วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรื่องที่ 71: แบบอย่างแห่งการเจ็บป่วย

71.สวัสดีคะ   ผู้อ่านที่รัก
                วันศุกร์ที่ผ่านมา (13 กค. 55)   การแบ่งปันที่วัดฟาติมา  ดินแดง  หนึ่งชั่วโมงเต็ม  ครั้งแรกในชีวิต ผ่านไปด้วยดี  ตัวน้อยคิดว่า  น่าจะทำได้ดีกว่านี้  คงต้องพยายามมากกว่านี้ เรียนรู้  ฝึกฝนมากกว่านี้ สวดภาวนามากกว่านี้  ถ้ามีการแบ่งปันครั้งต่อ ๆ ไป  (ดูเหมือนเร็วกว่าที่คิด  วันอังคารที่วัดพระจิต  คุณพ่อได้มอบหมายไว้แล้ว  ตัวน้อยตอบรับด้วยใจยินดี  ในทุกกิจการของพระเจ้า )  แต่ก็ มีหลายคนชม  มีบางคน...ร้องไห้  มีบางคนเฉย ๆ  มีบางคนชมว่าเพลงที่ตัวน้อยแต่ง  ร้องได้ไพเราะ  มีบางคนไม่ค่อยได้ยิน  เพราะลำโพงไม่ค่อยดี  คิดถึง  จดหมายของนักบุญเปาโล  ที่จดจำได้ขึ้นใจ  แต่บทใด  ข้อใด จำไม่ได้ความว่า   เราเป็นทุกสิ่งสำหรับทุกคน  เพื่อช่วยบางคนให้รอด
                ตัวน้อยเคยสงสัย  ว่าทำไมถึงช่วยบางคน   เพราะตัวน้อยปรารถนาจะช่วยทุกคนให้ได้ไปสวรรค์   แล้ววันหนึ่งก็คิดได้  ก็เข้าใจ   เหมือนรถตัวน้อยนั่งได้ห้าคน  แม้ปรารถนา  มุ่งหวังจะพาทุกคนไปด้วยกัน  แต่ก็ไปกับตัวน้อยได้แค่สี่ห้าคน ....
                แต่ทว่า  พระเจ้าทรงทำได้ทุกสิ่ง  มนุษย์ทำได้นิดเดียว”  คุณพ่อท่านหนึ่งได้เคยพูดสอนไว้ตอนไปอบรมจิตภาวนา กับบราเดอร์ชุมพล ปีที่แล้ว 
 ดังนั้น  จงพึ่งพาพระเจ้าในทุกกรณี  วางใจในพระองค์ทุกกรณี  เป็นพระเจ้าที่ไม่เคยทิ้งเรา  แต่เป็นเราต่างหาก  ที่ทิ้งพระองค์  หลงลืมพระองค์   นอกใจพระองค์  ตกอยู่ในบาป มนุษย์นี้หนอ.....ต้องทำให้พระเจ้าที่รักเราที่สุด  เสียใจอีกสักกี่ครั้ง  จะไม่รัก  ไม่รู้จัก  พระเจ้าไปอีกนานแค่ไหน   เมื่อไหร่  จะเลิกใจเย็นเฉยกันเสียที  เมื่อไหร่  ผู้ศรัทธา  จะศักดิ์สิทธิ์ครบครัน.....
เราคงต้องช่วยกันภาวนา  และอะไรดี ๆ ที่ทำ  ถวายพระเจ้าได้  ก็พยายามทำกันเถอะนะคะ   เพื่อให้โลกนี้เป็นหนึ่งในความรักพระเจ้าในเร็ววัน   โลกจะได้ไม่ต้องวุ่นวาย  ยุ่งเหยิง  เกิดสันติสุขในไม่ช้า....
เรื่องการแบ่งปันที่วัดฟาติมา  จะขอจัดเต็มในเรื่องต่อ ๆ ไป  เมื่อวานวันเสาร์  ตัวน้อยไปเข้าเงียบของซีสเตอร์  คณะพระแม่มารี  ด้วยนะคะ  ได้ความรู้  น่าสนใจ  น่าประทับใจมาก ๆ  ขอแบ่งปันในเรื่อง ต่อ ๆ ไป  อีกเช่นกัน
 มีข่าวขอประชาสัมพันธ์  มีฉลองคณะธรรมฑูต  วันอาทิตย์ที่  22 กค 55    มิสซาสิบโมง  ที่วัดพระแม่มหาการุณย์  ปากเกร็ด  ขอเชิญพี่น้องทุกท่าน  โดยเฉพาะพี่น้องพีเอ็มจี (ฆราวาส ผู้ประกาศข่าดี) ส่งข่าวต่อ  และไปกันอย่างพร้อมเพรียง
 และขอขอบคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน  สำหรับทุกคำภาวนาในการแบ่งปัน  และการเจ็บป่วยของตัวน้อย  พี่น้องพี่เอ็มจี  และพี่ ๆ เพื่อน ๆ มากมายที่ไปให้กำลังใจตัวน้อย   เสียใจจริง ๆ  ที่ไม่ได้  เข้าไปทักทายหลาย ๆ คน ขอโทษมาก ๆ  มาณ โอกาสนี้ด้วย. 
