วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 143: หนังสือสื่อรัก

143. สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                เช้าวันอังคารที่ได้หยุด  ตัวน้อยรู้สึกตัวตื่นตีห้าครึ่ง... ถ้าตื่นเวลานี้ก็คงเป็นพระประสงค์ให้ตัวน้อยไปมิสซาเช้าอ่านบทอ่านทำพันธกิจประกาศพระวาจา  เมื่อกลับมาบ้านดูแลบ้านเหมือนแม่พระ จากนั้นสังสรรค์รับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนกลุ่มวิถีชุมชนบ้านตัวน้อย  เราไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันนานแล้ว  เพราะตัวน้อยทำทัวร์  
หลังจากนั้นว่างก็อ่านพระคัมภีร์  และได้รับคำสอนดี ๆ มากมาย  เมื่อจะเขียนทักทายผู้อ่านที่รัก  ไม่ทราบจะเขียนอะไรดี เพราะเหมือนกันทุกทีว่า ขอขอบคุณทุกเมลดี ๆ ที่แบ่งปันมาให้  ตัวน้อยก็ขอแบ่งปันการเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิตของตัวน้อยต่อไป  เมื่อตัวน้อยอ่านพบพระวาจานี้  จะให้ตัวน้อยไม่เขียนงาน  ส่งเมลแบ่งปันต่อได้อย่างไร  พระวาจาตรัสอย่างไร อ่านด้วยกันนะคะ......
จงเป็นแบบอย่างแก่ผู้มีความเชื่อทุกคนด้วยคำพูด  และความประพฤติด้วยความรัก  ความเชื่อ  และความบริสุทธิ์ของท่าน  จงเอาใจใส่อ่านพระคัมภีร์ให้ประชาชนฟัง...จงอย่าละเลยพระพรพิเศษที่มีอยู่ในท่าน... 1 ทิโมธี 4:12-14
จงหลีกเลี่ยงการถกเถียงเรื่องไร้สาระที่ไม่เกี่ยวกับพระเจ้า 1 ทิโมธี 6:20
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติประทานสันติแก่ท่านทั้งหลายทุกเวลา และทุกวิถีทาง  ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับทุกท่านเถิด 2 เธสะโลนิกา 3:16
อาแมน.
 เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน        
เรื่องที่ 143:  หนังสือสื่อรัก
จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า  พระเจ้าของท่าน  และรับใช้พระองค์  แต่เพียงผู้เดียว เท่านั้น มาระโก 4:10
เวลาที่ตัวน้อยทำทัวร์  ตัวน้อยคิดเสมอ  สวดภาวนาขอพระจิตเจ้าเสมอ  ว่าจะเผยแผ่ประกาศข่าวดีของพระเยซูคริสตเจ้าได้อย่างไร....
                สิ่งแรกที่ตัวน้อยทำ  คือ  การประกาศตัวว่า  เป็นคริสตชนก่อน  โดยเวลาที่อธิบายให้ลูกทัวร์ฟังถึงประเทศไทยว่ามีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ  มีพุทธศาสนิกชนประมาณ  95%    อิสลาม 4%   และคริสต์ 0.6%     และดิฉันก็เป็นหนึ่งใน 0.6%  นี้ด้วย  ตั้งแต่สมัยปู่ยาตายาย.....
เมื่อก่อนที่ตัวน้อยจะคืนดีกับพระเจ้า  ไม่กล้าประกาศตัวว่าเป็นคริสตชน  เพราะยังทำผิด  ทำบาปอยู่มาก  หลังจากคืนดีกับพระเจ้าแล้ว  พยายามทำดีให้มาก  พยายามไม่ทำบาป  ทำผิดให้น้อยมื่อทำผิด  ทำบาป ก็สำนึกผิด  แก้บาปด้วยการรับศีลอภัยบาป  แก้ไข  พยายามไม่ทำผิดอีก และทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
                แล้วด้วยพระวาจาในหัวใจที่ว่า  .....
จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง  และท่านอยากให้เขาทำกับท่านอย่างไร  ก็จงทำกับเขาอย่างนั้นเถิด มัทธิว 7:12
                ตัวน้อยจึงทำงานด้วยความรักต่อลูกทัวร์ ยิ้มแย้มแจ่มใส มีแววรักและเมตตาในดวงตา  ดวงตาซึ่งเป็นหน้าต่างของหัวใจ  หัวใจที่รักพระเจ้า  จึงรักผู้อื่น  และพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกทัวร์เหมือนที่ตัวเองต้องการเมื่อไปเที่ยวในฐานะลูกทัวร์ เช่นการพาทัวร์ให้รวดเร็ว  ไม่ต้องรอรถ  รออาหาร หรือเครื่องดื่มนาน ๆ   นำทัวร์ให้ราบรื่น ด้วยการทำงานอย่างรอบคอบ  มีประสิทธิภาพ  และใช้สิตปัญญา  รวมถึงสวดภาวนาขอพระหรรษทานแห่งพระจิตเจ้า ทรงนำ  และคุ้มครอง ตัวน้อย  ลูกทัวร์ รวมถึงเพื่อนร่วมงาน  ซึ่งก็คือคนขับรถ   และให้เวลาลูกทัวร์มีอิสระที่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ  เช่นถ่ายรูปตามใจชอบ  การเดินชมความงามของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งตามสบาย  หรือเที่ยวชมซื้อของร้านค้าต่าง ๆ  ผู้อ่านที่รักอยากเป็นลูกทัวร์ของตัวน้อยไหมคะ.....
                เมื่อตัวน้อยอบรมครูคำสอน  ภาคฤดูร้อนตอนปีที่แล้ว(2555)  สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อสอน  และอยู่ใน หัวใจตัวน้อย  คือ  คุณพ่อสอนให้เราใช้ในสิ่งที่มี ณ ขณะนั้น  และนำมาใช้กล่าวถึง แบ่งปัน เพื่อเผยแผ่ ประกาศข่าวดีของพระเจ้า  และในปีการศึกษาปีที่สองนี้ (2556)  คุณครูสอนเราในเรื่องนี้เช่นกัน  คุณครูให้เราแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ  กลุ่มของตัวน้อยมีสามคน  เพื่อนสองคน ถอดนาฬิกาออกมา  เราจึงวางนาฬิกาในลักษณะของไม้กางเขน  ตัวน้อยถอดแหวนประคำนิ้วนางข้างขวาวางไว้ตรงกลางที่นาฬิกาไข้วกัน  และเป็นตัวแทนกลุ่ม  ประกาศข่าวดีถึงพระเจ้าว่า
 “นาฬิกา  ก็เปรียบเหมือนเวลาของชีวิตที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา  เราจึงควรมีชีวิตทุกเวลานาที  เพื่อพระเจ้า ด้วยการแบกกางเขนของตน  ติดตามพระเยซูเจ้า  แหวนเปรียบเหมือนความรักของพระเจ้าที่ทรงโอบอุ้มเราไว้  จากทุกสรรพสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงเตรียมให้มนุษย์  คงบอกเราได้ว่าพระเจ้ารักเรามากเพียงใด  ขอรักพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจ  แหวนวงนี้  แทนหัวใจนี้...เพื่อรักพระองค์  ชีวิตนี้...เป็นของพระองค์”.... กิ้ววว... อะไรประมาณนี้  ตัวน้อยจำไม่ค่อยได้แล้ว  ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง... แต่จำสีหน้าของคุณครูได้ว่าคุณครูยิ้มหวานให้ตัวน้อยเพียงใด
