143. สวัสดีคะ ผู้อ่านที่รัก
เช้าวันอังคารที่ได้หยุด
ตัวน้อยรู้สึกตัวตื่นตีห้าครึ่ง... ถ้าตื่นเวลานี้ก็คงเป็นพระประสงค์ให้ตัวน้อยไปมิสซาเช้าอ่านบทอ่านทำพันธกิจประกาศพระวาจา เมื่อกลับมาบ้านดูแลบ้านเหมือนแม่พระ จากนั้นสังสรรค์รับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนกลุ่มวิถีชุมชนบ้านตัวน้อย เราไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันนานแล้ว เพราะตัวน้อยทำทัวร์
หลังจากนั้นว่างก็อ่านพระคัมภีร์ และได้รับคำสอนดี ๆ มากมาย เมื่อจะเขียนทักทายผู้อ่านที่รัก ไม่ทราบจะเขียนอะไรดี เพราะเหมือนกันทุกทีว่า
ขอขอบคุณทุกเมลดี ๆ ที่แบ่งปันมาให้
ตัวน้อยก็ขอแบ่งปันการเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิตของตัวน้อยต่อไป เมื่อตัวน้อยอ่านพบพระวาจานี้ จะให้ตัวน้อยไม่เขียนงาน ส่งเมลแบ่งปันต่อได้อย่างไร พระวาจาตรัสอย่างไร อ่านด้วยกันนะคะ......
จงเป็นแบบอย่างแก่ผู้มีความเชื่อทุกคนด้วยคำพูด และความประพฤติด้วยความรัก ความเชื่อ
และความบริสุทธิ์ของท่าน จงเอาใจใส่อ่านพระคัมภีร์ให้ประชาชนฟัง...จงอย่าละเลยพระพรพิเศษที่มีอยู่ในท่าน... 1 ทิโมธี
4:12-14
|
จงหลีกเลี่ยงการถกเถียงเรื่องไร้สาระที่ไม่เกี่ยวกับพระเจ้า
1
ทิโมธี 6:20
|
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติประทานสันติแก่ท่านทั้งหลายทุกเวลา
และทุกวิถีทาง ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับทุกท่านเถิด
2
เธสะโลนิกา 3:16
|
อาแมน.
เอาหล่ะคะ
ตอนนี้ เชิญอ่าน
เรื่องที่ 143: หนังสือสื่อรัก
จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์ แต่เพียงผู้เดียว เท่านั้น
มาระโก
4:10
|
เวลาที่ตัวน้อยทำทัวร์ ตัวน้อยคิดเสมอ สวดภาวนาขอพระจิตเจ้าเสมอ
ว่าจะเผยแผ่ประกาศข่าวดีของพระเยซูคริสตเจ้าได้อย่างไร....
สิ่งแรกที่ตัวน้อยทำ คือ การประกาศตัวว่า
เป็นคริสตชนก่อน
โดยเวลาที่อธิบายให้ลูกทัวร์ฟังถึงประเทศไทยว่ามีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ มีพุทธศาสนิกชนประมาณ 95% อิสลาม 4% และคริสต์ 0.6% และดิฉันก็เป็นหนึ่งใน 0.6% นี้ด้วย
ตั้งแต่สมัยปู่ยาตายาย.....
เมื่อก่อนที่ตัวน้อยจะคืนดีกับพระเจ้า ไม่กล้าประกาศตัวว่าเป็นคริสตชน เพราะยังทำผิด
ทำบาปอยู่มาก
หลังจากคืนดีกับพระเจ้าแล้ว พยายามทำดีให้มาก พยายามไม่ทำบาป ทำผิดให้น้อย เมื่อทำผิด ทำบาป
ก็สำนึกผิด แก้บาปด้วยการรับศีลอภัยบาป แก้ไข พยายามไม่ทำผิดอีก
และทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วด้วยพระวาจาในหัวใจที่ว่า .....
จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง และท่านอยากให้เขาทำกับท่านอย่างไร ก็จงทำกับเขาอย่างนั้นเถิด มัทธิว
7:12
|
ตัวน้อยจึงทำงานด้วยความรักต่อลูกทัวร์ ยิ้มแย้มแจ่มใส
มีแววรักและเมตตาในดวงตา ดวงตาซึ่งเป็นหน้าต่างของหัวใจ หัวใจที่รักพระเจ้า จึงรักผู้อื่น และพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกทัวร์เหมือนที่ตัวเองต้องการเมื่อไปเที่ยวในฐานะลูกทัวร์
เช่นการพาทัวร์ให้รวดเร็ว
ไม่ต้องรอรถ รออาหาร
หรือเครื่องดื่มนาน ๆ นำทัวร์ให้ราบรื่น
ด้วยการทำงานอย่างรอบคอบ มีประสิทธิภาพ และใช้สิตปัญญา รวมถึงสวดภาวนาขอพระหรรษทานแห่งพระจิตเจ้า
ทรงนำ และคุ้มครอง ตัวน้อย ลูกทัวร์ รวมถึงเพื่อนร่วมงาน ซึ่งก็คือคนขับรถ และให้เวลาลูกทัวร์มีอิสระที่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เช่นถ่ายรูปตามใจชอบ การเดินชมความงามของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งตามสบาย หรือเที่ยวชมซื้อของร้านค้าต่าง ๆ ผู้อ่านที่รักอยากเป็นลูกทัวร์ของตัวน้อยไหมคะ.....
