57.สวัสดีคะ ผู้อ่านที่รัก
ตัวน้อยเขียนเรื่องนี้ เมื่อสิบเอ็ดวันที่แล้ว ในบางส่วนเขียนเพื่อตั้งใจปลอบใจใครหลาย ๆ คนที่เจ็บป่วยอยู่ ไม่น่าเชื่อว่า วันที่ต้องปลอบใจตัวเอง จะมาถึงเร็วขนาดนี้ เหมือนเห็นใจ เข้าใจ สงสาร สวดภาวนาเพื่อ คนอื่น อยู่ หารู้ไม่ว่า ในตัวเอง ก็มีระเบิดนิวเคียล์อยู่เช่นกัน
นึกถึงคำสอนของพระเยซูที่ว่า จงคิดว่าผู้อื่นนั้นดีกว่าตน
จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้คิดได้ว่า ได้รับที่ดินมาผืนหนึ่ง ในที่ผืนนี้เป็นขุมทองคำ เงื่อนไขข้อเดียว คือ ถ้าอยากได้ทองคำ ต้องขุดด้วยตัวเอง
ตัวน้อยอยากได้มาก ๆ ตัวน้อยก็เริ่มขุด คนที่ไม่เคยทำงานหนัก ต้องมาจับจอบ จับเสียมขุด ๆๆๆๆ มือมันก็เจ็บ ฟอง ปวดร้าวไปทั้งตัว หกล้มหกลุก หัวคะม่ำ บางทีดินยังแกล้ง ถล่มทับ ฝนตกก็ตกซัดซาด เปียกไปทั้งตัว หนาวไปถึงหัวใจ เหนื่อยก็พัก เจ็บป่วยก็รักษา และถ้ายังอยากได้ทองคำอยุ่ ก็ต้องขุดต่อไป ขุดต่อไป ..... จนกว่าจะเจอ ถ้าเลิก ถ้าท้อ คงเสียแรงเปล่า เมื่อเริ่มต้นแล้ว ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด
ทองคำที่ก่อนจะบริสุทธ์ ต้องผ่านการเผาไฟ เช่นไร ชีวิต ในมรรคาศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตแห่งพระหรรษทาน ก็ต้องแบกกางเขน สละน้ำใจตน รัก ซื่อสัตย์ มั่งคง ไปจนสุดปลายทาง แห่งสวรรค์ และชีวิตนิรันดร เช่นนั้น
จงพากเพียรไปเถิดจะเกิดผล
ขอขอบคุณ เมลกำลังใจ ความห่วงใย ใส่ใจที่มีให้กัน
ดูแลกาย ใจ และจิต ให้แข็งแรงอยู่เสมอนะคะ ด้วยรัก และห่วงใย จากทั้งหมดของหัวใจของตัวน้อย....
ข้าพเจ้ารู้สึกแน่วแน่ว่า ความจริงมีอานุภาพ และจะได้ชัยชนะ เพราะมีพระพรจากพระเป็นเจ้าคุ้มครองอยู่ ซานตานจะทำได้เพียงยับยั้งชัยชนะนี่ให้ช้าลงเท่านั้น แต่จะไม่มีวันขัดขวางได้เลย (วาจาของท่านนิวแมน จาก หนังสือคู่มือพลมารีย์ หน้า 421-422)
สำเร็จ ก็ดีใจ ไม่สำเร็จ คือ ความสำเร็จที่ต้องรอ หนังสือคู่มือพลมารีย์ หน้า 406
บรรดาคนที่ฉลาดจะส่องแสงเหมือนแสงฟ้า และบรรดาผู้ที่ได้ให้คนเป็นมาก มาสู่ความชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนอย่างดาว เป็นนิตย์นิรันดร์ เดเนียล 12:3
เอาหล่ะคะ ตอนนี้ เชิญอ่าน
เรื่องที่57: วิชานอน
เพราะไม่เคยมีถ้อยคำของบรรดาประกาศกที่มาจากเจตนารมณ์ของมนุษย์ แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำซึ่งมาจากพระเจ้าตามที่พระจิตทรงดลใจ 2 เปโตร 1:21