                ด้วยการสอนที่ได้รับมาว่า  ให้ใช้สิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์  สิ่งที่มีประโยชน์มาก ๆ  สำหรับตัวน้อย  คือหนังสือศรัทธา  งานไกด์เป็นงานที่ต้องทำคนเดียว  หลาย ๆ ครั้ง ที่ต้องอยู่คนเดียว เช่นเมื่อเวลาที่ปล่อยลูกทัวร์เที่ยวชมตามอิสระ  เพื่อนของตัวน้อยในยามว่าง  ไม่มีใคร นอกจากการรำพึงภาวนา คุยกับพระเยซูแล้ว  และหนังสือ 
ก่อนที่จะคืนดีกับพระเจ้า  ตัวน้อยจะมีหนังสือละครโทรทัศน์ติดตัวตลอด  อ่านเสร็จก็ให้คนอื่น ๆ อ่านต่อ เมื่อคืนดีกับพระเจ้า  แรกๆ เพื่อนใหม่ของตัวน้อยคือพระคัมภีร์  อ่านคร่าว ๆ เพื่อเรียนรู้จักพระเจ้าจบแล้ว  จึงอ่านหนังสือศรัทธาต่าง ๆ
ละคร  โทรทัศน์  ไม่มีความหมายสำหรับตัวน้อยอีกต่อไป  ดูก็ดูไปอย่างงั้น  พระวาจาต่างหาก  หนังสือศรัทธาต่างหาก  ที่สำคัญ  และน่าสนใจ  เปรียบเหมือนขุมทัรพย์ที่ยิ่งขุด ยิ่งหา ก็ยิ่งพบ อะไรดี ๆ  มีชีวิตนิรันดร  เป็นบำเหน็จรางวัลด้วย  ของขวัญที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ น่าไข่วคว้าจริง ๆ  ใช่ไหมคะ....
ข้าพเจ้าเห็นว่า ทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีก  เมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู  องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า  ข้าพจึงยอมสูญเสียทุกสิ่ง  ข้าพเจ้าเห็นว่า  ทุกสิ่งเป็นปฏิกูล  เพื่อจะได้องค์พระคริสตเจ้ามาเป็นกำไร  ฟิลิปปี  3:8
                อย่างเช่นทัวร์นี้  ระหว่างลูกทัวร์กำลังขี่ช้าง  ตัวน้อยรออยู่กับลูกทัวร์คนหนึ่ง  ซึ่งเป็นคนติดหนังสือเหมือนกัน (ทำงานมายี่สิบกว่าปี  เพิ่งพบเป็นคนแรก)  ตัวน้อยจึงชวนคุย  ว่า “คุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับอะไรคะ”  ลูกทัวร์ก็ตอบ  แล้วตัวน้อยหยิบหนังสือของตัวเองออกมา (ขุมทรัพย์ในภาชนะดินเผา เล่มสาม  ตัวน้อยเพิ่งศรัทธาได้ไม่นาน  ซื้อเล่มสี่ได้ก่อน เมื่อหนังสือเพิ่งออก  คุณพ่อวัดใกล้บ้านตัวน้อยนำมาช่วยขาย  ตัวน้อยก็ช่วยซื้อ  อ่านแล้วชอบมาก  จึงตามหาซื้ออีกสามเล่ม เล่มไม่ใหญ่  พกพาสะดวก  เนื้อหาสนุก เข้าใจง่าย  ตัวน้อยขอแนะนำ  ลองหาซื้อมาอ่านกันนะคะ)
ตัวน้อยบอกกับลูกทัวร์คนนี้ว่า “ฉันก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือเรื่องราวเกี่ยวกับคริสตศาสนา”  แล้วตัวน้อยก็เล่าเรื่องจากภาพปกให้ลูกทัวร์ฟัง  ซึ่งเป็นภาพ ที่แม่พระและพระเยซู ไปร่วมงานแต่งงานของญาติ  และเหล้าองุ่นหมด  แม่พระจึงขอให้พระเยซูเจ้าทรงทำอะไรสักอย่าง แล้วพระเยซูก็ทรงทำอัศจรรย์แรก   ด้วยการเปลี่ยนน้ำธรรมดาให้เป็นเหล้าองุ่นรสเลิศ
                ตัวน้อยเล่าให้ลูกทัวร์ฟัง  เหมือนเล่านิทาน  เพื่อให้เขาฟังง่าย ๆ และไม่ต่อต้าน  ขอพระจิตเจ้าทรงทำงานต่อให้เขาได้รู้จัก  ได้รับรู้ถึงเรื่องราวพระเยซูเจ้า  ผู้ทรงเป็นมนุษย์แท้  และพระเจ้าแท้  และทรงรักเขามาเพียงใด  การที่เขาได้มาเป็นลูกทัวร์ของตัวน้อย ทั้ง ๆ ที่ไกด์ของบริษัทมีหลายสิบคน ก็เพราะพระเจ้าทรงเลือกเขา  และเรียก  เชื้อเชิญให้เขาได้รู้จักพระองค์ผ่านทางตัวน้อย  ใช่ไหมคะ...
                พระเจ้าทรงสอนให้เราเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืด  ความมืดเปรียบได้กับอะไรคะ  เปรียบได้กับชีวิตที่ปฏิเสธพระเจ้า  ชีวิตที่เป็นทาสของบาป  ชีวิตภายใต้แอกของซาตาน 
ผู้ที่ไม่มีความเชื่อ  ซาตาน..พระของโลกนี้  ทำให้จิตใจของคนเหล่านั้นมืด  เพื่อมิให้เขาแลเห็นแสงสว่าง  คือข่าวดีเรื่องพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า  2 โครินทร์ 4:4
ชีวิตคริสตชนต้องเป็นแสงสว่าง  เป็นเชื้อแป้งฟู  เป็นเกลือดองแผ่นดิน  เป็นความดี  เป็นความรัก  ของพระเจ้า และนำพระเจ้าไปสู่ชีวิตผู้อื่น  เพื่อนำตัวเอง  และทุกวิญญาณได้รอดพ้น กลับสู่สวรรค์  บ้านแท้นิรันดรของเรา  ใช่ไหมคะ....
มนุษย์...  ผู้ซึ่งเป็นบุตรของพระเจ้าผ่านทางพระเยซู  และศีลล้างบาป  มนุษย์ ...  ผู้เป็นฉายาลักษณ์ของพระเจ้า  วันหนึ่งเราจะกลับไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ 
ณ แผ่นดินโลกนี้  ขอพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับเรา  ผ่านทางศีลมหาสนิท  รับศีลมหาสนิทกันบ่อย ๆ นะคะ   เพื่อขอให้พระเยซูเจ้าเติบโตในชีวิตเรา จิตสนิทกับพระองค์ด้วยการรำพึงภาวนา  และ เมื่อการเดินทางจาริกบนโลกนี้จบลง  ขอเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ตลอดนิรันดร์  อาแมน.
ท่านเป็นของพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว  เพราะพระองค์ทรงเรียก  โรม 1:5
จงถวายทุกส่วนของร่างกาย  แด่พระเจ้า  เป็นเครื่องมือในการประกอบความชอบธรรม โรม 6:13
เรามิได้ประกาศเรื่องตนเอง  แต่ประกาศว่า  พระคริสตเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า  ส่วนเราเป็นเพียงผู้รับใช้ท่านทั้งหลาย  เพราะความรักต่อพระเยซูเจ้า 2 โครินธ์ 4:5
ทุกสิ่งล้วนมาจากพระองค์  โดยทางพระองค์  เพื่อพระองค์  ขอพระสิริรุ่งโรจน์  จงมีแด่พระองค์ตลอดนิรันดร  อาแมน.  โรม 11:36
ลูกแกะตัวน้อย
12. 07. 2556  เขียนเสร็จ
30.07.2556   เขียนเพิ่ม  และ ส่งเมล
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับเรื่องที่ 144: พระจันทร์ข้างแรม
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน

http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE --à CATHOLIC BY MY STORY                   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 142: ใจเกเร

142. สวัสดีคะ   ผู้อ่านที่รัก
                สบายกันดีไหมคะ  งานยุ่งมากไหมคะ เหนื่อยไหมคะ ยังมีความสุขอยู่ใช่ไหมคะ ยังยิ้มได้ไหมคะ  ยังทำให้คนอื่น หัวเราะได้ไหมคะ......
  ตั้งแต่ตัวน้อยป่วย และได้กลับมาทำงาน  ทำให้รู้สึกว่า  ชีวิตการทำงาน แม้เหนื่อยยาก ปัญหาต่าง ๆ ทำให้ท้อแท้  เบื่อหน่ายบ้าง  แต่ก็สนุก  และมีความสุข กว่าตอนป่วยมากมาย  อย่าลืมขอบคุณพระเจ้านะคะ ที่ยังแข็งแรง และทำอะไร ๆ ได้ ก็ทำ  เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง  เผื่อวันพรุ่งนี้ไม่มีมาถึง...
ตัวน้อยทำงานทัวร์นี้  ก็สนุกมาก ได้ใจลูกทัวร์มาก  ด้วยพระวาจาที่พยายามหว่านลงในหัวใจลูกทัวร์  แล้วพระอาณาจักรของพระเจ้าก็มาถึงใจพวกเขา  ตัวน้อยได้รับน้ำใจตอบมากมาย  รายละเอียดเป็นอย่างไร กรุณารออ่านในเรื่องต่อๆ ไปนะคะ
ขอขอบคุณทุกเมลที่กรุณาส่งมาให้ ตัวน้อยดีใจเป็นพิเศษ  เพราะเมลพิเศษ จากคนพิเศษ ... พ่อครูของตัวน้อย  ชมการเขียนของลูกศิษย์มีพัฒนาการดีขึ้น และเมลนี้เป็นกำลังใจสำคัญ  เป็นเสมือนคำบัญชา ให้ตัวน้อยเขียนต่อไป  และต่อไป  ตัวน้อยก็จะพยายามเขียนต่อไป และต่อไป 
ถ้าเป็นความหวัง หรือเป้าหมายในใจ  เรื่องความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อยนี้ จะจบ....  พร้อมกับชีวิตของตัวน้อย  กรุณาอ่าน  ติดตามกันต่อไป  และต่อไปนะคะ ส่งเมลมาคุยกันบ้างนะคะ   ขอพระเจ้าตอบแทนทุกน้ำใจดี ร้อยเท่าพันทวี  ทั้งในแผ่นดิน  และในสวรรค์  อาแมน  ...
พระเยซูตรัสแก่เปโตรว่า  ท่านจะตื่นเฝ้าอยู่กับเราสักหนึ่งชั่วโมงมิได้หรือ  จงตื่นเฝ้า  และอธิษฐานภาวนา  เพื่อจะได้ไม่เข้าสู่การทดลอง  จิตใจพร้อมแล้วก็จริง  แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง  มัทธิว 26:41
คิดถึงกันในคำภาวนานะคะ
เอาหล่ะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 142: ใจเกเร
พระเจ้าข้า  สิ่งที่ข้าพเจ้าวอนขอ  คือโปรดให้ข้าพเจ้าได้รับพระหรรษทานที่จะพากเพียร  กระทำสิ่งนั้น (นักบุญ  โทมาส  โมร์)
                วันนี้ (05 กค.56)  ตัวน้อยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาดูนาฬิกา ตีห้าสี่สิบนาที จะไปวัดเช้าอ่านบทอ่าน...หรือ ... ใจนั้นอยากไปวัดหนึ่งทุ่มมากกว่า  เพราะคุณพ่อจะเทศน์แบ่งปันด้วยเรื่องเล่าดี ๆ ตัวน้อยชอบ  และ ตัวน้อยจะจดจำเรื่องเล่าได้ดี  กว่าคำสอนดี ๆ ทุกที  และที่สำคัญตัวน้อยก็จะมีเรื่องราวดี ๆ มาแบ่งปันต่อแก่ผู้อ่านที่รักของตัวน้อยด้วยคะ....
                อย่างเช่น  เมื่อวาน (04 กค.56)   เรื่องเล่าของคุณพ่อ  ความว่า
               
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช  กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่  ก่อนจะสิ้นพระชนม์  ได้สั่งเสียไว้สามประการ  คือ 
ประการที่ 1.  ให้คุณหมอเป็นคนเดินนำขบวนศพของพระองค์กลับไปหาพระมารดา  เพื่อทูลพระมารดาว่า  ได้ถวายการรักษาอย่างดีที่สุดแล้ว  แต่ไม่สามารถรักษาชีวิตพระองค์ไว้ได้
ประการที่ 2. ในงานพิธีปลงศพของพระองค์  ให้นำเงินทองเพชรพลอยอัญมณีทั้งหมดของพระองค์  มาโรยระหว่างทาง  แจกจ่ายแก่ประชาชน
ประการที่ 3 .ทรงสั่งให้ทหารคนสนิทเจาะโลงพระศพของพระองค์  เพื่อให้แขนทั้งสองยื่นออกมานอกโลง  เพื่อจะบอกกับทุกคนว่า  เราเกิดมามือเปล่า  เมื่อตายไป  ก็มีแต่มือเปล่า ๆ .......
                เรื่องเล่านี้  สอนให้รู้ว่า  จงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติในโลกนี้เลย  แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์  ด้วยการรับฟังพระวาจา น้อมรับ  พระประสงค์ของพระเจ้า  และปฏิบัติตามด้วยการพากเพียรในการกระทำความดีด้วยความรักต่อพระเจ้า  และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเองกันเถิด....
คนทั้งหลายที่ฟังพระวาจาของพระเจ้า  และปฏิบัติตามย่อมเป็นสุข  ลูกา 11:28
ท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง  ลูกา 10:27
เมื่อตัวน้อยตื่นแล้ว  ไม่ได้ไปวัดจึงอ่านไบเบิ้ลไดอารี่ของวันนี้  และสิ่งที่โดนใจตัวน้อยมาก ๆ เลย ...อ่านพบในส่วนของข้อคิด  ความว่า
จงมีความพากเพียรที่จะแสดงน้ำใจดีเสมอ  โดยการทำความดีปฏิบัติหน้าที่ตามประสาคริสตชน  (ข้อความจากหนังสือไบเบิ้ลไดอารี่ วันที่ 05 กค. 56)
                เมื่อได้อ่านดังนี้  ทำให้ต้องพากเพียรทำความดี   วันนี้  ตัวน้อยจะทำความดีอะไรถวายพระเจ้าดีน้า....อ๊ะ..วันนี้...(เพิ่งนึกได้)  วันศุกร์ต้นเดือนนี่นา  คุณพ่อจะส่งศีลมหาสนิทแก่ผู้ป่วย  คนชราที่ไม่สามารถมาวัดได้ทั้งในหมู่บ้าน  และนอกหมู่บ้าน  เป็นการเยี่ยนเยียน  และนำพระเยซูคริสตเจ้าในศีลมหาสนิทเพื่อหล่อเลี้ยง  เยียวยารักษากาย และวิญญาณให้อยู่ในศีล  และในพระหรรษทานของพระเจ้า  จนกว่าจึงวันเวลาที่พระองค์ทรงกำหนดไว้  เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ  เพื่อที่จะไม่พลาดสวรรค์นิรันดร....  ใช่ไหมคะ..
ตัวน้อย  ซึ่งนอกจากความเป็นคริสตชนแล้ว  ตัวน้อยเป็นพลมารีย์ด้วย  เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  ตัวน้อยไม่ได้เข้าประชุม  เพราะทำงานทัวร์  จึงไม่ได้รับมอบหมายงานอย่างเป็นทางการ  เลยหลงลืม   ด้วยใจเกเร  ว่าไม่ได้รับมอบหมายงาน  ก็ไม่ต้องตามไปส่งศีลฯ กับคุณพ่อก็ได้นี่นา....
ขณะที่นอนเล่นลันลาอยู่บนเตียง  เสียงในใจก็ดังด้วยพระวาจาที่ว่า
คนเกียจคร้านเอ๋ย เ จ้าจะนอนนานเท่าใด  เมื่อไรเจ้าจะลุกขึ้นจากการหลับ สุภาษิต 6:7

ทำให้ตัวน้อยนอนอย่างไม่ค่อยจะเป็นสุข  และคิดถึงเสียงในใจที่ได้ยินครั้งแรก  เมื่อกลับมาคืนดีกับพระเจ้าราวสามปีที่แล้ว  (14  กพ. 54)  และเริ่มอ่านพระคัมภีร์  เพื่อที่จะ เรียนรู้จักพระเจ้า  เมื่อตัวน้อยตระหนักรู้ว่า ตัวน้อยได้รับความรัก  และพระเมตตาจากพระเจ้ามากมายเพียงใด...
ในเช้าวันหยุดที่ยังนอนหลับไหล  ไม่อยากลุกไปจากเตียง  ตัวน้อยก็ได้ยินเสียงในใจว่า  “พระวาจาคือชีวิต  นอนไม่ได้ชีวิต”....  อุ๊ย....  อู้ฮู.... ทำให้ตัวน้อยลุกขึ้นมาอ่านพระคัมภีร์  และทำกิจประจำวัน
แล้ววันนี้  เพราะประโยคที่ว่า  ทำความดีปฏิบัติหน้าที่ตามประสาคริสตชน  ทำให้ตัวน้อยโทรศัพท์ไปหาพี่ที่จะไปร่วมส่งศีลฯ กับคุณพ่อ  นอกหมู่บ้าน  เพื่อจะถามเวลา  และขอตามไปด้วย ในพันธกิจของการรับใช้แม่พระในกิจการของพระเยซู  เพื่อให้พระประสงค์ของพระบิดาสำเร็จไป  ด้วยพระจิตทรงนำ.... พลมารีย์....ทหารของแม่พระ
ช่วงเวลาแห่งการเดินทาง  เราสามคน  คุณพ่อ  ตัวน้อย  และพี่พลมารีย์  คุยกันอย่างสนุกสนาน   ได้ไปเยี่ยนเยียน  พระเยซู ผู้เฒ่า  และเจ็บป่วย  หลายคน  ขอพระองค์ดูแลลูก ๆ ของพระองค์  เป็นพิเศษ  โปรดเติมในส่วนที่พวกเขาขาด  ขอพระจิตเจ้าภาวนาแทนตัวน้อย  เพื่อพวกเขาด้วยเทอญ  อาแมน.
สิ่งใดที่พอพระทัยพระนาง  ข้าพเจ้าทำเสมอ  ยอห์น 8:29
ข้าแต่พระเจ้า  ขอทรงกระทำให้ข้าพระองค์  รู้จักมรรคาของพระองค์  ขอทรงสอนวิถีของพระองค์แก่ข้าพเจ้าสดุดี 25:4
พระเจ้าทรงเป็นพระกำลัง  และเป็นโล่ของข้าพเจ้า  จิตใจข้าพเจ้า  วางใจในพระองค์  สดุดี 28:7
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเจ้าตลอดไป  สดุดี 34:1
อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
05.07.2556  เขียนเสร็จ.
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับเรื่องที่ 143:  หนังสือสื่อรัก
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE --à CATHOLIC BY MY STORY                   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ


เรื่องที่ 140: งานราตรีสัมพันธ์

140.  สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก

วันนี้ ( 09  กค. 56)  ตัวน้อยทำงานทัวร์เสร็จเร็ว  รีบขับรถกลับบ้าน ก่อนเวลางานบริษัททั้งหลายจะเลิก  เดี๋ยวรถจะติดมาก ๆ เมื่อกลับถึงบ้าน  สิ่งแรกที่ทำคือ เช็คเมล  เตรียมทักทายผู้อ่านที่รัก เพื่อส่งเรื่องตามนัด...วันอังคาร

  ขณะอ่านเมลได้ยิน เสียงฝนตก  ขอบคุณพระเจ้าที่ตัวน้อยไม่ต้องติดแง๊ก  อยู่บนถนน  เมื่อตอนขับรถกลับบ้านรถติดนิดหน่อย  ตัวน้อยยังขับรถไป  อ่านหนังสือไป เพราะยังสว่างมองเห็นตัวหนังสือ (หนังสือที่ตัวน้อยอ่าน คือ คำสอนสำหรับเยาวชน ซึ่งเป็นหนังสือที่ซื้อมาระหว่างอบรมครูคำสอน  เนื้อหาดีมาก ๆ  ขอเชิญชวนให้หาซื้อมาอ่านกันนะคะ)  สงสารคนที่ยังอยู่บนท้องถนน  ขอพระเจ้าเมตตา  และประทานพละกำลังแก่พวกเขาด้วยเทอญ .....

 เมื่อวาน  ตัวน้อยเสร็จงงานค่ำ  ขับรถ  รถติด  ก็ปิดตา  งีบสักหน่อย  กายเหนื่อย  แต่ใจยังตื่น  จึงสวดสายประคำพระเมตตา  ได้ยินเสียงคันหน้าเร่งเครื่อง จึงลืมตา  มาขับรถต่อ  ขับๆ ....หลับ ๆ .....จนถึงบ้านปลอดภัยอีกวัน  ขอบคุณพระเจ้าที่ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

ผู้อ่านที่รักของตัวน้อยคงวุ่นวายกับชีวิต  ตัวน้อยไม่ได้รับข่าวคราวเลย  ขอบคุณเมลดี ๆ ที่ยังส่งถึงกันอยู่  สบายกันดีไหมคะ  ตัวน้อยก็ทำงานทัวร์ ตาจะปิดตั้งแต่ เย็น  เหนื่อยก็รับประทานมากหน่อย  พักผ่อนให้มากอีกหน่อย  สวดภาวนาขอพระเจ้าซ่อมแซม  และเติมพลัง  หากยังมีวันที่ตื่นขึ้นมา (ตัวน้อยเกรงว่าจะไม่ตื่นในสักวัน)   ขอให้มีอะไรดี ๆ ทำถวายพระองค์ ตามพระประสงค์ให้เป็นที่พอพระทัย อีกวัน  และอีกวัน

ตอนนี้เพลงประจำใจตัวน้อย  คือ  อย่าดีกว่าของ ไมโคร  ยังจำกันได้ไหมคะ  รู้จักไหมคะ  เนื้อเพลงคือ

อย่าดีกว่า  ลืมเสียดีกว่า  ลืมเสียเรา  บอกตัวเอง  ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าดีกว่า  ลืมเสียดีกว่า  ลืมเสียเรา  บอกตัวเองได้แต่บอกตัวเอง  ว่าอย่าดีกว่า............

ตัวน้อยแปลงเนื้อ  กรุณาอ่าน  ด้วยทำนองของเพลงนี้นะคะ

อย่าดีกว่า  ลืมเสียดีกว่า  ลืมทุกข์ไป  บอกตัวเอง  ได้แต่บอกตัวเองว่า สุขดีกว่า เป็นทุกข์ทำไม  ลืมเสียเรา  บอกตัวเองได้แต่บอกตัวเอง  ว่ามีความสุข...... ร้องซ้ำไป ซ้ำมา  (ตัวน้อยไม่สงวนลิขสิทธิ์  ขอเชิญให้นำไปใช้ต่อได้   ด้วยใจยินดีคะ)

แล้วตัวน้อยก็จะมีความสุขเกิดขึ้นในหัวใจ   ยิ้มได้อีกครั้ง  เป็นหลักจิตวิทยา  เหมือนกับการสะกดจิตตัวเอง  เป็นใจสั่งใจ  ถ้าเราคิดว่า เราเศร้าใจ  เราก็จะพลอยเศร้าไปจริง ๆ แต่ถ้าคิดว่ามีความสุข  ใจเราก็จะมีความสุข  เริ่มทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุข  คิดในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข  และสามารถนำความสุข  ไปให้แก่คนรอบข้าง  ด้วยรอยยิ้ม  และคำพูดดี ๆ จากความคิดดี ๆ  จากหัวใจดี ๆ  ที่มีความรัก  อยู่เต็มหัวใจ  เพียงเพราะรู้ซึ้งว่าถูกรักมากเพียงใด  ใครเล่าจะรักเรามากกว่าที่พระเจ้าทรงรัก  แค่นี้ก็สุขเกินใคร  ใช่ไหมคะ......

โอ...คนเจ็บที่มีบุญ  พระเจ้าทรงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นเกียรติมงคลยิ่งใหญ่  ที่ท่านสมจะรับ  เพราะความเจ็บปวดของท่าน  คนอื่นสวดภาวนา  อดอาหาร  ตื่นเฝ้าไม่หลับนอน  โบยตนเอง  และทำงานใช้โทษบาปอื่น ๆ ก็ยังได้กุศลไม่เท่าเทียมท่าน  (นักบุญ เปโตร ณ อัลกันดารา  จากหนังสือคู่มือพลมารีย์  หน้า 317)

ตัวน้อยได้พบข้อความนี้  ทำให้รู้สึกว่า  การป่วยไม่ว่าเกิดขึ้ นกับใคร  ก็เป็นกุศลไม่ใช่น้อย  ใจยิ่งเป็นสุข  เป็นการป่วยที่มีคุณค่าจริง ๆ นะคะ  ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน  โดยเฉพาะคนเจ็บป่วย  ไม่ว่าฝ่ายกาย  ใจ  และฝ่ายวิญญาณ  ด้วยคำภาวนาคะ

รัก และคิดถึง ผู้อ่านที่รักของตัวน้อย  อ้อ  เป็นห่วงอีกนิดหน่อย  เพราะวางใจในพระเจ้า  พระองค์ทรงเลี้ยงดูลูก ๆ ของพระองค์อย่างดีที่สุดอยู่แล้ว....จริงไหมคะ...

เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน

เรื่องที่ 140: งานราตรีสัมพันธ์

“จงรับแอกของเราแบกไว้  และมาเป็นศิษย์ของเรา”  มัทธิว 11:29

กิจกรรมในระหว่างการอบรมครูคำสอนภาคฤดูร้อน  ที่ศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรม  ระดับชาติ ปี 2556  ที่ตัวน้อยขอแบ่งปัน  คือ งานราตรีสัมพันธ์  เป็นงานในคืนสุดท้ายของการอบรม  เพื่อเป็นการฉลอง และแสดงความยินดี กับนักศึกษาชั้นปีที่สามที่เรียนจบ  และจะรับวุฒิบัตร ในวันรุ่งขึ้น  รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของนักศึกษาทั้งสามชั้นปี

กิจกรรมเริ่มต้นขึ้นในตอนเย็น  อุ่นเครื่องด้วยกิจกรรมสันทนาการเล็กน้อย ตามด้วยพิธีกรรม ที่น่าประทับใจ คือให้รุ่นพี่ปีสาม  แต่ละคนถือเทียน และทำไปถวายที่โต๊ะบูชา  เหมือนเราได้ถวายตัว ด้วยชีวิตที่จะเป็นแสงสว่าง   แม้ตัวเองจะต้องหลอมละลาย จนกว่าจะหมดวันเวลาของตัวเองในแผนการณ์ของพระเจ้า  คือชีวิตที่ แบกกางเขน ติดตามพระเยซูเจ้า และสละน้ำใจตน  ให้มากขึ้น.. จากนี้ไป

หลังจากนั้น พี่ ๆ ปีสามนั่ง  น้อง ๆ ปีหนึ่งและปีสอง มอบของที่ระลึก  และผูกข้อมือ อวยพร  และร่ำลา
จากนั้นเป็นการแสดงของแต่ละชั้นปี  ปีไหนเริ่มก่อนนั้น  ตัดสินด้วยการขอให้พระคุณเจ้า คุณพ่อ ซีสเตอร์จับฉลาก  เป็นการเรียงลำดับการแสดงได้อย่างน่าอัศจรรย์

เริ่มต้นด้วยการแสดงของชั้นปีสอง เป็นจินตลีลา ในการแสดงเนื้อหาที่ว่า  ในกระแสนิยมโลก พระเจ้าทรงสร้างทุกสรรพสิ่งดี  และเมื่อมนุษย์คู่แรก อาดัม และเอวา ได้ทำบาปแรก คือจองหอง ไม่เชื่อฟังพระเจ้าที่มิให้รับประทานผลไม้ต้นหนึ่งในสวนเอเดน  ทำให้ถูกขับจากสวนสวรรค์  และต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยาก  แล้วพระเจ้าทรงเมตตา ส่งพระบุตรมาบังเกิด เพื่อไถ่กู้เราจากบาป ให้ได้คืนดีกับพระเจ้า  และสามารถกลับสู่สวรรค์บ้านแท้นิรันดรได้อีกครั้ง  จึงเป็นการเปิดประตูความเชื่อ ให้ผู้เชื่อในพระองค์ เป็นผู้หว่านเมล็ดพันธ์แห่งความรักของพระเจ้า  ลงในหัวใจของผู้คน ให้เจริญชีวิตในมรรคาสู่พระเป็นเจ้า

เราใช้เพลงประกอบสองเพลงคือ เพลงแรกเป็น เพลงมันส์ ๆ ทางโลก มีน้อง ๆ ผู้ชาย แต่งเท่ห์ เต้นมัน ๆ แบบอาย ๆ ให้สาว ๆได้กรี๊ด  นึกว่าเป็นนักร้องเกาหลีมาเอง  555  น่ารัก.....

เพลงที่สอง เพลง “เปิดประตูความเชื่อ”  น้อง ๆ ออกมีรีวิว ตามเนื้อหา ได้อย่างสวยงามน่ารัก เรียบง่าย ประหยัด  งดงาม  และมีคุณค่า   ตัวน้อยขอแบ่งปันเนื้อเพลงดี ๆ ให้ผู้อ่านที่รักได้อ่านกันด้วยนะคะ

เพลง ประตูแห่งความเชื่อ
1.    ดวงใจของเราพระเจ้าทรงหว่าน ด้วยเมล็ดพันธุ์แห่งข่าวดี
ดวงใจดวงเดิมดวงนี้ ที่องค์พระจิตส่องสว่างนำทาง
ให้ความเชื่อของเราเติบโต เป็นดั่งเช่นต้นไม้ใหญ่
ยืนหยัดมั่นคงดำรงอยู่ในความจริง
2.    พระวาจาที่พระมอบให้ คือพลังในทุกๆ วัน
พร้อมดำเนินชีวิตด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลพระหรรษทาน
เป็นตะเกียงที่ส่องประกาย เป็นเกลือที่เค็มมิคลาย
ประกาศถึงพระราชัยของพระองค์
เพราะความรักพระเจ้า ผลักดันเราวันนี้ ให้มีชีวีเพื่อเป็นพยาน
ก้าวเข้ามาสู่ประตูแห่งความเชื่อที่รอเราอยู่
เปิดหัวใจและมองดูจะรับรู้ถึงพระเมตตา
โปรดนำเราในทางแห่งความหวัง รักและศรัทธา
ให้เรารู้ว่า ความเชื่อนั้นสร้างชีวิตให้สวยงาม
**ให้ทุกคนได้เข้ามา สู่ความรักที่แสนยิ่งใหญ่
เปิดหัวใจของทุกคนให้รับรู้ถึงพระเมตตา
บอกเรื่องราวความรักที่เรานั้นรับรู้เรื่อยมา
ให้ทุกๆ คนรู้ว่า พระเจ้านั้นทรงรักเรามากเท่าไร
ให้ความเชื่อนั้นได้เติบโตในใจทุกคน

การจับฉลากด้วยพระจิตเจ้าทรงเลือกสรร.... ต่อไปเป็นการแสดงของน้องปีหนึ่ง  น้อง ๆ เล่นเป็นละคร เรื่องครูคำสอน มรณสักขีคนแรกของประเทศไทยซึ่งก็คือครูสีฟอง มีชื่อเต็มว่า... ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์

น้อง ๆ เล่นเป็นละครได้อย่างน่ารัก  สนุกสนานมาก ๆ เก่ง ๆ กันทุกคนเลย  เมื่อไรที่คิดถึงก็ยิ้มได้  ฮาดี.... ชอบ..ชอบ.... กด Like พันครั้ง

 ตัวน้อยขอแบ่งปัน ประวัติมรณสักขี บุญยราศี ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์  พอสังเขป

