วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 140: งานราตรีสัมพันธ์

140.  สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก

วันนี้ ( 09  กค. 56)  ตัวน้อยทำงานทัวร์เสร็จเร็ว  รีบขับรถกลับบ้าน ก่อนเวลางานบริษัททั้งหลายจะเลิก  เดี๋ยวรถจะติดมาก ๆ เมื่อกลับถึงบ้าน  สิ่งแรกที่ทำคือ เช็คเมล  เตรียมทักทายผู้อ่านที่รัก เพื่อส่งเรื่องตามนัด...วันอังคาร

  ขณะอ่านเมลได้ยิน เสียงฝนตก  ขอบคุณพระเจ้าที่ตัวน้อยไม่ต้องติดแง๊ก  อยู่บนถนน  เมื่อตอนขับรถกลับบ้านรถติดนิดหน่อย  ตัวน้อยยังขับรถไป  อ่านหนังสือไป เพราะยังสว่างมองเห็นตัวหนังสือ (หนังสือที่ตัวน้อยอ่าน คือ คำสอนสำหรับเยาวชน ซึ่งเป็นหนังสือที่ซื้อมาระหว่างอบรมครูคำสอน  เนื้อหาดีมาก ๆ  ขอเชิญชวนให้หาซื้อมาอ่านกันนะคะ)  สงสารคนที่ยังอยู่บนท้องถนน  ขอพระเจ้าเมตตา  และประทานพละกำลังแก่พวกเขาด้วยเทอญ .....

 เมื่อวาน  ตัวน้อยเสร็จงงานค่ำ  ขับรถ  รถติด  ก็ปิดตา  งีบสักหน่อย  กายเหนื่อย  แต่ใจยังตื่น  จึงสวดสายประคำพระเมตตา  ได้ยินเสียงคันหน้าเร่งเครื่อง จึงลืมตา  มาขับรถต่อ  ขับๆ ....หลับ ๆ .....จนถึงบ้านปลอดภัยอีกวัน  ขอบคุณพระเจ้าที่ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

ผู้อ่านที่รักของตัวน้อยคงวุ่นวายกับชีวิต  ตัวน้อยไม่ได้รับข่าวคราวเลย  ขอบคุณเมลดี ๆ ที่ยังส่งถึงกันอยู่  สบายกันดีไหมคะ  ตัวน้อยก็ทำงานทัวร์ ตาจะปิดตั้งแต่ เย็น  เหนื่อยก็รับประทานมากหน่อย  พักผ่อนให้มากอีกหน่อย  สวดภาวนาขอพระเจ้าซ่อมแซม  และเติมพลัง  หากยังมีวันที่ตื่นขึ้นมา (ตัวน้อยเกรงว่าจะไม่ตื่นในสักวัน)   ขอให้มีอะไรดี ๆ ทำถวายพระองค์ ตามพระประสงค์ให้เป็นที่พอพระทัย อีกวัน  และอีกวัน

ตอนนี้เพลงประจำใจตัวน้อย  คือ  อย่าดีกว่าของ ไมโคร  ยังจำกันได้ไหมคะ  รู้จักไหมคะ  เนื้อเพลงคือ

อย่าดีกว่า  ลืมเสียดีกว่า  ลืมเสียเรา  บอกตัวเอง  ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าดีกว่า  ลืมเสียดีกว่า  ลืมเสียเรา  บอกตัวเองได้แต่บอกตัวเอง  ว่าอย่าดีกว่า............

ตัวน้อยแปลงเนื้อ  กรุณาอ่าน  ด้วยทำนองของเพลงนี้นะคะ

อย่าดีกว่า  ลืมเสียดีกว่า  ลืมทุกข์ไป  บอกตัวเอง  ได้แต่บอกตัวเองว่า สุขดีกว่า เป็นทุกข์ทำไม  ลืมเสียเรา  บอกตัวเองได้แต่บอกตัวเอง  ว่ามีความสุข...... ร้องซ้ำไป ซ้ำมา  (ตัวน้อยไม่สงวนลิขสิทธิ์  ขอเชิญให้นำไปใช้ต่อได้   ด้วยใจยินดีคะ)

