วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 139: แต่งงานซะ...

139. สวัสดีคะ ผู้อ่านที่รัก
                ระหว่างหนึ่งอาทิตย์นี้  สิ่งที่พิเศษสุดสำหรับตัวน้อยคือ  ตัวน้อยแต่งเพลงใหม่ได้หนึ่งเพลง  ช่วงหนึ่งปีแรกที่คืนดีกับพระเจ้า  หนึ่งในหลายพระพรพิเศษที่ตัวน้อยได้รับคือ  แต่งเพลงได้  ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยแต่งมาก่อนเลยในชีวิต  ไม่มีความรู้เรื่องโน๊ต  ทฤษฏีดนตรี  หรือการแต่งเพลง  แต่งได้ด้วยความรู้สึกที่ล้นใจ  เพลงแรก  คือกว่าจะรู้ว่าถูกรัก  (ขอเชิญเข้าไปชมไปฟังใน  รายการพระเจ้าสถิตเรา  วันที่ 7 สค. 54  ตัวน้อยได้รับการขอให้ไปแบ่งปันประสบการณ์การกลับใจ  และร้องเพลงนี้ไว้)  แต่งได้ประมาณสิบหกสิบเจ็ดเพลง  แล้วช่วงปีที่สอง  ตัวน้อยแต่งไม่ได้เลยสักเพลง  เพิ่งแต่งได้อีกในปีที่สามที่คืนดีกับพระเจ้าระหว่างทำทัวร์เมื่อสามสี่วันที่แล้ว(28 มิย.56)
                ตัวน้อยขอแบ่งปันเนื้อเพลงนี้อาจยังไม่สมบูรณ์  แต่เนื้อเพลงเข้ากับเรื่องนี้ซึ่งเขียนไว้หนึ่งเดือนที่แล้วได้อย่างน่าอัศจรรย์  เมื่อผู้อ่านที่รักอ่านจบแล้วจะเห็นด้วยกับตัวน้อยไหมนะคะ 
จงร้องเพลงบทใหม่ถวายพระองค์  จงดีดสายอย่างคล่องแคล่วพร้อมกับโฮ่ร้อง  สดุดี 33:23

เนื้อเพลง....คือ
+ ขอสรรเสริญพระเจ้าทุกวันเวลา    ขอโมทนาพระคุณทุกกรณี
ชีวิตมีสุขมีทุกข์มีชั่วและดี                 มีเพียงพระเจ้าที่รักไม่เปลี่ยนไป
+ องค์พระบิดาเปี่ยมล้นพระเมตตา    ส่งพระบุตราที่รักมาเป็นผู้ไถ่
 ทรมานด้วยกางเขนตรึงทั้งกายใจ     ช่วยให้เรารอดพ้นกลับสู่สวรรค์
+ ขอมีชีวิตติดตามพระคริสตเจ้า       ขอพระจิตเจ้าทรงนำสละน้ำใจแห่งตน
แบกกางเขน ภาวนา รับใช้ผู้คน          อุทิศตนด้วยรัก ซื่อสัตยฺ์ และมั่นคง
+ พระเจ้าเป็นองค์ความรัก..ดีแท้บริบูรณ์   ทรงเกื้อกูลค้ำจุนเราให้ห่างภัย
ขอรับใช้ให้พระประสงค์สำเร็จไป    ขอเป็นของพระองค์ตลอดนิรันดร์...
ความรักต่อพระเจ้าเอาชนะทุกสิ่ง  และบันดาลให้สมรรถภาพทางวิญญาณเบิกกว้าง  หากเจ้าฉลาดแท้  เจ้าจะยินดี  ก็แต่ในตัวข้าฯ  เพราะไม่มีใครดี  นอกจากพระเป็นเจ้าผู้เดียว  พระองค์นั่นแหละ  ชาวเราต้องสรรเสริญเหนือสิ่งใด ๆ พระองค์นั่นแหละ  ชาวเราต้องถวายพระพรในทุกสิ่งทุกอย่าง  ดาเนียล 3:56 (ตรวจครั้งเรื่องสุดท้ายก่อนส่งเมล  แล้วตัวน้อยก็พบพระวาจานี้....ไม่ทราบจะสรรเสริญพระเจ้าอย่างไรดี......)

