มีปีศาจเป็นจ้าวโลกอยู่  เพื่อให้พระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึง พระเยซูทรงสอน “จงรักศัตรู  และภาวนาให้ผู้เบียดเบียนท่าน  ...  หากเขาตบแก้มขวา จงยื่นแก้มซ้ายให้เขาด้วย   จงรักกันเหมือนพี่น้อง  จงรักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ.....”  สิ่งเหล่านี้  ที่คนธรรมดาไม่ทำ ทำไม่ได้  แต่เราคริสตชน ศิษย์ของ พระคริสต์  ลูกพระเจ้า ต้องทำ... ทำให้เหมือนพระเจ้าทรงทำ  เหมือนไม่ง่าย  แต่ก็ไม่ยากเกินจะทำ  ใช่ไหมคะ....  พยายามทำกันดูนะคะ  พระเจ้าคงดีพระทัย  ลูกพระองค์น่ารัก...
ประโยคที่คาใจ  ความรัก คือ การตกตะกอนของการตกหลุมรัก.......
ตัวน้อยได้ฟัง ... รู้สึกมันดี.... แต่มันงง ๆ เหมือนจะเข้าใจ  แต่ก็เหมือนไม่เข้าใจ  คิดถึง น้ำ  อย่างแม่น้ำเจ้าพระยา  ที่มีสีน้ำตาลแดง จากการละลายปะปนของดิน  เมื่อตักน้ำขึ้นมาทิ้งไว้ ระยะเวลาหนึ่ง ดินจะตกตะกอนนอนก้น    แล้วมันเกี่ยวอย่างไร กับความรัก...???
เมื่อตัวน้อยเขียนการทักทายในสองเรื่องก่อน ( 147 กางเขน)  ทำให้ตัวน้อยได้กลับไปอ่านบทนำที่ตัวเองเขียนไว้  เมื่อสองปีที่แล้ว  เมื่อพระเจ้าทรงทำให้ตัวน้อยได้รู้ว่า  ถูกพระเจ้ารัก ได้รับรู้ว่าพระองค์รักมากแค่ไหน  พระองค์ทรงทำอะไรมากมาย  และพระองค์ทรงทำให้ตัวน้อยตกหลุมรักพระองค์ ได้สำเร็จ   คิ...คิ..คิ...  พระเจ้าน่ารักจริง ๆ คะ...
 อารมณ์รักที่เขียนในช่วงแรก ๆ “ขอรักพระองค์  มากกว่าที่พระองค์ทรงรัก ปรารถนาเพียงทำให้พระองค์ยิ้มได้  และปรารถนาเพียงทำให้พระองค์มีความสุข  ชีวิตจากนี้  ลูกเป็นของพระองค์  เป็นของพระองค์ตลอดนิรันดร์”  อะไรประมาณนี้  มันมากกว่าคำว่ารัก ....
สองปีผ่านไป   ความรัก... กลายเป็นสภาวะรักที่เริ่มนิ่ง ความร้อนรน  ลุกร้อน  มันเริ่มน้อยลง ๆ เหมือนแฟน  เหมือนคู่แต่งงาน  ที่อยู่ในกันมานาน  ความหวาน ความสดชื่น  กลายเป็นความเฉยชิน  เพราะเป็นสัจธรรม  ทุกอย่างมีเกิด  ก็มีดับ   ความรักก็มีวันจืดจาง   เพื่อให้สามารถรักพระเจ้าได้ต่อไป  ตัวน้อยมักจะสวดภาวนา ว่า  “ขอพระองค์โปรดหมั่นเติมความรัก  เพื่อให้ลูกสามารถรักพระองค์ต่อไปได้  ด้วยความซื่อสัตย์  และมั่นคงตลอดไป  อาแมน”  
เมื่อได้ยินคุณพ่อแบ่งปันว่า  ความรัก คือ การตกตะกอนของการตกหลุมรัก.......  ตัวน้อยจึงขอภาวนาว่า  “พระเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงทำให้ลูกตกหลุมรักพระองค์ทุกวัน  เพื่อความรักของลูกจะได้เต็มเปี่ยม  ล้นจนลุกร้อน และร้อนรน  ที่จะนำความรักของพระองค์ไปสู่ผู้อื่น  อาแมน.”  