ขอพระเจ้าโปรดตอบแทนทุกน้ำใจดี  แทนตัวน้อยด้วยเทอญ  อาแมน.
เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา  เราได้เลือกเจ้า  เพราะเราอยู่กับเจ้า  เราจะหนุนกำลังเจ้า  เราจะช่วยเจ้า  อิสยาห์ 41:9-10
อย่ากลัวเลย  เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว  เราเรียกเจ้า  ตามชื่อ  เจ้าเป็นของเรา  อิสยาห์  43:1
พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ  พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์  พระองค์ทรงอุ้มไว้ในพระทรวง  อิสยาห์ 40:1
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน...
เรื่องที่ 71: แบบอย่างแห่งการเจ็บป่วย
ถ้าเรารับทรมานร่วมกับพระองค์  เราก็จะรับพระสิริรุ่งโรจน์  ร่วมกับพระองค์ด้วย  โรม 8:14
                เพราะพระเจ้าทรงรู้จักลูกแกะของพระองค์  และพระองค์ก็ทรงรู้จักลูกแกะตัวน้อย....  ตัวนี้ของพระองค์เป็นอย่างดี   ว่า  คิดอะไรเองไม่ค่อยเป็น  ดังนั้น  พระองค์ต้องทรงสอนก่อน  ทำอะไรไม่ค่อยเป็น  ต้องทำให้ดูก่อน  ถึงจะทำตาม ... เลียนแบบได้  ต้องผ่าตัด  ต้องได้เห็นแผลก่อน  ถึงจะยอมผ่า  และรักษาอาการเจ็บป่วย   
อย่างไรนั้น   พระเจ้าทรงส่งแบบอย่างแห่งการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายมาให้ถึงสองคน
เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี  เรารู้จักแกะของเรา  และแกะของเราก็รู้จักเรา  ยอห์น 10:14
                แบบอย่างที่หนึ่ง   หนึ่งในพี่น่ารักของกลุ่มพลมารีย์   พี่เขาป่วยเป็นมะเร็งเต้านม  ตัดไปได้ปีกว่าแล้ว   พี่เขาแข็งแรง  กระฉับกระเฉง  มีน้ำใจ  ว่องไว  ราวกับไม่ใช่คนป่วย  และศรัทธามาก ๆ ด้วย
                วันหนึ่งที่เราไปไหนน้า.... ไปวัดพระจิตกระมัง  พี่เขาก็เปิดแผลให้ตัวน้อยดู  แล้วบอก  นี่ไง  รอยแผล  แห่งรัก   พี่เขาบอกว่า  เหมือนเขาได้ร่วมพระทรมาน  พี่เขาเอ็นดูตัวน้อยมาก ๆ  เมื่อทราบว่าพี่สาว  และตัวน้อยป่วยเป็นมะเร็งเหมือนพี่เขา  (พี่สาวเป็นข้างซ้าย  ตัวน้อยเป็นข้างขวา  มันแปลกดีนะ...) พี่เขาเป็นห่วงเป็นใย  ให้คำแนะนำ  ให้วิกผม  ไปเยี่ยม   และไปหาหมอเป็นเพื่อนตัวน้อยตลอด
                 คุณหมอท่านนี้  เป็นหมอที่พี่พลมารีย์เขาผ่าตัดด้วย  ตัวน้อยจึงสบายใจ  เชื่อใจ  สะดวกใจ  ที่จะได้รับการรักษา และที่ถูกใจ เพราะ  โรงพยาบาลอยู่ใกล้บ้าน  เดินได้  ประมาณสิบ  สิบห้านาที
ผู้อ่านที่รัก เห็นถึงความรัก  และความเมตตาของพระเจ้า  แบบ...ราวกับราชรถมาเกยที่ทรงประทานให้ตัวน้อยไหมคะ...