                ตัวน้อยยังตั้งชื่อเพลงไม่ได้  กรุณาช่วยตั้งชื่อเพลงนี้ให้ตัวน้อยหน่อยได้ไหมค้า...   ตัวน้อยจะแต่งเนื้อร้องพร้อมทำนอง  ร้องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ทำนองที่รู้สึกว่าลงตัว   ทำอย่างไรผู้อ่านที่รักถึงจะได้ฟังน้า...อยากฟังไหมค้า....
(พระสวามีเจ้า)  ที่รักของเจ้าตรัสไว้ว่า  ข้าฯคือความรอดของเจ้า  คือสันติสุข  และชีวิตของเจ้า  สดุดี 34:3

ขอขอบคุณทุกเมล ความรู้สึกดี ๆ  และทุกคำภาวนาที่มีให้กัน  ขอพระเจ้าทรงตอบแทนทุกน้ำใจดีร้อยเท่าพันทวีทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  อาแมน.
ในท้ายเรื่องขอแบ่งปันวิธีการดูแลตนเองของผู้ป่วยมะเร็งโดยธรรมชาติบำบัด ซึ่งได้รับเมลจากพี่น่ารัก  และศรัทธามาก ๆ กรุณาส่งมาให้ ตัวน้อยได้อ่านแล้ว  รู้สึกว่า  ถ้ายังรับประทานแบบเดิม  อีกไม่นานคงได้ป่วยอีกรอบ.....
ไม่ว่า  เราจะอยู่ในร่างกาย  หรือถูกเนรเทศจากร่างกาย  เราก็มีความมุ่งมั่นที่จำทำให้เป็นที่พอพระทัย  2 โครินทร์ 5:9   อาแมน.

เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 139: แต่งงานซะ...
“จงแสวงหาความดี  อย่าแสวงหาความชั่ว  เพื่อเจ้าจะดำรงชีวิตอยู่ได้ พระเจ้าจอมโยธา จึงทรงสถิตกับเจ้า  อาโมส 5:18