แล้วตัวน้อยก็จะมีความสุขเกิดขึ้นในหัวใจ   ยิ้มได้อีกครั้ง  เป็นหลักจิตวิทยา  เหมือนกับการสะกดจิตตัวเอง  เป็นใจสั่งใจ  ถ้าเราคิดว่า เราเศร้าใจ  เราก็จะพลอยเศร้าไปจริง ๆ แต่ถ้าคิดว่ามีความสุข  ใจเราก็จะมีความสุข  เริ่มทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุข  คิดในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข  และสามารถนำความสุข  ไปให้แก่คนรอบข้าง  ด้วยรอยยิ้ม  และคำพูดดี ๆ จากความคิดดี ๆ  จากหัวใจดี ๆ  ที่มีความรัก  อยู่เต็มหัวใจ  เพียงเพราะรู้ซึ้งว่าถูกรักมากเพียงใด  ใครเล่าจะรักเรามากกว่าที่พระเจ้าทรงรัก  แค่นี้ก็สุขเกินใคร  ใช่ไหมคะ......

โอ...คนเจ็บที่มีบุญ  พระเจ้าทรงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นเกียรติมงคลยิ่งใหญ่  ที่ท่านสมจะรับ  เพราะความเจ็บปวดของท่าน  คนอื่นสวดภาวนา  อดอาหาร  ตื่นเฝ้าไม่หลับนอน  โบยตนเอง  และทำงานใช้โทษบาปอื่น ๆ ก็ยังได้กุศลไม่เท่าเทียมท่าน  (นักบุญ เปโตร ณ อัลกันดารา  จากหนังสือคู่มือพลมารีย์  หน้า 317)

ตัวน้อยได้พบข้อความนี้  ทำให้รู้สึกว่า  การป่วยไม่ว่าเกิดขึ้ นกับใคร  ก็เป็นกุศลไม่ใช่น้อย  ใจยิ่งเป็นสุข  เป็นการป่วยที่มีคุณค่าจริง ๆ นะคะ  ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน  โดยเฉพาะคนเจ็บป่วย  ไม่ว่าฝ่ายกาย  ใจ  และฝ่ายวิญญาณ  ด้วยคำภาวนาคะ

รัก และคิดถึง ผู้อ่านที่รักของตัวน้อย  อ้อ  เป็นห่วงอีกนิดหน่อย  เพราะวางใจในพระเจ้า  พระองค์ทรงเลี้ยงดูลูก ๆ ของพระองค์อย่างดีที่สุดอยู่แล้ว....จริงไหมคะ...

เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน

เรื่องที่ 140: งานราตรีสัมพันธ์

“จงรับแอกของเราแบกไว้  และมาเป็นศิษย์ของเรา”  มัทธิว 11:29

กิจกรรมในระหว่างการอบรมครูคำสอนภาคฤดูร้อน  ที่ศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรม  ระดับชาติ ปี 2556  ที่ตัวน้อยขอแบ่งปัน  คือ งานราตรีสัมพันธ์  เป็นงานในคืนสุดท้ายของการอบรม  เพื่อเป็นการฉลอง และแสดงความยินดี กับนักศึกษาชั้นปีที่สามที่เรียนจบ  และจะรับวุฒิบัตร ในวันรุ่งขึ้น  รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของนักศึกษาทั้งสามชั้นปี

กิจกรรมเริ่มต้นขึ้นในตอนเย็น  อุ่นเครื่องด้วยกิจกรรมสันทนาการเล็กน้อย ตามด้วยพิธีกรรม ที่น่าประทับใจ คือให้รุ่นพี่ปีสาม  แต่ละคนถือเทียน และทำไปถวายที่โต๊ะบูชา  เหมือนเราได้ถวายตัว ด้วยชีวิตที่จะเป็นแสงสว่าง   แม้ตัวเองจะต้องหลอมละลาย จนกว่าจะหมดวันเวลาของตัวเองในแผนการณ์ของพระเจ้า  คือชีวิตที่ แบกกางเขน ติดตามพระเยซูเจ้า และสละน้ำใจตน  ให้มากขึ้น.. จากนี้ไป