                ตัวน้อยไม่ต้องไปเสาะแสวงหาคุณหมอเก่ง ๆ ที่ไหน  ไม่ต้องไปรักษาตัวไกล ๆ ให้ลำบาก  ....สบายมาก    พระเจ้าทรงโอบอุ้มเลี้ยงดู  ลูกแกะตัวน้อยตัวนี้ของพระองค์.....เป็นพิเศษ...สักนิดไหม....นะคะ......
                ในวันอาทิตย์  คุณหมอดูผลตรวจเมมโมแกรม  และอัลตร้าซาวน์    คุณหมอวินิจจัยแล้ว  ว่า เป็นมะเร็ง  พี่เขาก็วิตก  หวั่นใจ  ไปกับตัวน้อย  ตกใจแทนตัวน้อย  ในขณะที่ตัวน้อย  เฉย ๆ  พ่อก็เป็น  พี่สาวก็เป็น  พี่เขาก็เป็น  คนที่ป่วยเป็นมะเร็งมีมากมาย  ต่อให้ไม่ป่วยเป็นมะเร็งตาย  ก็คงต้องตาย  เพราะโรคอะไรสักอย่างอยู่ดี  จะคิดมากไปทำไม   จะเป็นทุกข์ไปทำไม   ตัวน้อยแค่คิดว่า  เป็นมะเร็ง  อาจทำให้ตายเร็วกว่าโรคอื่น ๆ หน่อยหนึ่ง  ดังนั้น  คิดดีกว่า  ว่าอยากจะทำอะไร  มีอะไรที่ต้องทำ......  กับเวลาที่เหลืออยู่...ไม่มาก
                ก่อนที่จะป่วย  เพราะงานทัวร์ของตัวน้อยไม่แน่นอน  ดังนั้นอะไรที่ตัวน้อยทำได้  ไปไหนในกิจศรัทธาได้  ตัวน้อยก็ไป   เช่นไปเรียนคำสอน  ไปอบรมพระคัมภีร์  ไปเข้าเงียบ  ไปฉลองวัด  ไปแสวงบุญ  ฯลฯ   เพื่อเรียนรู้ที่จะรัก  มีชีวิตเพื่อรัก  รับใช้พระเจ้า  และใช้เวลากับพระเจ้า  ในเวลาของพระองค์  พระเจ้าที่รักตัวน้อยก่อน  และตัวน้อยก็ตอบรับรักพระองค์  อย่าลืมนะคะ  พระเจ้าทรงรักทุกคน  และคุณหล่ะ....รักพระเจ้าแค่ไหน..... รักพระเจ้าให้ได้มากกว่าที่ตัวน้อยรักนะคะ
                เมื่อป่วย  และถ้าต้องตายจากโลกนี้  จะทำอะไร  
ก่อนผ่าตัด  ตัวน้อยทำพินัยกรรมด้วยน้า....ทรัพย์สินมีเท่าหนวดกุ้ง  จะจัดสรรอย่างไร.... 
ส่วนมากตั้งใจทำบุญ  ในกิจการต่าง ๆ ของพระเจ้า  องค์กรต่าง ๆ ที่ได้รู้จัก  ล้วนต้องการปัจจัยเพื่อให้พันธกิจต่าง ๆ ดำเนินต่อไป   และให้พี่ ๆ บ้าง   พี่ ๆ ก็คงให้หลาน ๆ ถ้าพี่ ๆ ไม่ต้องการ  ก็ขอให้ทำบุญ  ถวายพระเจ้า  อะไรประมาณนี้....  คิดถึงคนไกลตัว  จะไม่คิดถึงใกล้ตัวได้อย่างไร  ใช่ไหมคะ....  เดี๋ยว พี่ ๆ  หลาน ๆ น้อยใจ  คนที่ไม่ดีกับเรา  พระยังสอนให้เราดีกับเขา   แล้วคนที่ดีกับเรา  เรายิ่งต้องดีกับเขา  ให้มาก ๆ ไม่ใช่หรือคะ   แล้ว  ที่คิดถึงเพราะอะไรคะ ....  เพราะรักใช่ไหม....ชื่อเพลงที่ตัวน้อยชอบ   (ที่คิดถึง  เพราะรักเธอใช่ไหม... แฮะ ...แฮะ...)
                อ้อ...เรื่องทรัพย์สิน  ขอแบ่งปันถึงพี่พลมารีย์  แบบอย่างของการเจ็บป่วยต่อว่า    เวลาตัวน้อยเข้าประชุมพลมารีย์    หรือเวลาไปฉลองวัด  หรือไปวัดพระจิตด้วยกัน  พี่เขา...ชอบมองตัวน้อยนิ่ง ๆ และสายตาของพี่เขามีพลังมาก  ตัวน้อยสงสัยมาตลอด  ว่า มองทำไม...  คิดอะไรอยู่น้า...  แต่ตัวน้อยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้....