                หกสัปดาห์ของการเรียน  อบรมครูคำสอน ภาคฤดูร้อน ของศูนย์อบรมคริสตธรรม  ระดับชาติ  นอกจากการเรียนในเชิงวิชาการ  ที่ถ่ายทอดกันแบบจัดหนัก  จัดเต็ม  จน.... ตัวน้อยความรู้ท่วมศีรษะ แทบเอาตัวไม่รอด  เรามีกิจกรรมมากมาย ที่ช่วยคลายความเครียด ซึ่งให้ประสบการณ์  การเรียนรู้ ความสัมพันธ์  และความทรงจำดี ๆ กับเรามากมาย
 เริ่มต้นด้วยกิจกรรมรับน้องใหม่
                ในฐานะรุ่นพี่ปีสอง และปีสาม เรารับผิดชอบกันชั้นปีละสองเกมส์ สำหรับปีสองนั้น เกมส์ที่หนึ่งคือ อุโมงค์หรรษา เป็นการให้น้องปีหนึ่งผูกผ้าปิดตา  และใช้มือจับ เดินตามเชือก  ระหว่างทางก็จะมี อุปสรรค์ต่าง ๆ ด้วยความที่มองไม่เห็น และต้องตามคนหน้า ทำให้... น่ากลัวกว่าความเป็นจริง ซึ่งตัวน้อยได้ฟังการแบ่งปันจากน้องผู้รับผิดชอบเกมส์ ว่า  เมื่อให้น้องเขาแบ่งปันว่าได้รับอะไรจากเกมส์นี้  น้องที่ตอบได้ประทับใจคือ  “ทำให้เราเข้าใจคนตาบอดมากขึ้น  ว่าเขาต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก  และน่าหวาดกลัวเพียงใด  ทำให้เราเห็นใจ และอยากช่วยเหลือพวกเขามากขึ้นในโอกาสต่อ ๆ ไป”  เป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่น้องเขาได้รับ รุ่นพี่ก็แกล้งไป ขำไป
                และอีกเกมส์หนึ่งคือ “อะไรเอ๋ย  อยู่ในไห”  เป็นเกมส์ที่แบ่งน้องเป็นสองกลุ่ม  และให้แข่งกันทายการใบ้คำ  ด้วยท่าทาง ลีลา การใบ้ ในแต่ละกลุ่มสร้างความสนุกสนาน ไม่แพ้รายการ มาตามนัด เมื่อเราได้ฝ่ายแพ้ฝ่ายชนะ  เราก็ให้ปิดตาล้วงไห ผู้ชนะ ล้วงไหเล็ก  ผู้แพ้ล้วงไหใหญ่ ซึ่งภายในบรรจุน้ำเย็นเจี๊ยบ  พร้อมกับใส่ของหลายอย่าง อย่างเช่น อะไรที่ ลื่น ๆ นิ่ม ๆ เป็นเส้น ๆ เหมือนปลาไหลไส้เดือน แต่จริง ๆ เป็นเฉาก๊วย  น้อง ๆ ก็วี๊ดวายกันน่าดู
 ถ้าจะให้ล้วงอย่างเดียว เกมส์นี้คงไม่มีคุณค่านอกจากความสนุกสนาน  ตัวน้อยจึงใส่เหรียญสิบบาท ห้าบาท หนึ่ง บาท เหรียญ ห้าสิบสตางค์  และยี่สิบห้าสตางค์ลงไปด้วย  และให้น้อง ๆ ล้วงเพื่อหา  และหยิบเหรียญขึ้นมา
                ตอนแรกตัวน้อยตั้งใจว่า  คนที่หยิบได้เหรียญยี่สิห้าสตางค์  ซึ่งเล็กที่สุด ต้องใช้ความพยายามมากที่สุด  ตัวน้อยมีรางวัลพิเศษ เป็น ขนมจากญี่ปุ่นที่ลูกทัวร์ให้มาด้วยความเอ็นดู และเป็นเหมือนของขอบคุณไกด์ตัวน้อย ก่อนไปเข้าเรียนมามากมาย ทำให้คิดถึงพระวาจาในหัวใจที่ว่า
“พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์ แก่ผู้ที่รักพระองค์”  โรม 8:28

                ตัวน้อยตั้งใจจะให้กลุ่มละสามสี่คน จากประมาณหกกลุ่ม กลุ่มละสิบกว่าคน  ปรากฏว่า  คนที่หยิบได้เหรียญยี่สิบห้าสตางค์ ไม่ค่อยมี  ตัวน้อยจึงต้องเปลี่ยนกฏใหม่  ตามพระวาจาที่อยู่ในหัวใจความว่า
 “เจ้าของสวนองุ่นผู้หนึ่ง  ต้องการจะหาคนมาทำงานในสวน  จึงให้คนงานออกไปหา บางคนเริ่มงานตอนเช้า  บางคนเริ่มงานตอนเที่ยง  บางคนเริ่มงานตอนบ่าย  บางคนเริ่มงานก่อนเวลาเลิกงานไม่นาน  เมื่อถึงเวลาจ่ายค่าแรง เจ้าของสวนจ่ายให้คนเริ่มงานก่อนเวลาเลิกงานไม่นานหนึ่งเหรียญ  และคนที่เริ่มงานตอนเช้าก็ได้ค่าแรงหนึ่งเหรียญเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่คิดว่า  ตัวเองทำงานนานกว่า  น่าจะได้ค่าแรงมากกว่า  และคำตอบของเจ้าของสวนก็คือ  “เราพอใจ เจ้ามีปัญหาอะไรเล่า”...........นี่ไง... กฏทุกข้อได้รับการยกเว้น ด้วยความรักและพระเมตตาของพระเจ้า

                ตัวน้อยจึงเปลี่ยนกฏแจกขนมญี่ปุ่นใหม่  ตามความพอใจของตัวน้อย  ให้คนที่หยิบเหรียญนั้นบ้าง  เหรียญนี้บ้าง  และคนที่กลัวจนหยิบเหรียญอะไรไม่ได้  ตัวน้อย ก็แจกขนมให้เช่นกัน  จนขนมหมด  จบเกมส์พอดี
แม้อยากแจกขนมให้น้องทุกคน  แต่ของนั้นมีไม่พอ  เหมือนดังพระวาจาในหัวใจที่ว่า
 “ข้าพเจ้าเป็นทุกอย่าง สำหรับทุกคน  เพื่อข้าพเจ้าจะได้ใช้ทุกวิถีทาง ช่วยบางคน  ให้รอดพ้น”  1โครินทร์ 9:22