วิชาที่สองที่ตัวน้อยประทับใจ และขอกล่าวถึง คือ วิชานอน พวกเราเรียกวิชานี้ว่า วิชานอน จริง ๆ แล้ว ชื่อวิชานี้ คือการภาวนาในชีวิตคริสตชน
ในการเรียนครั้งที่หนึ่ง คุณพ่อได้สอน ( เสี้ยวเล็ก ๆ ของบทเรียนมากมายที่คุณพ่อสอน) เริ่มต้นด้วย
มนุษย์ดำรงชีวิตได้ด้วยปัจจัยสี่
๑.อาหาร (คือธาตุดิน) เราขาดได้ 45-50 วัน
๒.น้ำ (คือธาตุน้ำ) เราขาดได้ 3-5 วัน
๓.อากาศ(คือธาตุลม) เราขาดได้ 8-10 นาที
๔. พลังชีวิต (คือลมปราณ ธาตุไฟ) ขาดไม่ได้เลย เพราะพลังชีวิตมาจากพระเจ้า เมื่อครั้งพระเจ้าทรงสร้างโลก และสรรพสิ่ง ทั้งหลาย ทรงปั้นมนุษย์จากดิน และทรงเป่าลมปราณทำให้มนุษย์มีชีวิต และจิตวิญญาณ และความอำเภอใจ
พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต ปฐมกาล 1:7
วงจรงชีวิตของมนุษย์คือ เกิด เด็ก หนุ่มสาว รับปริญญา ทำงาน แต่งงาน เลี้ยงลูก แก่ชรา เจ็บป่วย และตายในที่สุด
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตัวน้อยได้รู้จักกับผู้คนที่เจ็บป่วยมากมาย ขอนอกเรื่องที่คุณพ่อสอนนิดหนึ่งนะคะ
หลายคนที่เจ็บป่วย หลายคนที่เป็นมะเร็ง แม้แต่ตัวน้อยเอง ก็มีความผิดปกติของร่างกายที่ตรวจพบอยู่ แน่นอน เมื่อทุกคนรู้ว่า ตัวเองป่วย โดยเฉพาะเป็นโรคร้าย
ตัวน้อยจะบอกตัวเอง เหมือนที่เพิ่งได้รับการสอนถึงวงจงชีวิต แม้คำสอนที่เราได้ยินอยู่บ่อย ๆ คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องสัจธรรมของชีวิต ไม่มีใครหนีพ้น
วันหนึ่ง ตัวน้อยคงต้องป่วยหนักกว่านี้ ถ้าเป็นตัวน้อย ตัวน้อยจะทำอย่างไร
อย่างแรก คือ ต้องทำใจ ในเมื่อมันเป็นแล้ว เราไม่ได้เป็นคนเดียว ทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาแห่งความเจ็บป่วยนี้ แต่จะคิด จะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
ทำใจให้สงบ สวดภาวนาด้วยความวางใจ น้อมรับทุกอย่าง ฝากไว้ในพระเมตตาของพระเจ้า ใช้เวลาเศร้า อย่าให้นาน ทำใจให้เบิกบาน แจ่มใส ผ่านวันเวลาที่ยังเหลืออยู่อย่างมีค่า มีความหมาย มีความสุข เพื่อคนที่รัก เพื่อคนอื่นๆ เพื่อพระเจ้าที่รัก และเฝ้ารอ พระองค์ทรงเตรียมอาณาจักรสวรรค์ บ้านแท้นิรันดร และ เฝ้ารอเราเหมือนเจ้าบ่าว ที่รอเจ้าสาว
ไม่ช้า ก็เร็ว เราต้องจากโลกนี้อยู่ดี ตัวน้อยมาถามใจตัวเอง ตายแล้วไปไหน คำตอบก็คือ สวรรค์ หรือนรก
นรก มันเป็นไฟ ร้อนมาก ๆ ต้องอยู่ในความร้อนมาก ๆ ชั่วนิรันดร์ ตัวน้อยไม่ชอบเลย แค่อากาศร้อน ๆ สามสิบห้าองศาก็แย่แล้ว ยิ่งงานของตัวน้อยทำให้ต้องสัมผัสความร้อนมากกว่าคนอื่น ๆ แต่...ในนรกร้อนกว่านั้น ....