หลังจากนั้น พี่ ๆ ปีสามนั่ง  น้อง ๆ ปีหนึ่งและปีสอง มอบของที่ระลึก  และผูกข้อมือ อวยพร  และร่ำลา
จากนั้นเป็นการแสดงของแต่ละชั้นปี  ปีไหนเริ่มก่อนนั้น  ตัดสินด้วยการขอให้พระคุณเจ้า คุณพ่อ ซีสเตอร์จับฉลาก  เป็นการเรียงลำดับการแสดงได้อย่างน่าอัศจรรย์

เริ่มต้นด้วยการแสดงของชั้นปีสอง เป็นจินตลีลา ในการแสดงเนื้อหาที่ว่า  ในกระแสนิยมโลก พระเจ้าทรงสร้างทุกสรรพสิ่งดี  และเมื่อมนุษย์คู่แรก อาดัม และเอวา ได้ทำบาปแรก คือจองหอง ไม่เชื่อฟังพระเจ้าที่มิให้รับประทานผลไม้ต้นหนึ่งในสวนเอเดน  ทำให้ถูกขับจากสวนสวรรค์  และต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยาก  แล้วพระเจ้าทรงเมตตา ส่งพระบุตรมาบังเกิด เพื่อไถ่กู้เราจากบาป ให้ได้คืนดีกับพระเจ้า  และสามารถกลับสู่สวรรค์บ้านแท้นิรันดรได้อีกครั้ง  จึงเป็นการเปิดประตูความเชื่อ ให้ผู้เชื่อในพระองค์ เป็นผู้หว่านเมล็ดพันธ์แห่งความรักของพระเจ้า  ลงในหัวใจของผู้คน ให้เจริญชีวิตในมรรคาสู่พระเป็นเจ้า

เราใช้เพลงประกอบสองเพลงคือ เพลงแรกเป็น เพลงมันส์ ๆ ทางโลก มีน้อง ๆ ผู้ชาย แต่งเท่ห์ เต้นมัน ๆ แบบอาย ๆ ให้สาว ๆได้กรี๊ด  นึกว่าเป็นนักร้องเกาหลีมาเอง  555  น่ารัก.....

เพลงที่สอง เพลง “เปิดประตูความเชื่อ”  น้อง ๆ ออกมีรีวิว ตามเนื้อหา ได้อย่างสวยงามน่ารัก เรียบง่าย ประหยัด  งดงาม  และมีคุณค่า   ตัวน้อยขอแบ่งปันเนื้อเพลงดี ๆ ให้ผู้อ่านที่รักได้อ่านกันด้วยนะคะ

เพลง ประตูแห่งความเชื่อ
1.    ดวงใจของเราพระเจ้าทรงหว่าน ด้วยเมล็ดพันธุ์แห่งข่าวดี
ดวงใจดวงเดิมดวงนี้ ที่องค์พระจิตส่องสว่างนำทาง
ให้ความเชื่อของเราเติบโต เป็นดั่งเช่นต้นไม้ใหญ่
ยืนหยัดมั่นคงดำรงอยู่ในความจริง
2.    พระวาจาที่พระมอบให้ คือพลังในทุกๆ วัน
พร้อมดำเนินชีวิตด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลพระหรรษทาน
เป็นตะเกียงที่ส่องประกาย เป็นเกลือที่เค็มมิคลาย
ประกาศถึงพระราชัยของพระองค์
เพราะความรักพระเจ้า ผลักดันเราวันนี้ ให้มีชีวีเพื่อเป็นพยาน
ก้าวเข้ามาสู่ประตูแห่งความเชื่อที่รอเราอยู่
เปิดหัวใจและมองดูจะรับรู้ถึงพระเมตตา
โปรดนำเราในทางแห่งความหวัง รักและศรัทธา
ให้เรารู้ว่า ความเชื่อนั้นสร้างชีวิตให้สวยงาม
**ให้ทุกคนได้เข้ามา สู่ความรักที่แสนยิ่งใหญ่
เปิดหัวใจของทุกคนให้รับรู้ถึงพระเมตตา
บอกเรื่องราวความรักที่เรานั้นรับรู้เรื่อยมา
ให้ทุกๆ คนรู้ว่า พระเจ้านั้นทรงรักเรามากเท่าไร
ให้ความเชื่อนั้นได้เติบโตในใจทุกคน