                จนวันที่พี่เขาไปเป็นเพื่อนพบคุณหมอครั้งแรก  พอพี่เขาเห็นสีหน้าคุณหมอ  ฟังผล  พี่เขาก็ตกใจ  หวั่นใจแทนตัวน้อย  และก็พูดว่า   จะขายทำบุญให้หมดเลย   จะเป็นนายทุนแม่พระ   ตัวน้อยได้ยิน  ได้ฟังอย่าง...งง ๆ .....
  พอมีเวลาคุยกัน  พี่เขาจึงขยายความว่า  เขาตั้งใจ  จะให้ตัวน้อยเป็นผู้จัดการมรดกให้เขา  ถ้าเขาตาย    เขาจะให้ตัวน้อยขายทรัพย์สินทุกอย่าง  และนำไปสร้างวัดทางเหนือ  และขอให้ใช้ชื่อวัดว่า  “พระแม่ผู้นำสาร”   ....ความตั้งใจยอดเยี่ยมจริง ๆ  นับถือ...นับถือ...
เมื่อพี่เขารู้ว่า  ตัวน้อยก็เป็นโรคร้าย   .....ที่นี่  ใครจะตายก่อนกัน  แล้วพี่เขาจะพึ่งใครได้หล่ะ  พี่เขาได้พูดให้ฟังว่า   พี่น้องของพี่เขา  ก็มีแต่คนอยากได้สมบัติเขา  แต่ไม่ได้ใยดี  เอาใจใส่   พี่เขาผ่าตัด  นอนห้องรวม  คนเยี่ยม  ก็ไม่มี  นางพยาบาลก็ไม่ค่อยสนใจ  กลับมาบ้าน  ก็ต้องดูแลตัวเอง   อยู่คนเดียว.....  แม้น่าสงสาร   แต่พี่เขา  ก็เป็นแบบอย่างแห่งความเข้มแข็งจริง ๆ ทำให้พี่เขาเห็นใจ  โทรมาเยี่ยม  ยินดีจะดูแล  พร้อมจะมาอยู่เป็นเพื่อนตัวน้อยเสมอ   สอน  ให้คำแนะนำ  แบ่งปันสิ่งที่มีให้ตัวน้อย
ขอขอบคุณพระเจ้า  ที่ทรงส่งพี่น่ารักมาให้ตัวน้อย
ขอแบ่งปันคำภาวนาของพี่เขา  ที่เขียนไว้ให้ตัวน้อย  ก่อนป่วย  ตั้งนานแล้ว   ว่า
ลูกนมัสการพระองค์พระเจ้าข้า  ขอบคุณพระองค์ที่สร้างให้ลูกเป็นคริสตัง  และพิทักษ์ลูกในคืนนี้   ลูกขอถวายกิจการทั้งสิ้นวันนี้แด่พระองค์  ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยพระองค์ ทุกประการเพื่อมงคลอันยิ่งใหญ่ของพระองค์  ขอพระหรรษทานอยู่กับทุกคนที่ลูกรัก  และนับถือด้วยเทอญ.  อาแมน
กด  LIKE  พันครั้ง….
แบบอย่างแห่งการเจ็บป่วย  คนที่สอง  คือ  พี่สาวคนโตผู้ศรัทธาของตัวน้อย  ตัวน้อยพบความผิดปกติ  ของตัวเองตั้งแต่ ก่อนธันวาคม ปีที่แล้ว (54)   ไปตรวจ แต่ไม่ได้คิดจะรักษา หรือทำอะไร  พี่สาวพบความผิดปกติ   ได้คุยกันตอนงานศพ่อ  ตั้งแต่มีนาคม (55)    เดือนเมษายน  พี่สาวได้ตรวจเมมโมแกรม  และอัลตร้าซาวน์ได้รับแจ้งว่า  ให้พบแพทย์  รับการรักษาด่วน
เมื่อตัวน้อยได้คุยกัยพี่สาว     ตัวน้อยสวดภาวนา  พระเมตตาบ่ายสามโมง  ซึ่งเป็นเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  จะทรงประทานพระพรที่ขอ  โดยไม่ปฏิเสธคำขอใด    ถ้าคำขอนั้น  ไม่ใช่คำขอ  เพื่อสนองกิเลส ตัณหาของตัวเอง  และหากเป็นคำขอที่ดีที่สุดสำหรับเขา พระองค์จะทรงประทานให้ ในเวลาของพระองค์  ซึ่งอาจจะขัดใจเรา  ไม่ทันใจเรา   แต่ดีที่สุดตามน้ำพระทัยของพระองค์  พระเจ้าผู้ทรงรักเราที่สุด  รักเราดุจแก้วตาดวงใจ... ดังนั้น  จงขอเถิด  แล้วท่านจะได้รับ  จงวางใจในพระองค์
ในตอนนั้น  ตัวน้อยสวดภาวนาว่า  ตัวน้อยขอรับความเจ็บป่วยนี้  .....  แทนพี่สาว ก็ไม่ทราบทำไมถึงสวดขอแบบนั้น  รู้แต่ว่า  แค่ใจสั่งมา ......   