ตัวน้อยไปทราบหรอกว่า ร้อนแค่ไหน เพราะยังไม่เคยไป แต่เห็นบ่อน้ำพุร้อนนรกที่ญี่ปุ่นร้อยกว่าองศา น้ำเดือด ปุด ๆ แค่เห็น ก็ไม่อยากลงไปแตะ อย่าว่าแต่แช่เลย สำหรับตัวน้อย สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือ กลัวตกนรก ( ตามที่แบ่งปันไปแล้วในเรื่องที่26 สวรรค์ นรก) ดังนั้น ตัวน้อยจะขอไปสวรรค์ดีกว่า และดีที่สุด ดีแน่ ๆ ไปด้วยกันนะคะ
แต่จะไปสวรรค์ต้องทำอย่างไร
ต้องติดตามพระเยซูเจ้า แบกกางเขนของตน ยึดมั่นในพระบัญญัติแห่งรัก นั่นก็คือ จงรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ สุดสติปัญญา สุดวิญญาณ สุดพลกำลัง และรักเพื่อนมนุษย์ เหมือนรักตัวเอง (มัทธิว 22:37-38) ดังนั้น เราต้องประกาศข่าวดี เผยแผ่ ความรักของพระเจ้า ชีวิต พระวาจา และคำสอนของพระเยซูคริสตเจ้า ช่วยให้ทุกวิญญาณได้ไปสวรรค์ และ ต้องวางใจในพระเมตตา สวดภาวนา พึ่งพาพระองค์เสมอ
สำหรับตัวน้อย ขาดสวดอะไรก็ขาดได้ แต่อย่าขาดสวดพระเมตตา เพราะพระเมตตา คือใบผ่านทางไปสวรรค์ ที่พระเยซูทรงประทานให้แก่เรา ด้วยความรัก และเมตตาอันสุดจะหยั่งได้ของพระองค์
กลับมาที่บทเรียน ข้อมูลที่น่าสนใจ ที่ตัวน้อยจดไว้
ผลกระทบของอารมณ์ลบ ต่อสมอง และร่างกาย
ความโกรธ ก่อให้เกิด โรคหัวใจ ความดัน
ความกลัว ก่อให้เกิด โรคความดันต่ำ และท้องเสีย
ความอิจฉา ก่อให้เกิด โรคท้องผูก โรคทางเดินอาหาร
ความหงุดหงิด ก่อให้เกิด โรคกระเพราะ โรคลำไส้
ความกดดัน ก่อให้เกิด โรคมะเร็ง
ความระแวง ก่อให้เกิด โรคปวดศีรษะ และไมเกรน
ดังนั้น เพื่อให้เรามีสุขภาพกาย และใจที่แข็งแรง ต้องออกกำลังจิต คือ การอยู่นิ่ง
สวดถวายตัว ถวายกิจการในทุกวัน ขอบคุณพระเจ้าที่ตื่นมา และยังมีลมหายใจ ให้คิดบวก เสมอ
นี่คือการเรียนหนึ่งครั้งที่ตัวน้อยจดไว้ เป็นอะไรที่มีประโยชน์จริง ๆ ใช่ไหมคะ แล้วตัวน้อยเรียนตั้งสามสิบวัน ศีรษะตัวน้อยบวมโต หนัก ยิ่งกว่าแตงโม ทุกวิชาที่เรียนเนื้อหาน่าสนใจ จะค่อยๆ แบ่งปันเป็นน้ำจิ้ม เพราะแบ่งปันทั้งหมดคงไม่ไหว
ขอเชิญชวน....มาเรียนด้วยกัน ปีหน้า จะเปิดกลางเดือนมีนาคม เป็นเวลาหกอาทิตย์ปกติ ปีนี้(2555) สี่สัปดาห์ เพราะหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำท่วม ปีหน้ามาเรียน ด้วยกันนะคะ สนุกมาก ๆ ขอบอก.....โหด มัน ฮา ..ดี
เมื่อเรียนทฤษฎีเสร็จ เราก็ฝึกปฏิบัติ เริ่มจากนั่งในท่าสมาธิ หายใจลึก ๆ เลือกคำที่ชอบ เช่น มารานาธา (แปลว่าเชิญเสด็จมาพระเจ้าข้า....) หรือ เย...ซู... เป็นต้น หายใจเข้า หายใจออกลึก ๆ ช้า ๆ เบา ๆ ให้ลมหาย หรือลมปราณเข้าไปถึงท้อง รู้สึกถึงการยุบฟองของท้อง ให้หายใจเข้าท้องฟอง หายใจออกท้องแฟบ มีสติอยู่กับพระเจ้าในปัจจุบัน
จากท่านั่ง ก็เป็นท่านอน ท่านี้พวกเราชอบมาก คุณพ่อรู้ทันบอกเลยว่า หลับได้ แต่อย่ากรนดัง จะรบกวนคนข้าง ๆ ..555
เราฝึกช่วงเช้าหนึ่งรอบ ตอนช่วงบ่ายอีกหนึ่งรอบ การฝึกจิตภาวนาด้วยลมปราณของพระเจ้าแบบนี้ ตัวน้อยเคยฝึกแล้ว กับบราเดอร์ชุมพล (ตามที่แบ่งปันไปแล้วในเรื่องที่23 สิบนาที ของความคิด) แต่มีเวลาฝึก และข้อมูลที่ละเอียดกว่า เพราะฝึกสองคืนสามวัน..หรือหนึ่งคืนสองวัน ชักจำไม่ค่อยได้
สิ่งหนึ่งที่ตัวน้อยประทับใจเป็นพิเศษ คือ คุณพ่อแจกแผ่นพับ เป็นรูปซีสเตอร์ หรือนักบุญองค์ใดก็ไม่ทราบ ภาวนาอยู่หน้ากางเขน และมีแสงจากกางเขนส่องส่งมาที่หน้าผากซีสเตอร์ ทำให้ตัวน้อย รู้สึกถึงตัวเองเวลามองกางเขน จนกระทั่งได้แต่งเพลง จากใจพระเยซู
ตัวน้อยรู้สึกร้อนรน จนขอคุณพ่อคุยบอกว่า ตัวน้อยเห็นแผ่นพับนี้ แล้ว ตัวน้อยอยากให้เพื่อน ๆ ในชั้นเรียนได้รู้ซึ้ง ได้เข้าใจความรักของพระเยซู ตัวน้อยร้องเพลงให้คุณพ่อฟัง คุณพ่อกรุณาฟังไปครึ่งค่อนเพลง แล้วก็บอกว่า พ่อจะพูดถึงพระเยซู และการกางตรึงกางเขน แล้วจะให้ร้อง....