การจับฉลากด้วยพระจิตเจ้าทรงเลือกสรร.... ต่อไปเป็นการแสดงของน้องปีหนึ่ง  น้อง ๆ เล่นเป็นละคร เรื่องครูคำสอน มรณสักขีคนแรกของประเทศไทยซึ่งก็คือครูสีฟอง มีชื่อเต็มว่า... ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์

น้อง ๆ เล่นเป็นละครได้อย่างน่ารัก  สนุกสนานมาก ๆ เก่ง ๆ กันทุกคนเลย  เมื่อไรที่คิดถึงก็ยิ้มได้  ฮาดี.... ชอบ..ชอบ.... กด Like พันครั้ง

 ตัวน้อยขอแบ่งปัน ประวัติมรณสักขี บุญยราศี ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์  พอสังเขป

ข้อมูลจาก  GOOLE

ครูสีฟอง มีชื่อเต็มว่า... ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์
เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2450 ที่วัดนักบุญอันนา หนองแสง อ.เมือง จ.นครพนม เป็นบุตรชายของนายอินตอง และนางเพ็ง นายอินตองเป็นคริสตังกลับใจมาจากบ้านยานาง ที่อยู่ไม่ไกลจากหนองแสงมากนัก นายอินตองเคยสมัครเข้าบ้านเณร เป็นครูเรียนที่วัดหนองแสง ส่วนนางเพ็งเคยเป็นซิสเตอร์ เป็นคนมาจากซำเหนือ ประเทศลาว
ครูสีฟองได้รับการศึกษาขั้นต้น ที่โรงเรียนวัดหนองแสง เมื่อจบได้เข้าศึกษาต่อที่บ้านเณรเล็กพระหฤทัย บางช้าง จ.สมุทรสงคราม ขณะอายุได้ประมาณ 12-13 ปี เป็นเณรอยู่ประมาณ 3-4 ปี ล้มเจ็บลง ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ กรุงเทพฯ ขณะรักษาตัวอยู่นั้นครูคนหนึ่งมาเยี่ยม เห็นเณรสีฟองเหงาจึงชวนไปดูหนังด้วยกัน ซิสเตอร์ที่โรงพยาบาลตรวจพบว่า เณรสีฟองหนีออกไปชมภาพยนตร์ ได้รายงานผ่านคุณพ่อโชแรง ซึ่งเป็นเหรัญญิกของมิสซังกรุงเทพฯ ไปถึงคุณพ่ออธิการบ้านเณร คือคุณพ่อการ์ตอง เณรสีฟองจึงถูกสั่งให้พ้นสภาพเณร และส่งตัวกลับบ้าน เณรสีฟองต้องออกจากบ้านเณรด้วยความเสียใจและผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม ท่านก็ไม่หมดหวังในชีวิต ได้สมัครเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดนครพนม เมื่อจบชั้นมัธยม ทางมิสซังต้องการครู ครูสีฟองจึงต้องออกจากโรงเรียนมาเป็นครูที่วัดสองคอน ลงเรือล่องไปตามน้ำโขง เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดในสมัยนั้น ท่านมาถึงสองคอนประมาณ ปี พ.ศ.2469 นอกจากจะสอนเรียนแล้ว ท่านยังสอนให้ชาวบ้านรู้จักตัดเสื้อผ้า ช่วยดูแลวัด ตลอดจนสอนคำสอนช่วยคุณพ่อเจ้าอาวาส และซิสเตอร์ด้วย