ข้อมูลจาก  GOOLE

ครูสีฟอง มีชื่อเต็มว่า... ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์
เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2450 ที่วัดนักบุญอันนา หนองแสง อ.เมือง จ.นครพนม เป็นบุตรชายของนายอินตอง และนางเพ็ง นายอินตองเป็นคริสตังกลับใจมาจากบ้านยานาง ที่อยู่ไม่ไกลจากหนองแสงมากนัก นายอินตองเคยสมัครเข้าบ้านเณร เป็นครูเรียนที่วัดหนองแสง ส่วนนางเพ็งเคยเป็นซิสเตอร์ เป็นคนมาจากซำเหนือ ประเทศลาว
ครูสีฟองได้รับการศึกษาขั้นต้น ที่โรงเรียนวัดหนองแสง เมื่อจบได้เข้าศึกษาต่อที่บ้านเณรเล็กพระหฤทัย บางช้าง จ.สมุทรสงคราม ขณะอายุได้ประมาณ 12-13 ปี เป็นเณรอยู่ประมาณ 3-4 ปี ล้มเจ็บลง ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ กรุงเทพฯ ขณะรักษาตัวอยู่นั้นครูคนหนึ่งมาเยี่ยม เห็นเณรสีฟองเหงาจึงชวนไปดูหนังด้วยกัน ซิสเตอร์ที่โรงพยาบาลตรวจพบว่า เณรสีฟองหนีออกไปชมภาพยนตร์ ได้รายงานผ่านคุณพ่อโชแรง ซึ่งเป็นเหรัญญิกของมิสซังกรุงเทพฯ ไปถึงคุณพ่ออธิการบ้านเณร คือคุณพ่อการ์ตอง เณรสีฟองจึงถูกสั่งให้พ้นสภาพเณร และส่งตัวกลับบ้าน เณรสีฟองต้องออกจากบ้านเณรด้วยความเสียใจและผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ท่านก็ไม่หมดหวังในชีวิต ได้สมัครเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดนครพนม เมื่อจบชั้นมัธยม ทางมิสซังต้องการครู ครูสีฟองจึงต้องออกจากโรงเรียนมาเป็นครูที่วัดสองคอน ลงเรือล่องไปตามน้ำโขง เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดในสมัยนั้น ท่านมาถึงสองคอนประมาณ ปี พ.ศ.2469 นอกจากจะสอนเรียนแล้ว ท่านยังสอนให้ชาวบ้านรู้จักตัดเสื้อผ้า ช่วยดูแลวัด ตลอดจนสอนคำสอนช่วยคุณพ่อเจ้าอาวาส และซิสเตอร์ด้วย
ครูสีฟอง แต่งงานกับมารีอา ทอง ชาวบ้านเชียงยืน เมื่อปี พ.ศ.2474 มีบุตรธิดา รวม 5 คน
ครูสีฟอง เป็นคนดี ศรัทธา สุภาพ อ่อนหวาน มีเมตตาต่อทุกคน ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ทำงานด้วยความทุ่มเท ท่านได้รับความเคารพนับถือมาก จนชาวบ้านเรียกท่านว่า "พ่อครู" และเรียกภรรยาของท่านว่า "แม่"
ครูสีฟอง ได้แสดงความเชื่อ ความมั่นคงในพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างกล้าหาญ เป็นแบบอย่างและนำผู้อื่นให้มั่นคงในความเชื่อ อันเป็นสาเหตุให้ท่านต้องจบชีวิตลงด้วยความโหดร้าย นับเป็นวีรกรรมสูงส่งที่ควรแก่การยกย่องสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง
ช่วงปลายปี พ.ศ. 2483 ได้เกิดกรณีพิพาทอินโดจีนขึ้นระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศส คริสตจักรโรมันคาทอลิกในประเทศไทยซึ่งอยู่ในความดูแลของบาทหลวงชาวฝรั่งเศสคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีสจึงถูกตั้งข้อรังเกียจไปด้วย การเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชนเกิดขึ้นหลายแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งที่หมู่บ้านสองคอน จังหวัดนครพนม ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดเป็นชาวคาทอลิก บาทหลวงปอล ฟีเก อธิการโบสถ์แม่พระไถ่ทาสซึ่งเป็นโบสถ์ประจำชุมชน ได้ถูกขับออกนอกประเทศ ครูสีฟอง อ่อนพิทักษ์ และซิสเตอร์อีก 2 คน คือ ซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข ซิสเตอร์คำบาง สีฟอง จึงช่วยกันดูแลความเชื่อของชาวบ้านแทน การเบียดเบียนยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ มีซิสเตอร์ถูกข่มขืน รูปศักดิ์สิทธิ์ถูกเหยียมหยามทำลาย ครูสีฟองจึงเขียนจดหมายร้องเรียนไปยังนายอำเภอมุกดาหาร แต่จดหมายนั้นกลับตกไปอยู่ในมือของตำรวจ ตำรวจจึงเขียนจดหมายปลอมว่านายอำเภอให้ครูสีฟองไปพบ ตำรวจลือ เมืองโคตร และตำรวจหน่อ พาครูสีฟองออกจากบ้านสองคอนตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พอเช้าวันที่ 16 ตำรวจลือก็ยิงครูสีฟองเสียชีวิตที่บ้านพาลุกา นับเป็นชาวไทยคาทอลิกคนแรกที่ได้พลีชีพเป็นมรณสักขี[3]

ตัวน้อยได้ดูละครที่น้อง ๆปีหนึ่งเล่น  ประวัติชีวิต ครูคำสอน  มรณศักขี ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์ ทำให้ตัวน้อยจดจำเรื่องของท่านได้อย่างชัดเจน  แบบอย่างชีวิตคริสตชนที่ติดตามพระเยซูเจ้า  ด้วยความเข้มแข็ง  และกล้าหาญ  คนที่รักพระเจ้าก็จะเป็นคนที่น่ารักแบบนี้  คือเป็นคนดี  สุภาพ  อ่อนหวาน  มีเมตตาต่อทุกคน เป็นคนตรงไปตรงมา  ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  และทุ่มเทในการทำงาน  เพื่อรับใช้พระเจ้า  และเพื่อนมนุษย์  จนกว่าชีวิตจะหาไม่....  ผู้รัก  ศรัทธา  รับใช้พระเจ้าด้วยการรับใช้เพื่อนมนุษย์  พากเพียร  กันต่อไป  สู้...สู้....  ตัวน้อยขอเป็นกำลังใจให้  อย่างน้อยในคำภาวนาคะ....

  การแสดงที่สาม  เป็นการแสดงปิดท้าย ด้วยมินิคอนเสริต ของพี่ปีสาม  อลังการ  งดงาม และสนุกมาก   เราน้อง ๆ ที่อยู่ข้างล่าง  ก็ร่วมมันส์... เต้นกันเย้ว...เย้ว...  แล้วการรับประทานอาหารเย็นก็เริ่มตอนค่ำ ประกอบ  การร้องคาราโอเกะกันอย่างสนุกสนาน เมื่องานจบก็ช่วยกันเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อย  พักผ่อนด้วยความสุข  อาลัย และประทับใจ

วันรุ่งขึ้นเป็นวันรับวุฒิบัตร  พิธีการ และสถานที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี  งดงาม เพื่อแสดงความยินดีกับพี่ปีสาม  เสียดายที่ตัวน้อยไม่ได้อยู่ร่วมในพิธี  เพราะไปรับน้องที่ป่วยออกจากโรงพยาบาล  ด้วยหัวใจของคนป่วยที่เข้าใจคนป่วยมากที่สุด  ตัวน้อยจึงดูแลน้องที่ป่วยอย่างใส่ใจ  และห่วงใย

ขอขอบคุณพระเจ้าที่ตัวน้อยได้ป่วย  ถ้าไม่ป่วยคงไม่เข้าใจความทุกข์...ทรมานทั้งกาย  และใจของคนป่วย....  ไม่ว่าอย่างไร  เมื่อป่วยก็ต้องรักษากันไป  คนป่วยก็ทำได้แค่อดทน กับอดทน  และ สวดภาวนาขอให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างสงบใจ  มีสันติสุขในใจ  และขอความชื่มชมยินดี  มาเป็นความหวานเติมชีวิตที่เฝื่อนขมทุกข์ระทมนี้ด้วยเทอญ....

ตัวน้อยกลับมาบ้านด้วยใจที่อาลัย  คิดถึงพี่น้องฝองเพื่อน ขอขอบพระคุณคุณพ่อ  คุณครู  เจ้าหน้าที่ทุกท่าน โดยเฉพาะซีสเตอร์อธิการที่เหน็ดหนื่อยมาก ๆ ปีนี้ท่านจำชื่อพวกเราเกือบสองร้อยคน  ทักทาย  เรียกชื่อได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ  กิจกรรมมากมายที่ท่านเตรียมจัดให้เราได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าจริง ๆ

ขอบคุณพี่น้องฝองเพื่อนทุกคน  โดยเฉพาะน้องในกลุ่ม  และพี่น้องชั้นปีสอง  ที่ดูแล  ห่วงใย  ตัวน้อยอย่างดี  ตัวน้อยได้สิทธิ์พิเศษ  เพราะไม่ค่อยแข็งแรง  เพิ่งเสร็จจากการรักษาโรคร้ายไม่นาน  เลยไม่ค่อยได้ทำอะไร  ไม่ทำอะไร  ทุกคนก็เข้าใจ  ตัวน้อยพยายามทำในสิ่งที่ตัวน้อยทำได้  ตัวน้อยได้รับการโอบอุ้มดูแลอย่างดี  ด้วยความรักของพระเจ้าผ่านทางพี่น้องฝองเพื่อน  ตลอดจนคุณพ่อ  คุณครู  และซีสเตอร์อธิการ  ก็ห่วงใย  และเป็นกำลังใจให้ตัวน้อย

 ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิตใจ  และขอขอบคุณพี่น้องฝองเพื่อน และทุก ๆ คนจากทั้งหมดของหัวใจ

หกสัปดาห์ที่กิน นอน เรียน เล่น  ด้วยกัน สร้างความผูกพันมิใช่น้อย  กลับมาอยู่บ้าน เหงาใจจัง...ปีหน้าพบกันใหม่นะคะ  .....

ปีหน้ากับการเรียนอบรมครูคำสอนภาคฤดูร้อน  ชั้นปีที่ 3 ปีสุดท้าย  ตัวน้อยคงมีเรื่องราวมากมายมาแบ่งปันให้ผู้อ่านที่รักได้อ่านกันอีก...  หวังว่า  ตัวน้อยจะยังแข็งแรงดี...  เรายังสวดภาวนาให้กันและกันอยู่ใช่ไหมคะ....