แล้วผลการตรวจชิ้นเนื้อ  ปรากฏว่า  ไม่เป็นเนื้อร้าย  เพราะการเจาะชิ้นเนื้อ  เป็นการสุ่มตรวจ   พี่สาว  ครอบครัว  และตัวน้อยต่างก็ดีใจมาก ๆ  คุณหมอจึงผ่าตัดเล็ก  ใช้แค่ยาชา  เหมือนผ่าก้อนเนื้อ  ผ่าซี๊ดทั่ว ๆ ไป  แต่ ..เมื่อผ่าชิ้นเนื้อออกมา  สีของก้อนเนื้อไม่แดง  เมื่อเฉือนชิ้นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ข้างใน  เป็นสีน้ำตาล  เทา ๆ คุณหมอเฉือน  ให้เห็นกันต่อหน้า  ต่อตา คุณหมอจึงบอกว่า  “ผมว่า  เป็นเนื้อร้ายนะ”   และคุณหมอแนะนำให้ตัดทั้งเต้า   เพราะเป็นวิธีรักษาที่ได้ผลแน่นอนที่สุด
ระหว่างรอผ่าตัด  ตัวน้อยไปเยี่ยม  พี่สาวได้จับก้อนเนื้อของตัวน้อย  บอกว่า  “มันแข็งนะ  แล้วใหญ่กว่า   1.5 ซม.อีก  รีบไป ตรวจเถอะ”   พี่สาวแนะนำ  คะยั้นคะยอ  ผลักดัน ทั้งปลอบ ทั้งขู่  ให้ตัวน้อยไปตรวจ
วันเสาร์พี่สาวตัวน้อยผ่าตัด  ตัวน้อยทำงานทัวร์เสร็จ  วันอาทิตย์ก็ไปตรวจเมมโมแกรม  และอัลตร้าซาวน์  เมื่อคุณหมอดูผล  ก็บอกเลยว่า  เป็นเนื้อร้าย  เพราะลักษณะก้อนเนื้อจากภาพ   ผิวไม่เรียบ  บอกไม่ได้ถึงเส้นรอบวง  ซึ่งถ้าหากเป็นถุงน้ำ  จะเห็นขอบเขตชัดเจน  แล้วคุณหมอเจาะชิ้นเนื้อให้เองเลย  โดยไม่ต้องไปเข้าห้องเจาะชิ้นเนื้อโดยเฉพาะ   (ตัวน้อยสบายอีกแล้วคะ  คิดถึงเพลง  เพราะเธอหรือเปล่า  ของอินโนเซนต์.....  เธอคือใครคะ  ก็ พระเจ้ายังไงคะ  ที่เมตตาตัวน้อย....)