ทำไมถึงเป็นบางคน  เพราะมีบางคนที่ต้องการการรอดพ้นสู่ชีวิตนิรันดร  แต่มีบางคน  อย่างไร ก็ไม่เชื่อ ในพระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ไถ่ พระผู้ช่วยให้รอดพ้น และไม่เจริญชีวิตในความดี ไม่สำนึก กลับใจ จึงต้องสูญเสียวิญญาณสู่นรกนิรันดร.....
และกิจกรรมต่อมาที่ขอแบ่งปันคือ การไปทัศนศึกษาวัด แถบอยุธยา  มี วัดนักบุญยอแซฟ  หมู่บ้านโปรตุเกส  วัดมารีย์สมภพ (บ้านแพน)  วัดนักบุญยอห์นบัปติสต์ (เจ้าเจ็ด) วัดพระคริสตประจักษ์  และวัดแม่พระสกลสงเคราะห์ 
สิ่งหนึ่งที่สะดุดหูตัวน้อยคือ  คุณพ่อผู้นำเราทัศนศึกษาได้แบ่งปันประมาณว่า “ พวกเรานักศึกษาครูคำสอน  คนไหนจะบวช ก็บวชไป  ไม่บวช  ก็แต่งงานซะ”  ตัวน้อยฟังแล้ว  ตัวน้อยก็ขำ  สำหรับตัวน้อยการแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
คิดถึงเรื่อง ๆ หนึ่งที่อ่านพบในหนังสือ เรื่องเล่าสอนใจ  ซึ่งซื้อมาระหว่างการมาเรียนครั้งนี้  ความว่า 
“มีการประชุมกันในกลุ่ม ๆ หนึ่ง ว่า  เราจะประกาศข่าวดีของพระเยซูคริสตเจ้าอย่างไรกันดี  และมีคนเสนอว่า  ทำป้ายพระวาจาติดที่นั่น  ที่นี่บ้าง  แจกพระวาจาบ้าง  ทำสื่อทางโทรทัศน์ สื่อทางคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ บ้าง และก็มีคนพูดว่า  ถ้าเป็นวิธีของฉันนะ  ฉันจะให้ครอบครัวคริสตชนเข้าไปอยู่.......” ?????