เมื่อตัวน้อยอบรมครูคำสอน ภาคฤดูร้อนตอนปีที่แล้ว(2555) สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อสอน และอยู่ใน หัวใจตัวน้อย คือ
คุณพ่อสอนให้เราใช้ในสิ่งที่มี
ณ ขณะนั้น และนำมาใช้กล่าวถึง
แบ่งปัน เพื่อเผยแผ่ ประกาศข่าวดีของพระเจ้า และในปีการศึกษาปีที่สองนี้ (2556) คุณครูสอนเราในเรื่องนี้เช่นกัน คุณครูให้เราแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มของตัวน้อยมีสามคน เพื่อนสองคน ถอดนาฬิกาออกมา เราจึงวางนาฬิกาในลักษณะของไม้กางเขน ตัวน้อยถอดแหวนประคำนิ้วนางข้างขวาวางไว้ตรงกลางที่นาฬิกาไข้วกัน และเป็นตัวแทนกลุ่ม ประกาศข่าวดีถึงพระเจ้าว่า
“นาฬิกา
ก็เปรียบเหมือนเวลาของชีวิตที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา เราจึงควรมีชีวิตทุกเวลานาที เพื่อพระเจ้า ด้วยการแบกกางเขนของตน ติดตามพระเยซูเจ้า แหวนเปรียบเหมือนความรักของพระเจ้าที่ทรงโอบอุ้มเราไว้ จากทุกสรรพสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงเตรียมให้มนุษย์ คงบอกเราได้ว่าพระเจ้ารักเรามากเพียงใด ขอรักพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจ แหวนวงนี้
แทนหัวใจนี้...เพื่อรักพระองค์
ชีวิตนี้...เป็นของพระองค์”.... กิ้ววว... อะไรประมาณนี้
ตัวน้อยจำไม่ค่อยได้แล้ว
ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง... แต่จำสีหน้าของคุณครูได้ว่าคุณครูยิ้มหวานให้ตัวน้อยเพียงใด
ด้วยการสอนที่ได้รับมาว่า ให้ใช้สิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์ สิ่งที่มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับตัวน้อย
คือหนังสือศรัทธา งานไกด์เป็นงานที่ต้องทำคนเดียว หลาย ๆ ครั้ง ที่ต้องอยู่คนเดียว
เช่นเมื่อเวลาที่ปล่อยลูกทัวร์เที่ยวชมตามอิสระ
เพื่อนของตัวน้อยในยามว่าง ไม่มีใคร นอกจากการรำพึงภาวนา
คุยกับพระเยซูแล้ว และหนังสือ
ก่อนที่จะคืนดีกับพระเจ้า ตัวน้อยจะมีหนังสือละครโทรทัศน์ติดตัวตลอด อ่านเสร็จก็ให้คนอื่น ๆ อ่านต่อ
เมื่อคืนดีกับพระเจ้า แรกๆ เพื่อนใหม่ของตัวน้อยคือพระคัมภีร์ อ่านคร่าว ๆ เพื่อเรียนรู้จักพระเจ้าจบแล้ว จึงอ่านหนังสือศรัทธาต่าง ๆ
ละคร โทรทัศน์ ไม่มีความหมายสำหรับตัวน้อยอีกต่อไป ดูก็ดูไปอย่างงั้น พระวาจาต่างหาก หนังสือศรัทธาต่างหาก ที่สำคัญ
และน่าสนใจ
เปรียบเหมือนขุมทัรพย์ที่ยิ่งขุด ยิ่งหา ก็ยิ่งพบ อะไรดี ๆ มีชีวิตนิรันดร เป็นบำเหน็จรางวัลด้วย ของขวัญที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ น่าไข่วคว้าจริง ๆ ใช่ไหมคะ....