 เครื่องเจาะชิ้นเนื้อเป็นแท่งสี่เหลี่ยม  ยาวประมาณหกนิ้ว  ใช้เข็ม  ซึ่งมีปลายเหมือนฉมวกยิงเข้าไป  แล้วจิกชิ้นเนื้อออกมา  ใส่แช่ในฟอมารีน   ตัวน้อยเห็นสีชิ้นเนื้อเหมือนกัน  บางอันก็ไม่ค่อยแดง  เป็นน้ำตาล เทา ๆ ก็มี  หมอฉีดยาชาก่อน  ก็ไม่ได้เจ็บมาก  แต่เสียงดัง แฉะ ๆ ทำให้ตกใจ  คุณหมอยิงรอบ ๆ ก้อนเนื้อ  เกือบสิบครั้งกระมัง..  คุณหมอบอกว่า ผลน่าจะทราบ  และทางโรงพยาบาลจะติดต่อไปในวันพฤหัสบดี 
 แต่....ปรากฏว่า  วันจันทร์  ราวสิบเอ็ดโมงกว่า  ขณะที่ตัวน้อยไปสวดพลมารีย์ในหมู่บ้าน   ตัวน้อยได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาล  และได้คุยกับคุณหมอ  คุณหมอแจ้งผลตรวจชิ้นเนื้อ  และบอกว่า  ตัวน้อยเป็นมะเร็ง   ให้มาพบ  และคุยกัน  เห็นหน้า  ดีกว่าคุยกันทางโทรศัพท์ 
ตอนไปตรวจ  ตัวน้อยไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน  แต่คุณหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาล  ใกล้บ้านตัวน้อยเดินแค่สิบ สิบห้านาที   หลังสวดพลมารีย์เสร็จ  ตัวน้อยจึงเดินไปพบคุณหมอ  พร้อมกับพี่พลมารีย์  คือพี่แบบอย่างที่หนึ่ง  กับพี่ในหมู่บ้านที่น่ารัก  และเอ็นดูตัวน้อย มาก ๆ  อีกคนหนึ่ง 
พระเจ้าทรงประทานสถานที่ ที่รักษาใกล้บ้าน  แถมคนดูแลตัวน้อยตั้ง...สองคนคน  เห็นไหมคะ...พระเจ้าน่ารักเพียงใด   รัก  และเมตตาตัวน้อยแค่ไหน  คิด ...คิด..คิด..ทำไมน้า   สงสัย  เพราะตัวน้อยนักบุญโยอันนา  ซึ่งมาจากคำว่า   ยอห์น  ซึ่งแปลว่า  ผู้เป็นที่รัก  ของพระเจ้า  เปลี่ยนชื่อนักบุญเป็นยอห์นให้หมดเลยไหมคะ  จะได้เป็นที่รักของพระเจ้าเหมือน ๆ กัน...แฮะ ... แฮะ.....  ไม่อยากถูกรักอยู่คนเดียว    แต่จริง ๆ แล้ว    พระเจ้าก็ทรงรักทุกคน  ในแบบที่แต่ละคนต้องการให้รัก  เพราะพระองค์เป็นทุกสิ่งสำหรับทุกคน  เทียบโคโลสี 3:11.......ใช่ไหมคะ  พระเจ้าข้า.....
เมื่อไปพบ  และได้คุยกับคุณหมอ  คุณหมอก็อธิบายถึงอาการ  โดยเฉพาะการรักษา  คือวิธีที่ดีที่สุด  คือ  ตัดเต้านมนั่นเอง  เพราะถ้าไม่ตัด   นอกจากรักษาด้วยคีโม  แล้ว  ต้องฉายแสงด้วย
ตัวน้อยเป็นคนขยันน้อย  ไม่ชอบอะไรยุ่งยาก  หรือลำบาก  รักสบาย  เพราะสบายจนเคยตัว  พี่พลมารีย์ก็ตัด  พี่สาวตัวน้อยก็ตัด  ตัวน้อยก็ตัดด้วยก็แล้วกัน  ไม่ต้องคิดมาก
สิ่งที่คิดมาก  คือ  ตัดที่โรงพยาบาลไหนดี  รัฐบาล  หรือเอกชน  จึงต้องชั่งใจ  แต่ตัวน้อยก็มีเวลา  เพราะได้ปรึกษาคุณหมอว่า  ขอทำงานอีกทัวร์   และขอไปแสวงบุญที่จันทบุรีก่อน  คุณหมอเห็นว่า  ภายในหนึ่งเดือน  ก็ยังทัน  ไม่น่ามีปัญหาอะไร  ตัวน้อยจึงได้ทำ  ในสิ่งที่อยากทำก่อน  เพราะตอนนั้นคิดว่า  อาจจะเป็นทัวร์สุดท้าย  ทั้งการทำงาน  และการท่องเที่ยว
เมื่อต้องชั่งใจระหว่างโรงพยาบาลรัฐบาลใกล้บ้าน  ใช้สิทธิบัตรทอง  ไม่เสียค่าใช้จ่าย  ถ้าใช้สิทธิประกันส่วนตัวที่มี ก็ต้องจ่ายก่อน  เคลม คืนได้ทีหลัง  แต่ห้องพักฟื้น  ที่จะได้ห้องเดี่ยวพิเศษคงจะยาก  ถ้าได้อยู่ห้องรวม...... คงต้องลำบาก กาย  และใจ  ถ้าได้ห้องเดี่ยว  พี่พลมารีย์  พี่ในหมู่บ้าน  บอกว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อน  น่ารักจริง ๆ พระเจ้าทรงดูแลลูกของพระองค์ดีจริง ๆ  ขอบพระคุณพระองค์  พระเจ้าข้า
ถ้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชน  ค่าห้อง  ค่ารักษา  คงจะเกินส่วนที่เบิกบริษัทประกันได้   แต่ก็ใช่ว่า  ตัวน้อยจะจ่ายไม่ได้  แต่ก็ไม่สะดวก  เรื่องคนที่เฝ้าไข้
คุยไปคุยมา กับพี่สาว พี่สาวจึงแนะนำให้มาผ่าตัดที่โรงพยาบาลใกล้บ้านพี่สาว  แต่ไกลจากบ้านตัวน้อย  ไปกลับ  เกือบแปดสิบกิโลเมตร   ตรวจสอบค่าใช้จ่าย  ไม่แพงมาก  และสิทธิ์การเบิกประกันครอบคลุม  
และปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจก็คือ  ไม่ว่าตัวน้อยจะตัดสินใจ  ผ่าตัดที่ไหน  พระเยซูเจ้าจะทรงดูแลตัวน้อย  พี่วิญญาณนำสารจากพระเยซู  มาบอกตัวน้อย  ตัวน้อยสบายใจ  หายกลัว  หายหวั่นวิตก   แค่วางใจในพระองค์  ตัวน้อยก็เป็นสุข  เกิดสันติสุขในหัวใจ.....