ในระหว่างการอบรมครั้งนี้  ในวันที่ตัวน้อยไปหัดร้อยสายประคำ  ได้ฟังการแบ่งปันของน้องเณรคนหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมเป็นคนต่างความเชื่อ  ต่อมาได้มีโอกาส เห็นสัมผัส กับครอบครัวหนึ่ง  ซึ่งเป็นครอบครัวเล็ก ๆ แต่อบอุ่น  พ่อแม่ลูก ไปไหนก็ไปด้วยกัน  มีอะไรก็ช่วยเหลือ  และมีความจริงใจต่อผู้อื่น  ทำให้น้องเขาประทับใจ  มาเรียนคำสอน  รับศีลล้างบาป  และปัจจุบัน เขามาเป็นเณร ของนักบวชคณะหนึ่ง
นี่ไง.... ไปแต่งงานซะ  ครอบครัวคริสตชนดี ๆ เป็นการประกาศข่าวดีด้วย ชีวิตของพระเยซูคริสตเจ้าในชีวิตของตนได้อย่างดีที่สุด.....  ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
คนไหนแต่งงานได้ก็แต่งงานไป  คนไหนแต่งไม่ได้  ก็แต่งงานกับพระเยซูเหมือนตัวน้อยแล้วกัน   พากเพียรเจริญชีวิต  ด้วยความรัก  ความเชื่อ  และความหวังอันยิ่งใหญ่  และยึดมั่นในการกระทำความดี รักพระเจ้าให้สิ้นสุดจิตใจ  สุดวิญญาณ สุดสติปัญญา  สุดพลกำลัง  และรักผู้อื่นให้เหมือนรักตัวเอง
กิจกรรมสนุก ๆ ยังมีกิจกรรมสงกรานต์ การทำใบลาน  การซ่อนหา ไข่อีสเตอร์ การไปเที่ยวฟาร์มจรเข้ซึ่งเจ้าของเป็นคาทอลิก งานราตรีสัมพันธ์ สนุกอย่างไรขอแบ่งปันในเรื่องต่อไปนะคะ
“ชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้  และทุกคนที่มีชื่อบันทึกไว้ในหนังสือ  และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผลคลีแห่งแผ่นดินโลก  จะตื่นขึ้น  บ้างก็จะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์  บ้างก็เข้าสู่ความอับอาย  และความขายหน้านิรันดร์  และบรรดาคนที่ฉลาดจะส่องแสงเหมือนแสงฟ้า  และบรรดาผู้ที่ได้ให้คนเป็นอันมาก  มาสู่ความชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนอย่างดาวเป็นนิตย์นิรันดร์”  ดาเนียล 12:1-3
“พระเจ้าตรัสว่า  ในวันนั้น  เจ้าจะเรียกเราว่า “สามีของฉัน”  และเราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราเป็นนิตย์  เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราด้วยความสัตย์ซื่อ  และเจ้าจะรู้จักพระเจ้า” โฮเชยา 2:16,19-20    
“ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลายว่า  จงดำเนินตามพระจิตเจ้า  และอย่าตอบสนองความปรารถนาตามธรรมชาติ” กาลาเทีย 5:16
“ขอพระหรรษทานของพระเยซูคริสต์  องค์พระผู้เป็นเจ้า  ขอความรักขอพระเจ้า  และความสนิทสัมพันธ์ของพระจิตเจ้า  สถิตอยู่กับทุกท่านเทอญ2 โครินธ์ 13:13

อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
03.06.2013  เขียนเสร็จ.
02.07.2556 เขียนเพิ่ม และส่งเมล
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับเรื่องที่ 140: งานราตรีสัมพันธ์
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
ปล.  ตัวน้อยขอแบ่งปันเมลดี ๆ นี้ต่อ  ป่วยแล้วหายก็เป็นเรื่องดี  แต่ดีมากกว่า ที่เรารู้ว่าเรามีชีวิต...เพื่อใคร  และเพื่ออะไร..ใช่ไหมคะ
วิธีการดูแลตนเองของผู้ป่วยมะเร็งโดยธรรมชาติบำบัด โดยคุณแม่พาณี (คุณแม่เจ้าของเพจนี้ครับ)

ดิฉันชื่อ นางพาณี พันทนา อายุ 63 ปี เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลามไปที่ตับ (ระยะ 4) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ได้ผ่าตัดลำไส้ใหญ่และตับ หมอแจ้งว่าต้องให้คีโม 12 ครั้ง หลังจากให้คีโมมาแล้ว 7 ครั้ง ได้ทำซีทีสแกน พบว่ามีเซลส์มะเร็งลามไปที่ตับอีก ดิฉันจึงขอหยุดการให้คีโม และเริ่มดูแลตัวเองดังนี้


1. รับประทานสมุนไพร จีเฮิร์บ ของหมอสมหมาย ทองประเสริฐ อย่างต่อเนื่อง เช้า กลางวัน เย็น มื้อละ 4 – 6 เม็ด

2. ปรับอาหารโดย งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมทั้งเนื้อปลาด้วย งดนม งดไข่ งดน้ำมัน งดน้ำตาล (เพราะมะเร็งชอบโปรตีน ไขมัน และน้ำตาล) เน้นรับประทานผักและผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น เนื่องจากคนที่เป็นมะเร็ง ภายในร่างกายจะร้อน จึงต้องรับประทานอาหารฤทธิ์เย็น