 “เมื่อมนุษย์สูญเสียการมองเห็นพระเจ้า  สันติสุขก็จะแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ และความรุนแรงก็เข้ามาครอบงำด้วยความโหดร้ายทารุณในแบบที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลย  สิ่งนี้เราเห็นได้ชัดเจนยิ่งแท้แม้กระทั่งในทุกวันนี้”  (ข้อความจากหนังสือพระเยซูแห่งนาซาเล็ธ  เล่ม 1 หน้า 171)

“เราจึงขอร้องท่าน  แทนพระคริสตเจ้าว่า  จงยอมคืนดีกับพระเจ้าเถิด” 2 โครินทร์ 5:20

“การอยู่ภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระเจ้า  มั่นคงปลอดภัยอยู่ในความรักของพระองค์  นั่นแหละคือความบรรเทาที่แท้จริง” (ข้อความจากหนังสือพระเยซูแห่งนาซาเล็ธ เล่ม 1  หน้า 175)

“พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนการร้องไห้ของข้าพเจ้าให้กลายเป็นความยินดี  และทรงห้อมล้อมข้าพเจ้าด้วยความชื่นชม”  สดุดี 29:12

ขอสรรเสริญพระเจ้าตลอดนิรันดร์ อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย
06.06.2556 เขียนเสร็จ
.09.07.2556 เขียนเพิ่ม และส่งเมล
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับเรื่องที่ 141: ไม่เข้าใจ
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE -- CATHOLIC BY MY STORY   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ
ปล.  ตัวน้อยขอช่วยประชาสัมพันธ์สองงาน  จากเมลที่ได้รับมา
1. สังฆมณฑลจันทบุรี และ กลุ่มพระเมตตาจันท์ฯ
                         จัดฟื้นฟูจิตใจประจำปีสำหรับสัตบุรุษ
                           วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2013
                                     08.00-16.00 น.
                 ณ วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า  อ.ขลุง  จ.จันทบุรี
ติดต่อคุณ  แดง (วรรณา สายสุทธิ์ 081-7825623)
2. กำหนดการงานเฉลิมฉลอง “ปีแห่งความเชื่อระดับชาติ”
วันศุกร์ที่ 19 - วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2013
ณ โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ สามพราน

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 หัวข้อ : “ความเชื่อกับเยาวชนคนรุ่นใหม่”

เวลา 08.00 - 15.00 น. หัวข้อ “ความเชื่อกับเยาวชนคนรุ่นใหม่”
กิจกรรมหลัก การชุมนุมของนักเรียนคาทอลิก

เวลา 17.00 - 21.00 น. ประกอบด้วย 2 กิจกรรม
1) การชุมนุมของเยาวชน ณ บ้านสวนยอแซฟ สามพราน
2) การชุมนุมครอบครัว ณ บ้านซาวีโอ สามพราน

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 หัวข้อ : “ความเชื่อคือบ่อเกิดแห่งกระแสเรียก”

เวลา 07.00 - 09.00 น. ทุกคนชุมนุมพร้อมกันที่หอประชุมเซนต์ไมเกิ้ล เพื่อ
รับประทานอาหารเช้า
ชมวีดีทัศน์ “ความเชื่อ - การประกาศข่าวดี”
พิธีศีลอภัยบาป
เคารพพระธาตุบุญราศี

เวลา 09.00 - 10.00 น. ขบวน “ธรรมยาตรา” แห่พระธาตุบุญราศี สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 พระธาตุบุญราศีทั้ง 7 แห่งสองคอน และพระธาตุบุญราศี คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง
จากหอประชุมเซนต์ไมเกิ้ล เคลื่อนขบวนสู่หอประชุมบุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2

เวลา 10.00 - 12.30 น.
* พิธีบูชาขอบพระคุณ และพิธีบวชสังฆานุกร
* พิธีแต่งตั้งผู้ช่วยพิธีกรรม และผู้อ่านพระคัมภีร์
* * * * * * * * * *
เชิญชมนิทรรศการกระแสเรียกจากคณะนักบวชและคณะกิจกรรมฆราวาสต่างๆ
ณ บริเวณโรงยิมโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ แผนกชาย