ครูสีฟอง แต่งงานกับมารีอา ทอง ชาวบ้านเชียงยืน เมื่อปี พ.ศ.2474 มีบุตรธิดา รวม 5 คน
ครูสีฟอง เป็นคนดี ศรัทธา สุภาพ อ่อนหวาน มีเมตตาต่อทุกคน ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ทำงานด้วยความทุ่มเท ท่านได้รับความเคารพนับถือมาก จนชาวบ้านเรียกท่านว่า "พ่อครู" และเรียกภรรยาของท่านว่า "แม่"
ครูสีฟอง ได้แสดงความเชื่อ ความมั่นคงในพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างกล้าหาญ เป็นแบบอย่างและนำผู้อื่นให้มั่นคงในความเชื่อ อันเป็นสาเหตุให้ท่านต้องจบชีวิตลงด้วยความโหดร้าย นับเป็นวีรกรรมสูงส่งที่ควรแก่การยกย่องสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง
ช่วงปลายปี พ.ศ. 2483 ได้เกิดกรณีพิพาทอินโดจีนขึ้นระหว่างประเทศไทยกับประเทศฝรั่งเศส คริสตจักรโรมันคาทอลิกในประเทศไทยซึ่งอยู่ในความดูแลของบาทหลวงชาวฝรั่งเศสคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีสจึงถูกตั้งข้อรังเกียจไปด้วย การเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชนเกิดขึ้นหลายแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งที่หมู่บ้านสองคอน จังหวัดนครพนม ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดเป็นชาวคาทอลิก บาทหลวงปอล ฟีเก อธิการโบสถ์แม่พระไถ่ทาสซึ่งเป็นโบสถ์ประจำชุมชน ได้ถูกขับออกนอกประเทศ ครูสีฟอง อ่อนพิทักษ์ และซิสเตอร์อีก 2 คน คือ ซิสเตอร์พิลา ทิพย์สุข ซิสเตอร์คำบาง สีฟอง จึงช่วยกันดูแลความเชื่อของชาวบ้านแทน การเบียดเบียนยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ มีซิสเตอร์ถูกข่มขืน รูปศักดิ์สิทธิ์ถูกเหยียมหยามทำลาย ครูสีฟองจึงเขียนจดหมายร้องเรียนไปยังนายอำเภอมุกดาหาร แต่จดหมายนั้นกลับตกไปอยู่ในมือของตำรวจ ตำรวจจึงเขียนจดหมายปลอมว่านายอำเภอให้ครูสีฟองไปพบ ตำรวจลือ เมืองโคตร และตำรวจหน่อ พาครูสีฟองออกจากบ้านสองคอนตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พอเช้าวันที่ 16 ตำรวจลือก็ยิงครูสีฟองเสียชีวิตที่บ้านพาลุกา นับเป็นชาวไทยคาทอลิกคนแรกที่ได้พลีชีพเป็นมรณสักขี[3]