- ผักฤทธิ์เย็นได้แก่ ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักตำลึง ผักปรัง ผักหวาน ยอดฟักทอง ยอดฟักแม้ว ฟัก ฟักทองอ่อน ข้าวโพด ถั่วลันเตา ถั่วแขก ผักโขม บล็อกโคลี่ ดอกกะหล่ำ หน่อไม้น้ำ (แอสพารากัส) มะเขือยาว มะเขือเปราะ ผักกาดหอม เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า ดอกแค ยอดแค ปลีกล้วย มะรุม มะเขือเทศ ผักสลัด เป็นต้น (สำหรับผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักโขม ถั่วฝักยาว หรือผักที่มีกลิ่นฉุน จะมีฤทธิ์ร้อน ควรงดหรือลดไว้ก่อน)

- ผลไม้ฤทธิ์เย็น ได้แก่ แคนตาลู้ป แอปเปิ้ล ชมพู่ ส้มโอ แตงโม สับปะรด กล้วยน้ำว้าห่ามๆ มะละกอห่ามๆ แก้วมังกร มังคุด มะม่วงดิบ ส้มเช้ง เป็นต้น (ทุเรียน ลิ้นจี่ ลำไย ขนุน ฝรั่ง กล้วยหอม กล้วยไข่ มะม่วงสุก กล้วยน้ำว้าสุก มะละกอสุก เป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน ควรงด)

3. วิธีรับประทานอาหาร จะเริ่มที่น้ำปั่นผัก ประกอบด้วย ผักกาดหอม 4 – 5 ใบ มะเขือเทศลูกโต 1 ผล แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล น้ำเปล่า

หนึ่งแก้วครึ่งถึง 2 แก้ว ปั่นในโถปั่น ปั่นเสร็จแล้วบีบมะนาว 1 ผล น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน เมื่อปั่นเสร็จแล้วให้รับประทานทันที ไม่ควรวางทิ้งไว้ เพราะเอนไซม์จากผักและผลไม้จะหมดไป เมื่อรับประทานน้ำปั่นเสร็จแล้ว รับประทานผลไม้ฤทธิ์เย็น ผักสด ข้าว+กับข้าว ถั่วต้ม (ถั่วต้มทานเฉพาะมื้อกลางวัน) สำหรับผักสด ควรทานให้ได้ 1 จาน อาจทำเป็นสลัด (ผักสลัด+มะเขือเทศ) ก็ได้ (น้ำสลัด ทำเองได้ง่ายๆ ใช้น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ + ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา + มะนาว 1 เสี้ยว)

กับข้าว จะเป็นผักนึ่ง ผักต้ม เวลารับประทานก็เอาผักจิ้มเกลือ หรือจิ้มซีอิ๊วขาว หรือถ้าเป็นผัดผัก ก็ผัดกับน้ำและใส่เกลือหรือซีอิ๊วขาวนิดหน่อยให้เค็มเล็กน้อย (เน้นอาหารรสจืด)

ถั่วต้ม ได้แก่ ถั่วเขียว ลูกเดือย ถั่วขาว ถั่วเหลือง ต้มโดยใช้ไฟกลาง (ห้ามใช้ไฟแรง) ต้มพอสุกไม่ให้เปื่อยโดยไม่ใส่น้ำตาล

อาหารหลักมื้อเช้า จะเป็นข้าวต้มถอนพิษ โดยต้มไฟกลาง พอให้ข้าวนิ่ม (ไม่ต้องเปื่อย) พักไว้แล้วตั้งไฟอีกหม้อนึง ใส่น้ำ 1 ถ้วยครึ่ง ต้มฟักเขียว 5 ช้อนโต๊ะพูนๆ หั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ เมื่อฟักเขียวเริ่มจะสุก ใส่ฟักทองที่หั่นเป็นลูกเต๋า 3 ช้อนโต๊ะพูนๆ เมื่อฟักทองเริ่มสุก ให้ใส่ข้าวโพดเป็นเม็ดๆ 3 ช้อนโต๊ะพูนๆ เมื่อสุกดีแล้ว ตักข้าวต้มกับเครื่อง (ฟักเขียว ฟักทอง ข้าวโพด) ผสมกันให้ได้สัดส่วนเท่าๆกัน ใส่เกลือเล็กน้อยหรือซีอิ๊วขาว ให้พอมีรสเค็มน้อยๆ รับประทานได้ทันที บางวันก็สามารถทานข้าวต้มธรรมดา กับเต้าหู้ถั่วเหลืองนึ่ง + ผักนึ่ง จิ้มกับซีอิ๊วขาว