                ทำให้ตัวน้อยตัดสินใจผ่าตัดโรงพยาบาลเดียวกับพี่สาว  ซึ่งได้ผ่าตัดก่อนตัวน้อยสามอาทิตย์   พี่สาวพอจะแข็งแรง  ก็นอนเฝ้าน้องสาวคนเล็กที่เพิ่งผ่าตัด   พอพี่สาวกลับไปทำงานได้  ก็ให้หลานสาวสองคนผลัด กันมาเฝ้า 
 มีอะไรก็คุยกัน  ปรึกษา  แนะนำกัน  ดูแลกัน และกัน   สองพี่น้องคุยกัน  กระหนุง กระกนิง  หัวเราะกันเอิกอ้าก   ลันลามาก  ทั้งพี่  ทั้งน้อง.....
                คุณหมอ  หรือแม้แต่พยาบาลก็แปลกใจ  พี่สาวคนโต  น้องสาวคนเล็ก  อายุห่างกันแปดปี  ป่วยเป็นมะเร็งพร้อมกัน  เป็นที่เต้านม  เหมือนกัน  เป็นระยะสอง  เหมือนกัน  พี่สาวเป็นข้างซ้าย  ตัวน้อยเป็นข้างขวา   แต่เราสองคนกำลังใจดีมาก ๆ  คนที่มาเยี่ยม  หรือคุยทางโทรศัพท์  ทักเสมอว่า  เหมือนเราไม่ได้เป็นอะไรเลย
                ตัวน้อยแอบสงสัยเล็ก ๆ ว่า ที่สองพี่น้องป่วยพร้อมกัน  เพราะตัวน้อยสวดขอพระเยซูรับการป่วยนี้แทนพี่สาว  หรือพระเยซูทรงให้พี่สาวเป็นแบบอย่างการเจ็บป่วยของตัวน้อย  กันแน่น้า.... คิดถึงคำพูดของนายชุมพาบาลที่หนึ่งที่ว่า    ใครเล่าจะล่วงรู้แผนการณ์ของพระเจ้า...  ผู้อ่านที่รักของตัวน้อยคิดอย่างไรคะ....
                โดยเฉพาะตัวน้อย  ผ่าตัดวันแรก  ฟื้นขึ้นมา  ก็ช่วยตัวเองได้เข้าห้องน้ำเองได้  รู้สึกเจ็บ ตอนฟื้นนิดเดียว  พอหมอให้ยาแก้ปวดเข้าทางสายน้ำเกลือ  ก็หาย  อีกสองวัน  หมอหยุดให้ยาแก้ปวด  ตัวน้อยก็ไม่ได้ขอยาเลย    ตัวน้อยไม่ได้เจ็บแผล   คงเป็นเพราะคำภาวนามากมาย  และพระเมตตาเยียวรักษาตัวน้อยนั่นเอง.....
                หรือเป็นเพราะพระเมตตา  ประทานตามที่ตัวน้อยขอ  ขอรับการเจ็บป่วยแทนพี่สาว  พระองค์จึงทรงจัดให้คนละสอง  เป็นแอกที่ไม่หนักเกินเราจะแบกจริง ๆ   ขอขอบพระคุณพระองค์  พระเจ้าข้า  เพราะพระวาจา  มีสอนไว้ว่า  จงขอบคุณพระเจ้าในทุกกรณี...