ตัวน้อยได้ดูละครที่น้อง ๆปีหนึ่งเล่น  ประวัติชีวิต ครูคำสอน  มรณศักขี ฟิลิป สีฟอง อ่อนพิทักษ์ ทำให้ตัวน้อยจดจำเรื่องของท่านได้อย่างชัดเจน  แบบอย่างชีวิตคริสตชนที่ติดตามพระเยซูเจ้า  ด้วยความเข้มแข็ง  และกล้าหาญ  คนที่รักพระเจ้าก็จะเป็นคนที่น่ารักแบบนี้  คือเป็นคนดี  สุภาพ  อ่อนหวาน  มีเมตตาต่อทุกคน เป็นคนตรงไปตรงมา  ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  และทุ่มเทในการทำงาน  เพื่อรับใช้พระเจ้า  และเพื่อนมนุษย์  จนกว่าชีวิตจะหาไม่....  ผู้รัก  ศรัทธา  รับใช้พระเจ้าด้วยการรับใช้เพื่อนมนุษย์  พากเพียร  กันต่อไป  สู้...สู้....  ตัวน้อยขอเป็นกำลังใจให้  อย่างน้อยในคำภาวนาคะ....

  การแสดงที่สาม  เป็นการแสดงปิดท้าย ด้วยมินิคอนเสริต ของพี่ปีสาม  อลังการ  งดงาม และสนุกมาก   เราน้อง ๆ ที่อยู่ข้างล่าง  ก็ร่วมมันส์... เต้นกันเย้ว...เย้ว...  แล้วการรับประทานอาหารเย็นก็เริ่มตอนค่ำ ประกอบ  การร้องคาราโอเกะกันอย่างสนุกสนาน เมื่องานจบก็ช่วยกันเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อย  พักผ่อนด้วยความสุข  อาลัย และประทับใจ

วันรุ่งขึ้นเป็นวันรับวุฒิบัตร  พิธีการ และสถานที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างดี  งดงาม เพื่อแสดงความยินดีกับพี่ปีสาม  เสียดายที่ตัวน้อยไม่ได้อยู่ร่วมในพิธี  เพราะไปรับน้องที่ป่วยออกจากโรงพยาบาล  ด้วยหัวใจของคนป่วยที่เข้าใจคนป่วยมากที่สุด  ตัวน้อยจึงดูแลน้องที่ป่วยอย่างใส่ใจ  และห่วงใย

ขอขอบคุณพระเจ้าที่ตัวน้อยได้ป่วย  ถ้าไม่ป่วยคงไม่เข้าใจความทุกข์...ทรมานทั้งกาย  และใจของคนป่วย....  ไม่ว่าอย่างไร  เมื่อป่วยก็ต้องรักษากันไป  คนป่วยก็ทำได้แค่อดทน กับอดทน  และ สวดภาวนาขอให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างสงบใจ  มีสันติสุขในใจ  และขอความชื่มชมยินดี  มาเป็นความหวานเติมชีวิตที่เฝื่อนขมทุกข์ระทมนี้ด้วยเทอญ....

ตัวน้อยกลับมาบ้านด้วยใจที่อาลัย  คิดถึงพี่น้องฝองเพื่อน ขอขอบพระคุณคุณพ่อ  คุณครู  เจ้าหน้าที่ทุกท่าน โดยเฉพาะซีสเตอร์อธิการที่เหน็ดหนื่อยมาก ๆ ปีนี้ท่านจำชื่อพวกเราเกือบสองร้อยคน  ทักทาย  เรียกชื่อได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ  กิจกรรมมากมายที่ท่านเตรียมจัดให้เราได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าจริง ๆ

ขอบคุณพี่น้องฝองเพื่อนทุกคน  โดยเฉพาะน้องในกลุ่ม  และพี่น้องชั้นปีสอง  ที่ดูแล  ห่วงใย  ตัวน้อยอย่างดี  ตัวน้อยได้สิทธิ์พิเศษ  เพราะไม่ค่อยแข็งแรง  เพิ่งเสร็จจากการรักษาโรคร้ายไม่นาน  เลยไม่ค่อยได้ทำอะไร  ไม่ทำอะไร  ทุกคนก็เข้าใจ  ตัวน้อยพยายามทำในสิ่งที่ตัวน้อยทำได้  ตัวน้อยได้รับการโอบอุ้มดูแลอย่างดี  ด้วยความรักของพระเจ้าผ่านทางพี่น้องฝองเพื่อน  ตลอดจนคุณพ่อ  คุณครู  และซีสเตอร์อธิการ  ก็ห่วงใย  และเป็นกำลังใจให้ตัวน้อย

 ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิตใจ  และขอขอบคุณพี่น้องฝองเพื่อน และทุก ๆ คนจากทั้งหมดของหัวใจ

หกสัปดาห์ที่กิน นอน เรียน เล่น  ด้วยกัน สร้างความผูกพันมิใช่น้อย  กลับมาอยู่บ้าน เหงาใจจัง...ปีหน้าพบกันใหม่นะคะ  .....

ปีหน้ากับการเรียนอบรมครูคำสอนภาคฤดูร้อน  ชั้นปีที่ 3 ปีสุดท้าย  ตัวน้อยคงมีเรื่องราวมากมายมาแบ่งปันให้ผู้อ่านที่รักได้อ่านกันอีก...  หวังว่า  ตัวน้อยจะยังแข็งแรงดี...  เรายังสวดภาวนาให้กันและกันอยู่ใช่ไหมคะ....