อาหารหลักมื้อกลางวัน จะเป็นข้าวสวย กับผัดผักหรือผักนึ่ง + เต้าหู้นึ่ง ตามด้วยถั่วต้ม

อาหารหลักมื้อเย็น รับประทานข้าวต้ม กับผัดผักหรือผักนึ่ง จิ้มซีอิ๊วขาว

สำคัญที่สุด ก่อนรับประทานอาหารทุกมื้อ ต้องเริ่มที่น้ำปั่นผัก ผลไม้ ผักสดก่อนเสมอ จึงตามด้วยอาหารหลัก

ระหว่างมื้ออาหาร หรืออาหารว่าง ให้รับประทานผลไม้ หรือน้ำปั่นผัก หรือน้ำเต้าหู้ เป็นต้น

4. ดื่มน้ำคลอโรฟิลจากใบย่านาง 20 ใบ ผักบุ้ง 10 ต้น อ่อมแซบ 1 กำมือ ใบตำลึงแก่ๆ 1 กำมือ ใบเตยหอม 5 ใบ ใบรางจืด 6 - 7 ใบ น้ำเปล่า 6 แก้ว ปั่นให้ละเอียดแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่น้ำ แช่ตู้เย็น เวลาจะรับประทานก็ให้นำน้ำคลอโรฟิลที่แช่ไว้ ผสมกับน้ำเปล่า 1 ต่อ 1 ส่วน เพื่อไม่ให้เข้มข้นจนเกินไป

5. ดื่มน้ำต้มใบทุเรียนเทศตากแห้ง ทุกวัน เพราะทุเรียนเทศมีฤทธิ์ในการฆ่าเซลส์มะเร็ง ตามผลวิจัยของต่างประเทศ

6 สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกเช้าและก่อนนอน ต้องไม่เครียด ไม่กังวล ไม่กลัวความตาย ทำใจให้สบาย สงบ หากจิตใจสงบ สบายแล้ว ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้มากขึ้น

7 ออกกำลังกายโดยเดินเร็ว 2 กิโลเมตร หรือแกว่งแขนวันละ 300 – 400 ครั้ง

8 หายใจเข้าปอดลึกๆ นิ่งไว้ นับในใจ 1 ถึง 4..... ผ่อนลมหายใจออกทางปากช้าๆ ช่วงฝึกหายใจให้หลับตาเพื่อทำสมาธิไปในตัว ฝึกหายใจเช่นนี้วันละ 2 - 3 ครั้ง ครั้งละ 30 รอบ (หายใจเข้าและออก นับเป็น 1 รอบ) เพื่อให้อ๊อกซิเจนเข้าสู่ร่างกายให้มาก (มะเร็งไม่ชอบอ๊อกซิเจน)

หลังจากปฎิบัติตัวเช่นนี้ประมาณ 5 เดือน ไปทำ MRI ที่ตับ ปรากฏว่า ไม่พบเซลส์มะเร็งที่ตับอีกต่อไป ตรวจค่าเลือด CEA เพื่อดูค่ามะเร็งพบว่าลดลงไปเหลือเพียง 1.6 (คนปกติมีค่า CEA ไม่เกิน 5)



หมายเหตุ...

1. งดของหมัก ของดอง อาหารทะเล เนื้อสัตว์ นม ไข่ อาหารที่ใส่สารปรุงแต่ง หรือใส่สารกันบูด เพราะสารเหล่านี้จะลดภูมิคุ้มกันของร่างกายลง

2. การปรุงอาหารทุกชนิดที่ต้องผ่านไฟ ให้ใช้ไฟกลาง หรือ ไฟอ่อนเท่านั้น

3. อาหารแต่ละมื้อ ควรเป็นผักและผลไม้ ให้เท่ากับหรือมากกว่าข้าว

4. ซีอิ๊วขาว เลือกยี่ห้อที่ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สี ไม่ใส่วัตถุกันเสีย

5. ผลไม้ที่มีรสหวานมาก ให้รับประทานแต่น้อย



ด้วยความปรารถนาดีจาก

นาง พาณี พันทนา

089-1296119 , 082-6528992

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น