สำหรับตัวน้อย  ในแต่ละวันมีเรื่องที่ดี ๆ และไม่ดีผ่านเข้ามาเสมอ  ไม่ว่าอย่างไร  ก็ต้องขอบพระคุณพระองค์ในทุกกรณี  โดยเฉพาะเรื่องดี ๆ เป็นความน่ารักของพระองค์  ที่เป็นของขวัญ  มาเป็นเติมรักในหัวใจ  รักพระองค์  พระเจ้าข้า....  จุ๊บ...จุ๊บ...
สิ่งหนึ่งที่ประทับใจ  คือการได้อ่าน  หนังสือ “ยังคงอยู่ ... ท่ามกลางเรา  การทบทวนชีวิตจิตของนักบุญอัญจลา  เมริชี”  ตัวน้อยขอแบ่งปันพอสังเขปดังนี้
นักบุญอัญจลา เมริชี เกิดที่ ประเทศอิตาลี ประมาณปี 1470 รือ 1474  ชีวิตแห่งพระหรรษทานของท่าน  เริ่มต้นเมื่อราวอายุสี่สิบหกปี   โดยได้เข้าเป็นสมาชิกชั้นที่ สาม ของคณะฟรังซีสกัน  และทำให้ท่านได้เริ่มภารกิจรับใช้ช่วยเหลือสังคมอย่างเปิดเผยจริงจัง
 ชีวิตภายในที่มีจิตสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วยการเพ่งพิศภาวนา จากการที่ตระหนักรู้ถึง  เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงรัก  รัก แม้เป็นคนบาป  ทำให้ชีวิตท่านได้เปลี่ยนไป ยอมสลายตัวตน ยอมสละน้ำใจตน ด้วยหัวใจที่รักให้ได้เหมือนที่พระเจ้าทรงรัก สตรีฆราวาสธรรมดา... ที่กล้าหาญ  และ ยอมให้พระจิตนำชีวิต  ด้วยนิมิตที่ท่านได้รับหลังจากการมรณกรรมของพี่สาว  และการเฝ้าภาวนา ณ เชิงกางเขนทำให้ท่านได้ทราบถึงพันธิกจที่จะต้องก่อตั้งคณะฆราวาสสตรีผู้อุทิศตน 
มรดกล้ำค่าแห่งวิถีชีวิตที่ท่านได้มอบไว้ให้คือ  ท่านสอนให้เราเป็นเหมือน  piazza   ซึ่งแปลว่า  สวนสาธารณะ  คือ  ความมีน้ำใจกว้าง  ต้อนรับ  ยินดีเป็นที่พักพิงให้คลายทุกข์  และพร้อมจากกันอย่างเป็นสุขทั้งสองฝ่าย รวมถึงการกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน  ด้วย  การ  ให้มีใจดี   ใจเมตตากรุณา   และไว้ใจมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้า  ด้วยหัวใจ และจิตวิญญาณที่  ใส...บริสุทธิ์..  ซื่อ ตรง... จริงใจ  และจริงจัง ปราศจากอัตตาแห่งตน
ความน่ารักเป็นพิเศษของท่าน  คือท่านสัญญาหลายครั้งว่าจะอยู่กับเราตลอดไป  ท่านเคยพูดว่า  เมื่อท่านไปอยู่ในสวรรค์แล้ว  จะสามารถช่วยเราได้มากขึ้น  และจะต้องปรารถนาช่วยเหลือเรามากกว่า ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เสียอีก  และ  “กฏวินัยเล็ก ๆ น้อยๆ เหล่านี้  ข้าพเจ้าฝากให้ท่านนำไปประพฤติปฏิบัติ  แต่เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป  และพวกท่านเห็นพ้องต้องกันว่า  น่าจะมีการปรับเปลี่ยนกฏวินัยบางประการ  ก็ขอให้ดำเนิการเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสม”  ท่านช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล  ใจกว้าง ให้อสิระ  ไว้ใจ  และเข้าใจความเปลี่ยนไปของโลกจริง ๆ