ข้าพเจ้าเห็นว่า ทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีก
เมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพจึงยอมสูญเสียทุกสิ่ง ข้าพเจ้าเห็นว่า ทุกสิ่งเป็นปฏิกูล เพื่อจะได้องค์พระคริสตเจ้ามาเป็นกำไร ฟิลิปปี 3:8
|
อย่างเช่นทัวร์นี้ ระหว่างลูกทัวร์กำลังขี่ช้าง ตัวน้อยรออยู่กับลูกทัวร์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนติดหนังสือเหมือนกัน (ทำงานมายี่สิบกว่าปี เพิ่งพบเป็นคนแรก) ตัวน้อยจึงชวนคุย ว่า “คุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับอะไรคะ” ลูกทัวร์ก็ตอบ
แล้วตัวน้อยหยิบหนังสือของตัวเองออกมา (ขุมทรัพย์ในภาชนะดินเผา
เล่มสาม ตัวน้อยเพิ่งศรัทธาได้ไม่นาน ซื้อเล่มสี่ได้ก่อน เมื่อหนังสือเพิ่งออก คุณพ่อวัดใกล้บ้านตัวน้อยนำมาช่วยขาย ตัวน้อยก็ช่วยซื้อ อ่านแล้วชอบมาก จึงตามหาซื้ออีกสามเล่ม เล่มไม่ใหญ่ พกพาสะดวก
เนื้อหาสนุก เข้าใจง่าย
ตัวน้อยขอแนะนำ
ลองหาซื้อมาอ่านกันนะคะ)
ตัวน้อยบอกกับลูกทัวร์คนนี้ว่า
“ฉันก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน หนังสือเล่มนี้
เป็นหนังสือเรื่องราวเกี่ยวกับคริสตศาสนา”
แล้วตัวน้อยก็เล่าเรื่องจากภาพปกให้ลูกทัวร์ฟัง ซึ่งเป็นภาพ ที่แม่พระและพระเยซู
ไปร่วมงานแต่งงานของญาติ
และเหล้าองุ่นหมด
แม่พระจึงขอให้พระเยซูเจ้าทรงทำอะไรสักอย่าง
แล้วพระเยซูก็ทรงทำอัศจรรย์แรก ด้วยการเปลี่ยนน้ำธรรมดาให้เป็นเหล้าองุ่นรสเลิศ
ตัวน้อยเล่าให้ลูกทัวร์ฟัง เหมือนเล่านิทาน เพื่อให้เขาฟังง่าย ๆ และไม่ต่อต้าน ขอพระจิตเจ้าทรงทำงานต่อให้เขาได้รู้จัก ได้รับรู้ถึงเรื่องราวพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นมนุษย์แท้ และพระเจ้าแท้
และทรงรักเขามาเพียงใด การที่เขาได้มาเป็นลูกทัวร์ของตัวน้อย ทั้ง ๆ
ที่ไกด์ของบริษัทมีหลายสิบคน ก็เพราะพระเจ้าทรงเลือกเขา และเรียก
เชื้อเชิญให้เขาได้รู้จักพระองค์ผ่านทางตัวน้อย ใช่ไหมคะ...
พระเจ้าทรงสอนให้เราเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืด ความมืดเปรียบได้กับอะไรคะ
เปรียบได้กับชีวิตที่ปฏิเสธพระเจ้า
ชีวิตที่เป็นทาสของบาป ชีวิตภายใต้แอกของซาตาน
ผู้ที่ไม่มีความเชื่อ ซาตาน..พระของโลกนี้ ทำให้จิตใจของคนเหล่านั้นมืด เพื่อมิให้เขาแลเห็นแสงสว่าง คือข่าวดีเรื่องพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า 2 โครินทร์ 4:4
|
ชีวิตคริสตชนต้องเป็นแสงสว่าง
เป็นเชื้อแป้งฟู
เป็นเกลือดองแผ่นดิน
เป็นความดี เป็นความรัก ของพระเจ้า และนำพระเจ้าไปสู่ชีวิตผู้อื่น เพื่อนำตัวเอง
และทุกวิญญาณได้รอดพ้น กลับสู่สวรรค์
บ้านแท้นิรันดรของเรา ใช่ไหมคะ....
มนุษย์... ผู้ซึ่งเป็นบุตรของพระเจ้าผ่านทางพระเยซู และศีลล้างบาป
มนุษย์ ... ผู้เป็นฉายาลักษณ์ของพระเจ้า วันหนึ่งเราจะกลับไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์
ณ แผ่นดินโลกนี้
ขอพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับเรา
ผ่านทางศีลมหาสนิท
รับศีลมหาสนิทกันบ่อย ๆ นะคะ
เพื่อขอให้พระเยซูเจ้าเติบโตในชีวิตเรา จิตสนิทกับพระองค์ด้วยการรำพึงภาวนา และ เมื่อการเดินทางจาริกบนโลกนี้จบลง ขอเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ตลอดนิรันดร์ อาแมน.
ท่านเป็นของพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว เพราะพระองค์ทรงเรียก โรม 1:5
|
จงถวายทุกส่วนของร่างกาย แด่พระเจ้า เป็นเครื่องมือในการประกอบความชอบธรรม
โรม 6:13
|
เรามิได้ประกาศเรื่องตนเอง แต่ประกาศว่า พระคริสตเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนเราเป็นเพียงผู้รับใช้ท่านทั้งหลาย เพราะความรักต่อพระเยซูเจ้า
2 โครินธ์ 4:5
|
ทุกสิ่งล้วนมาจากพระองค์ โดยทางพระองค์ เพื่อพระองค์ ขอพระสิริรุ่งโรจน์ จงมีแด่พระองค์ตลอดนิรันดร อาแมน.
โรม 11:36
|
ลูกแกะตัวน้อย
12. 07.
2556 เขียนเสร็จ
30.07.2556 เขียนเพิ่ม และ ส่งเมล
พบกันใหม่ วันอังคาร
กับเรื่องที่ 144:
พระจันทร์ข้างแรม
ขอเชิญตามอ่าน... “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย” เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com หรือ เข้า GOOLE --à
CATHOLIC BY MY STORY เรื่องที่....
ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