 “เมื่อมนุษย์สูญเสียการมองเห็นพระเจ้า  สันติสุขก็จะแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ และความรุนแรงก็เข้ามาครอบงำด้วยความโหดร้ายทารุณในแบบที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลย  สิ่งนี้เราเห็นได้ชัดเจนยิ่งแท้แม้กระทั่งในทุกวันนี้”  (ข้อความจากหนังสือพระเยซูแห่งนาซาเล็ธ  เล่ม 1 หน้า 171)

“เราจึงขอร้องท่าน  แทนพระคริสตเจ้าว่า  จงยอมคืนดีกับพระเจ้าเถิด” 2 โครินทร์ 5:20

“การอยู่ภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระเจ้า  มั่นคงปลอดภัยอยู่ในความรักของพระองค์  นั่นแหละคือความบรรเทาที่แท้จริง” (ข้อความจากหนังสือพระเยซูแห่งนาซาเล็ธ เล่ม 1  หน้า 175)

“พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนการร้องไห้ของข้าพเจ้าให้กลายเป็นความยินดี  และทรงห้อมล้อมข้าพเจ้าด้วยความชื่นชม”  สดุดี 29:12

ขอสรรเสริญพระเจ้าตลอดนิรันดร์ อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย
06.06.2556 เขียนเสร็จ
.09.07.2556 เขียนเพิ่ม และส่งเมล
พบกันใหม่   วันอังคาร  กับเรื่องที่ 141: ไม่เข้าใจ
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com  หรือ  เข้า GOOLE -- CATHOLIC BY MY STORY   เรื่องที่....  ก็จะได้อ่านเรื่องของตัวน้อยเช่นกันคะ
ปล.  ตัวน้อยขอช่วยประชาสัมพันธ์สองงาน  จากเมลที่ได้รับมา
1. สังฆมณฑลจันทบุรี และ กลุ่มพระเมตตาจันท์ฯ
                         จัดฟื้นฟูจิตใจประจำปีสำหรับสัตบุรุษ
                           วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2013
                                     08.00-16.00 น.
                 ณ วัดพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า  อ.ขลุง  จ.จันทบุรี
ติดต่อคุณ  แดง (วรรณา สายสุทธิ์ 081-7825623)
2. กำหนดการงานเฉลิมฉลอง “ปีแห่งความเชื่อระดับชาติ”
วันศุกร์ที่ 19 - วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2013
ณ โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ สามพราน

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 หัวข้อ : “ความเชื่อกับเยาวชนคนรุ่นใหม่”

เวลา 08.00 - 15.00 น. หัวข้อ “ความเชื่อกับเยาวชนคนรุ่นใหม่”
กิจกรรมหลัก การชุมนุมของนักเรียนคาทอลิก

เวลา 17.00 - 21.00 น. ประกอบด้วย 2 กิจกรรม
1) การชุมนุมของเยาวชน ณ บ้านสวนยอแซฟ สามพราน
2) การชุมนุมครอบครัว ณ บ้านซาวีโอ สามพราน

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 หัวข้อ : “ความเชื่อคือบ่อเกิดแห่งกระแสเรียก”

เวลา 07.00 - 09.00 น. ทุกคนชุมนุมพร้อมกันที่หอประชุมเซนต์ไมเกิ้ล เพื่อ
รับประทานอาหารเช้า
ชมวีดีทัศน์ “ความเชื่อ - การประกาศข่าวดี”
พิธีศีลอภัยบาป
เคารพพระธาตุบุญราศี

เวลา 09.00 - 10.00 น. ขบวน “ธรรมยาตรา” แห่พระธาตุบุญราศี สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 พระธาตุบุญราศีทั้ง 7 แห่งสองคอน และพระธาตุบุญราศี คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง
จากหอประชุมเซนต์ไมเกิ้ล เคลื่อนขบวนสู่หอประชุมบุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2

เวลา 10.00 - 12.30 น.
* พิธีบูชาขอบพระคุณ และพิธีบวชสังฆานุกร
* พิธีแต่งตั้งผู้ช่วยพิธีกรรม และผู้อ่านพระคัมภีร์
* * * * * * * * * *
เชิญชมนิทรรศการกระแสเรียกจากคณะนักบวชและคณะกิจกรรมฆราวาสต่างๆ
ณ บริเวณโรงยิมโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ แผนกชาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น