ในส่วนของสมาชิกทั้งสิบคน  ทุกคนต่างเป็นคนศรัทธา  น่ารัก  มีน้ำใจดีมาก ๆ   บ้างมาแสวงหาบางอย่าง  บ้างมาเพิ่มพูน ฟื้นฟูความรัก  และความเชื่อในพระเจ้า  บ้างต้องการเรียนรู้ และใช้เวลากับพระเจ้า และสัมผัสชีวิตนักบวช  แต่ละคนสัมผัสพระเจ้าในแบบของแต่ละคน  เพราะพระเจ้าทรงรักเรา  และดูแลเราแต่ละคนอย่างที่เราเป็น  เพราะพระองค์รู้จักเราตั้งแต่ก่อนเกิดในครรภ์มารดาเสียอีก
สำหรับตัวน้อย ด้วยพระเมตตาที่ได้รับพระพรพิเศษ เป็นสัญญาณแห่งการประทับอยู่ ทำให้ตัวน้อยตระหนักรู้  ว่าพระเจ้าอยู่กับตัวน้อย  อยู่ในใจตัวน้อย  อยู่ในใจเราทุกคน   ตัวน้อยจึงสัมผัสพระเจ้าได้ในทุกสิ่ง  ขอบพระคุณพระเจ้าได้..ในทุกกรณี สรรเสริญพระเจ้าได้...ทุกวันเวลา   เพราะคิดถึงพระวาจาที่ว่า  “ไปอยู่กับเราในที่สงัด สักครู่หนึ่งเทอญ”    ทำให้ตัวน้อยปรารถนาที่จะใช้เวลากับพระเจ้า  และอยากรู้จักคณะอูร์สูลิน  ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ตัวน้อยผิดหวังเลย  สิ่งที่แสวงหา ก็ได้พบ  หากจะอุทิศตนทั้งครบ  คณะนี้ใช่ไหม  .. น้ำพระทัยพระองค์  พระเจ้าข้า.... 
ตัวน้อยยังต้องแสวงหาน้ำใจตน ในพระประสงค์ของพระเจ้าอีกสักหน่อย  และชีวิตตัวน้อยจะเลือกทางใด  กรุณาติดตามกันต่อไปนะคะ  สวดภาวนาให้ตัวน้อยด้วย  เราสวดให้กันและกันนะคะ
ในวันสุดท้าย  หลังทำวัตรเช้า  ซีสเตอร์ได้มอบซองใส่คำปฏิญาณของเรา  และจี้นักบุญอัญจลา  เพื่อให้เราไม่ลืมคำปฏิญาณของตัวเอง  และอย่าลืมที่จะเลียนแบบนักบุญอัญจลาในชีวิต  รวมถึงหนังสือสวดทำวัตร  ตัวน้อยได้รับเป็นเล่มที่สองแล้ว ไม่สวดคงไม่ได้แล้ว....  ตัวน้อยชอบบทภาวนา  ที่ได้ใจ...กินใจมากมาย  และแทนใจได้อย่างดีเยี่ยม  หมั่นสวดทำวัตรกันนะคะ...
 มีใจ...ที่ใจดี  และมีใจ....ที่เมตตา เปิดกว้าง ต้อนรับ และกลมกลืนกับทุกคน  ด้วยหัวใจ  และจิตวิญญาณ ที่ ใส...ตรง...จริง    มั่นคง  วางใจในพระเจ้า  และรับใช้เพื่อมนุษย์ แต่ละคนในแบบที่เขาเป็น  ใส่ใจ  และจารึกเขาไว้ในหัวใจ  ด้วยหัวใจที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า... 
ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิตสุดใจ  และขอขอบพระคุณ ทุก ๆ คนที่ทำให้ กิจกรรมการบวชแรมวารนี้ เกิดขึ้น  และดำเนินไปได้อย่างดีเยี่ยม  ขอขอบพระคุณคุณพ่อ  ที่อยู่กับเรา แบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับเรามากมาย และให้เวลากับเราเสมอ คุณพ่อประกอบพิธีมิสซาได้อย่างศักดิ์สิทธิ์  จนมีพี่คนหนึ่งเอ่ยปากว่า  “รู้สึก  เหมือนเป็นพระเยซูเองที่ทรงประกอบพิธีมิสซานี้”  ขอขอบพระคุณซีสเตอร์ทุกท่าน  แม้เจ็บป่วยทางกาย แต่หัวใจรักของท่านยิ่งใหญ่  เข้มแข็ง อุทิศตน  น่ารัก  น่าชื่นชม และ เป็นแบบอย่างที่ดียิ่งนัก ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี  ด้วยความรักและพระเมตตาแห่งพระเจ้าที่ทรงประทานพระหรรษทานดูแลลูก ๆ ของพระองค์อย่างดีที่สุด  ขอขอบพระคุณพี่  ๆ ตลอดจน เจ้าหน้าที่ทุกท่าน  ขอพระเจ้าทรงประทับอยู่  และประทานพระพรอันอุดม เสมอไป  มีพระเจ้าเท่ากับมีทุกสิ่ง  อาแมน.
แล้วเราก็จากลากันด้วยความอาลัย  แม้ตัวไกล  แต่ใจจะคิดถึงในคำภาวนา
สุดท้าย  ตัวน้อยขอแบ่งปัน  ข้อความดี ๆ จากหนังสือ  “ยังคงอยู่...ท่ามกลางเรา....การทบทวนชีวิตจิตของนักบุญอัญจลา เมริชี”     นะคะ
ความรักที่แท้จริงย่อมสัมผัสได้จากการใส่ใจ...จดจ่อในแบบที่เขาเป็น  และจารึกเขาแต่ละคนนั้นไว้ได้ในส่วนลึกของจิตใจเรา  หน้า 18
สำหรับอัญจลา  พระเจ้าองค์นี้  คือผู้ที่รู้จักฉันจริง ๆ ทรงรู้ว่าฉันมีขอบเขตจำกัด  อ่อนแอ  บกพร่อง แต่ก็ยังทรงรักฉันอย่างที่ฉันเป็น ณ ปัจจุปันขณะ  คอยติดตามเฝ้าพิทักษ์รักษาทะนุถนอมกล่อมเกลา ตลอดวันเวลาในชีวิตฉัน  หน้า 31
สมบัติทั้งหมดของตนอยู่ในพระเจ้าเท่านั้น  ปราศจากพระองค์  ตนเองก็เป็นแต่ความเปล่า  มีพระเจ้าก็เท่ากับมีทุกสิ่ง หน้า 57
กลุ่มสตรีแห่งนักบุญอูร์สูลิน  มีต้นกำเนิดมาจากเชิงกางเขนของพระเยซูคริสต์  หน้า63
“ขอให้ที่พึ่งแห่งแรกของท่านอยู่ ณ แทบพระยุคลบาทพระเยซูคริสตเจ้าที่เชิงกางเขนเสมอ”  ทุกครั้งเมื่อเราเผชิญกับความยากลำบาก  ความสูญเสีย  และความเจ็บปวดรวดร้าว  อัญจลาเชิญชวนให้เราเข้าหาพระเยซูเจ้า  ณ เชิงการเขน  เพื่อจะได้เรียนรู้จากพระองค์ พร้อมกับสัมผัสการปลอบประโลมอันลึกซึ้ง  หน้า 64
รักแต่ละคนตามความแตกต่างนั้น ๆ และจารึกเขาไว้ในจิตใจ หน้า 89
ฉันคือคนบาปที่พระเจ้าทรงรัก  หน้า  90
พระเยซูเจ้าทรงสัญญาไว้ว่า  จะไม่ทิ้งเราให้เป็นลูกกำพร้า  และ อัญจลาเอง  ก็ให้สัญญาว่า จะยังคงอยู่ท่ามกลางเราด้วยเช่นกัน หน้า 100
อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
 29.08.2556   เขียนเสร็จ
10. 09. 2556  เขียนเพิ่ม  และส่งเมล 
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับ เรื่องที่ 150: สมบัติล้ำค่า
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน

http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE --à CATHOLIC BY MY STORY                   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