เรื่องที่ 141: ไม่เข้าใจ‏

141. สวัสดีคะผู้อ่านที่รัก
                ตัวน้อยได้หยุดหลายวัน  ตรงกับเสาร์อาทิตย์  ทำให้ ในวันเสาร์ตัวน้อยได้ไปร่วมฉลองแม่พระฟาติมา ซึ่งวันนั้น  เมื่อปีที่แล้ว (13 กค. 55) ตัวน้อยได้มีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์กลับใจ  และในวันต่อมา คือวันอาทิตย์  ตัวน้อยได้มีโอกาสไปฟัง ... “ เล่า... บรรเลง...ร้อง...” ซึ่งเป็นบทเพลงที่แต่งโดยคุณพ่อด้วยพรสวรรค์ ขั้นเทพ  สุดยอด  สองชั่วโมงฟังกัน...ซาบซึ้ง ...อิ่มไปถึงหัวใจ วันอังคาร ได้ไปวัดพระจิต  นานมากแล้วที่ไม่ได้ไปเพราะทำงานทัวร์  และเรียน
  ทั้งสามงานที่ตัวน้อยได้ไปร่วม หัวใจของตัวน้อยปิติยินดียิ่งนัก  สัญญาณการประทับอยู่ของพระเจ้าชัดเจนในหัวใจของตัวน้อย  ตัวน้อยขอพรพระเผื่อผู้อ่านที่รักทุกคนด้วยคะ  ....
                มีเวลา ก็ใช้เวลากับพระเจ้ามาก ๆ ดีกว่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปวัน ๆ  เติมพลังด้วยพระหรรษทาน  จะได้มีพละกำลังทำอะไรดี ๆ ถวายพระเจ้า ด้วยความรักผู้อื่นต่อไป  ...ใช่ไหมคะ  ...
อ้อ ... มี ข่าวฝากประชาสัมพันธ์  คณะพระเมตตาจัดทัวร์แสวงบุญ วัดบริเวณท่าแร่ หกวัด  และวัดในลาวอีกสามวัด ระหว่างวันที่ 10-13 ตค.2556  อัตราค่าใช้จ่าย 5,900 บาท  สนใจร่วมเดินทาง  หรือร่วมช่วยปัจจัย แก่วัดที่ยากไร้ขาดแคลน    ติดต่อ คุณ สุดจิต 081-575-1484
ขอขอบคุณทุกเมลที่ส่งมาให้  ขอพระเจ้าตอบแทนทุกน้ำใจดี ร้อยเท่าพันทวี  ทั้งในแผ่นดิน  และในสวรรค์  อาแมน  ...
ใครหว่านสิ่งใด  ก็ย่อมเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น  ผู้ที่หว่านสิ่งใด  ตามธรรมชาติของตน  ก็จะเก็บเกี่ยวความเสื่อมสลายจากธรรมชาติ  ผู้ที่หว่านความดีในพระจิตเจ้า  ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดรจากพระจิตเจ้า  กาลาเทีย 6:8
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้เชิญอ่าน
เรื่องที่ 141: ไม่เข้าใจ
ในฐานะผู้ร่วมงานของพระเจ้า  เราขอร้องท่านทั้งหลาย  อย่าเพียงแต่รับพระหรรษทานของพระองค์ไว้โดยไม่เกิดผล  2 โครินทร์ 6:1
                หลาย ๆ ครั้งที่เรื่องบางเรื่องเกิดขึ้น ตัวน้อยไม่เข้าใจทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป  มันไม่ได้แย่อย่างที่คิด 
อย่างเช่น  วันหนึ่งขณะที่ตัวน้อยขับรถกลับบ้าน  ระหว่างทางมีการซ่อมปากท่อระบายน้ำ  ตัวน้อยขับรถผ่าน  และทับไม้ที่วางกันปูนที่ยังไม่แห้ง  ไม้กระดกมาตีรถตัวน้อยเป็นรอยครูดทางยาวเลย  ในใจแอบคิดว่า ทำไมพระเจ้าไม่คุ้มครอง  ทำไมต้องเกิดเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้น.... 
แล้วเมื่อวาน  (03 กค.56) ตัวน้อยได้โทรศัพท์เรียกตัวแทนบริษัทประกันรถมาทำใบแคลมให้ ล้างรถอย่างสะอาดเอี่ยม  เพื่อจะได้เห็นรอยแผลชัด ๆ เมื่อพนักงานของบริษัทประกันมา นอกจากรอยแผลครูดที่ไม้กระดกตีรถเป็นทางยาวแล้ว  ได้แถมอีกหกแผล  เป็นรอยครูด  เล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งตัวน้อยไม่รู้เลยว่า  เกิดขึ้นเมื่อใด
ถ้าไม่เกิดแผลนั้น  แผลอื่น ๆ คงไม่ได้รับการซ่อม....ก่อนหมดระยะประกัน
คิดถึงพระวาจาในหัวใจที่ว่า
 จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี....  จงวางใจในพระองค์....
เพราะในหลายครั้งเราไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมต้องเกิดเหตุการณ์บางอย่างกับเรา  แต่ขอให้เราวางใจในพระเจ้าผู้ที่รักเราที่สุดเสมอ....
คิดถึงอีกพระวาจาในหัวใจที่ว่า
เมื่อลูกขอปลา  จะให้งูแก่ลูกหรือ  พ่อแม่ในโลกนี้  ยังให้ของดี ๆ กับลูก  แล้วพระบิดาเจ้าสวรรค์จะไม่ประทานสิ่งที่ดีที่สุด  แก่ลูกของพระองค์หรือ...
ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง  ตัวน้อยเกือบเป็น  ไก่ย่างถูกเผาแล้วคะ  เมื่อวาน (3 กค. 56) ตอนจะออกจากบ้าน ตัวน้อยเดินไปดูนอกบ้านว่ามีรถจอดขวางหน้าบ้าน หรือไม่   เพราะว่าต้องถอยรถออก เดินกลับมาเห็นอะไรบางอย่าง   ห้อยอยู่ใต้ท้องรถ   เหมือนช่วงหนึ่งที่ฮิตห้อยตุ๊กตากัน 
ตัวน้อยก็ไม่ได้เอาอะไรไปห้อยไว้นี่นา...  แล้วมันคืออะไร...  จริง ๆ แล้วเห็นตั้งแต่เมื่อวาน  แต่ไม่ได้สนใจ  พอวันนี้  ขอบคุณพระเจ้าที่ดลใจ  ให้ก้มไปดูใกล้ ๆ ว่าเป็นอะไร ได้กลิ่นแก๊ส  ..... ฝาปิดถังแก๊สหลุดตั้งแต่เมื่อไรกันนี่????  ....ถ้ามีใครมาสูบบุหรี่  หรือเกิดประกายไฟขึ้น  รถของตัวน้อยคงลุกไหม้  ตัวน้อยคงไม่ได้ตายเพราะป่วย  แต่คงตายเพราะถูกไฟคลอกแทนกระมัง....
ขอบคุณพระเจ้าที่ เมื่อวาน  ตอนจะขับรถเข้าบ้าน  มีรถคันหนึ่งขับสวนมา  ทำให้ตัวน้อยต้องขับรถเอาหน้ารถเข้าบ้าน  ซึ่งปกติทุกวันจะถอยรถเข้าบ้าน  ทำให้ได้เห็นฝาปิดถังแก๊สหลุด  ถ้าไม่มีรถคันนั้นสวนมา  ตัวน้อยคงขับไปไหนต่อไหนทั้งวัน   ทั้ง ๆ ที่ฝาแก๊สหลุด  โดยไม่รู้ตัว  แม้มีใครมาชี้  หรือเคาะกระจกรถเตือน  ตัวน้อยก็คงไม่สนใจ  และไม่ยอมลงไปดู  เพราะกลัวถูกหลอกโดยมิจฉาชีพ  ขอบคุณพระเจ้าที่ปกป้องพิทักษ์คุ้มครอง  ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิต  สุดใจ
คิดถึงเรื่องสั้นสอนใจเรื่องหนึ่งที่ชอบ.....เคยได้อ่านเมื่อนานมาแล้ว  ความว่า
มีคุณพ่อองค์หนึ่งเป็นคนที่ศรัทธา  และวางใจในพระเจ้าอย่างมาก  วันหนึ่งที่หมู่บ้านของท่านเกิดน้ำป่าไหลหลาก  น้ำท่วมกระทันหัน  ชาวบ้านพากันอพยพหนีน้ำท่วม  แต่คุณพ่อท่านนี้  ยังเขียนบทเทศน์ที่บ้านพักพระสงฆ์ที่ชั้นหนึ่งต่อไป  ด้วยความวางใจในพระเจ้า  มีชาวบ้านมาบอกให้ท่านหนีน้ำไปด้วยกัน  ท่านก็บอก “พ่อไม่ไป  พระเจ้าจะช่วยพ่อเอง”
แล้วน้ำก็ท่วมชั้นหนึ่ง  คุณพ่อก็ขึ้นไปชั้นสอง  ทำงานของคุณพ่อต่อไป  ชาวบ้านขับเรือมารับคุณพ่อ  คุณพ่อ  ท่านก็บอก “ พ่อไม่ไป  พระเจ้าจะช่วยพ่อเอง  พ่อวางใจในพระองค์”
น้ำท่วมสูงจนถึงชั้นสอง  คุณพ่อต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคา  ทุกคนไปกันหมดแล้ว  และแล้วคุณพ่อก็เสียชีวิต  เมื่อคุณพ่อพบพระเจ้า  ก็ทูลถามพระองค์  “ทำไมพระองค์ไม่ช่วย”  พระเจ้าตรัสตอบว่า  “เราก็ส่งคน  และ เรือไปช่วยลูกแล้วมิใช่หรือ.....”
เช่นเดียวกับในชีวิตของเราที่หลายครั้ง  เรามองไม่เห็นความรัก  ความเมตตา  การโอบอุ้มพิทักษ์คุ้มครองของพระเจ้า  ด้วยพระญาณเอื้ออาทร  พ่อแม่รักลูกฉันใด  พระเจ้าทรงรักเรามากว่านั้น   แผนการณ์ของพระเจ้าเกินกว่าสติปัญญาของมนุษย์จะเข้าใจ  จักรวาล  กว้างใหญ่เพียงใด  พระเจ้าทรงอานุภาพ ยิ่งใหญ่กว่าในฐานะพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งฉันนั้น
ชีวิตบนโลกนี้  เป็นแค่ทางผ่าน  เมื่อเราเป็นฉายาลักษณ์ของพระเจ้า  มาจากพระเจ้าวันหนึ่งเราจะกลับไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์  ตัวน้อยชอบบทเทศน์ เป็นเรื่องเล่าของคุณพ่อในมิสซาเมื่อวานนี้มาก  ความว่า
ตุ๊กตาเกลือตัวหนึ่ง  เฝ้าเดินถามใคร ต่อใคร  ว่า  “ฉันเป็นใคร”  ถามไปเรื่อย ๆ  จนไปถึงทะเล  เห็นทะเลกว้างใหญ่เกลียวคลื่นมหึมา  จึงร้องถามทะเลว่า  “ท่านรู้ไหม  ว่าฉันเป็นใคร”  ทะเลตอบว่า “ เจ้าจงเดินลงมาสิ  แล้วเจ้าจะรู้” ตุ๊กตาเกลือ  ก็เดินลง  ทะเล  และค่อย ๆละลายเป็นหนึ่งเดียวน้ำทะเล
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  มนุษย์มาจากพระเจ้า  และวันหนึ่ง  เราจะกลับไปเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์  และเพื่อให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์  เราต้องนบน้อมเชื่อฟัง  ทำตามพระประสงค์ ติดตาม  สละน้ำใจตน  แม้กระทั่งชีวิต  ก็ยอมตายเพื่อพระองค์ได้  เพื่อจะเกิดใหม่ในพระองค์  ด้วยความบรมสุขแท้นิรันดร  ใช่ไหมค้า...
ทุกสิ่งมาจากพระเจ้า 2 โครินธ์ 6:18
เราแสดงตนเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ  ความรู้  ความเพียรอดทน  ความใจดี  ความช่วยเหลือของพระจิตเจ้า  ด้วยความรักที่ไม่เสแสร้ง  ถ้อยคำสัตย์จริง  2 โครินธ์   6:6-7
มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจพระธรรมล้ำลึกของพระเจ้าได้ทั้งหมด  เหตุก็เพราะว่า  สติปัญญาของมนุษย์มีความจำกัด แต่พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ ไร้ขอบเขต  พระองค์ทรงพลานุภาพเกินกว่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะรับพระองค์ไว้ได้ (ข้อความจากหนังสือ  ขุมทรัพย์ในภาชนะดินเผา โดยปลัดนุ  หน้า 149)
จงรักตอบเราเถิด  จงเปิดใจให้กว้างด้วย  2 โครินธ์ 6:13
ทำดีทั่วทุกแห่งเถิด  และท่านจะกอบกู้โลกทั้งมวล  คู่มือพลมารีย์ หน้า 418
จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า  เพราะพระองค์พระทัยดี  ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์  สดุดี 118:1
อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย
04.07.2556  เขียนเสร็จ.
16.07.2556 เขียนเพิ่ม และส่งเมล
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับเรื่องที่ 142: ใจเกเร
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE --à CATHOLIC BY MY STORY                   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