                พี่สาวของตัวน้อยต้องคีโมแปดครั้ง  เพราะเป็นชนิดร้ายแรงกว่าตัวน้อย (พันธุ์ ดุ)   ขณะที่ตัวน้อยนอนอยู่โรงพยาบาล  ซึ่งเป็นวันที่ห้าหลังจากพี่สาวทำคีโมครั้งแรก  พี่สาวมีอาการปวดท้อง  ท้องเสีย  คลื่นไส้  เบื่ออาหาร  ทำงานไม่ไหว  จึงมาโรงพยาบาล  คุณหมอกรุณาจัดให้เราได้อยู่ห้องเดียวกัน  คราวนี้  เป็นคราวที่ตัวน้อยแข็งแรงกว่า  ตัวน้อยก็เป็นคนดูแลพี่สาว   ก่อนนอน ทางโรงพยาบาลจะให้ยานอนหลับ  ตัวน้อยไม่รับประทาน  เพราะถ้าหลับสนิท  จะไม่สามารถดูแลพี่สาวได้  ถ้าพี่สาวต้องการความช่วยเหลือ  มีน้องสาวอย่างนี้  พอจะน่ารักไหมคะ  อยากได้ตัวน้อยเป็นน้องสาวสักคนไหมคะ....แฮะ..แฮะ...
                ตัวน้อยเข้าออกโรงพยาบาลสองรอบ  รวมยี่สิบวัน  เพราะการไหลของน้ำเลือด  และน้ำเหลืองมีปัญหา   ตัวน้อยโมทนาขอบพระคุณพระเจ้ามาก ๆ เลย   ที่ให้ตัวน้อยได้อยู่โรงพยาบาลนาน ๆ เพราะกลับมาอยู่บ้าน  ก็ต้องดูแลบ้าน  ดูแลตัวเอง   ไม่สบายเท่าอยู่โรงพยาบาลอย่างแน่นอน   และการไปนอนโรงพยาบาลตัวน้อยยังใช้สิทธิ์ประกัน  และได้ค่าชดเชยอีกต่างหาก  ใครป่วย  แล้วได้ตัง  คงอยากป่วยนาน ๆ เหมือนตัวน้อย  ใช่ไหมคะ.....
                ตอนนี้  ตัวน้อยกำลังกลุ้มใจ  เพราะมีน้ำค้างอยู่ในแผล  อีกสองวันถึงจะไปพบคุณหมอ  เพื่อปรึกษา  และทำคีโม  รวมถึงต้องฉายแสงอีกหรือไม่  ใจจริง ๆ ของตัวน้อย  ตัวน้อยไม่อยากรักษาคีโมเลย  แต่ หลาย ๆ คน ได้แนะนำ  เชิงดุ เตือนให้ตัวน้อยรักษา  ตัวน้อยจะตัดสินใจ  รักษาคีโม  หรือ ไม่ กรุณาติดตามตอนต่อไปนะคะ
ดูแลตัวเองให้แข็งแรง  ทั้งกาย  ใจ  และวิญญาณด้วยนะคะ  ตัวน้อยเป็นห่วง  ไม่อยากให้ใคร ๆ ต้องเจ็บป่วยเหมือนตัวน้อยเลยจริง ๆ ...รักนะ  จุ๊บ...จุ๊บ...
เราต้องการเจ้า  ช่วยเหลืองานของเรา  ในการกอบกู้  และทำให้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์  คู่มือพลมารีย์  หน้า 69
เข้าใจเถิดว่า  ความทุกข์ยากของมนุษย์  มิใช่การลงทัณฑ์เลย  เหตุว่าความลำบากมีคุณลักษณะ  เป็นยาขมทรงสรรพคุณดีต่างหาก  นักบุญเอากุสติโน
ความรู้สึกทรมานนี่แหละ   แสดงว่า  มีพระคริสตเจ้าประทับอยู่ใกล้ ๆ แล้ว  คู่มือพลมารีย์  หน้า 74
ท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง ลูกา 10:27
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าอย่างผู้เลี้ยงแกะ  ข้าพเจ้าจึงไม่ขาดสิ่งใด  สดุดี 83:1
ขอโมทนาขอบพระคุณพระองค์จากทั้งหมดของหัวใจ  พระเจ้าข้า  ขอโปรดให้ลูกได้สัมผัสความรัก  และพระเมตตาของพระองค์ทุกวันเวลา  ทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
11.07.2555  เขียนเสร็จ.
15.07.255  เขียนเพิ่ม  และส่งเมล
พบกันใหม่วันพฤหัสบดี  กับเรื่องที่72: สารจากพระเยซู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น