ระหว่างเรียน ตัวน้อยก็แอบลุ้น.... จะได้ร้องหรือเปล่าน้า.... ร้องก็ได้ ไม่ร้องก็ดี แต่ถ้าพระเยซูเจ้าทรง ประสงค์ให้ตัวน้อยร้อง ตัวน้อยก็จะได้ร้องเอง และในช่วงสุดท้าย ก่อนเลิกเรียน ขณะนั่งรำพึงภาวนากัน ตัวน้อยได้ร้อง ตัวน้อย แบ่งปันโดยถือแผ่นพับให้เพื่อน ๆ ดู
พูดว่า “เมื่อแต่ละคน ได้มองกางเขนแล้ว เห็นอะไร คิดถึงอะไร แล้วอยากทราบไหมว่า พระเยซูทรงปรารถนาที่จะบอกอะไรกับเรา ลองฟังเพลงนี้นะคะ” แล้วตัวน้อยก็ร้องเพลง จากใจพระเยซู เนื้อเพลงว่า
เจ้าเห็นความรักเราไหม เราได้ตรึงกางเขนเพื่อเจ้า
รอยบาดแผลเจ็บลึกสุดเศร้า เห็นไหม เรารักเจ้าเพียงใด
ยามใดที่เจ้าอ่อนแอ ยามใดเจ้าแพ้การผจญ
หัวใจเราทุกข์สุดเกินทน เจ้าทุกคนจงสำนึกรีบกลับใจ
จงหันมาพึ่งพระเมตตา นำพารักเราโอบอุ้มเจ้า
เราจะคุ้มเจ้าให้รอดจากเงา ความขลาดเขลา จงหายไปจากใจ
จงมั่นสวดภาวนา ทุกเวลาเช้าค่ำ พร่ำวิงวอน
แล้วเราจะให้ทุกพระพร นำคำสอน สู่ใจในทุกวัน
เจ้าเห็นความรักเราไหม เราได้ตรึงกางเขนเพื่อเจ้า
รอยบาดแผลเจ็บลึกสุดเศร้า เห็นไหม เรารักเจ้าเพียงใด.
เมื่อตัวน้อยเริ่มร้องไปเรื่อย ๆ ตัวน้อย เห็น เพื่อน ๆ หลายคนหลับตา เมื่อร้องจบ ตัวน้อยไม่ทราบทุกคน คิดหรือรู้สึกอย่างไร
ตัวน้อยไม่ได้ปรารถนาจะอวดตน ว่าแต่งเพลงได้ แต่ปรารถให้ทุกคนได้รับรู้ รู้ซึ้งถึงความรักของพระเยซูเจ้า เมื่อร้องเสร็จ ท่าทีของตัวน้อยคือ สงบ....สำรวม หน้าเหลือสองนิ้ว เพราะคิดว่า จะมีคนที่ชอบบ้างไหมน้า... หรือว่า เขาอาจไม่คิดว่าเพลงเพราะ หรืออาจจะหมั่นไส้..หรือเปล่า... ต่างจิต ก็ต่างใจ แต่ตอนนั้น ความรู้สึกจากภายใน มันร้อนรน ทนอยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไร ไม่ได้จริง ๆ
แล้วในวันต่อ ๆ มา ได้มีโอกาสคุย กับเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน เขาชมว่าเพลงเพราะ และเขาน้ำตาไหล เพื่อน อีกคนที่อยู่ด้วย เขาก็บอกว่า เขาน้ำตาไหลเช่นกัน... เพื่อนบอกว่า ถ้าคนที่ประสบการณ์กับความรักของพระเจ้า จะซึ้งใจ....
ตัวน้อยอดดีใจ ปลื้มใจเล็ก ๆ หางกระดิกนิด ๆ ไม่ได้จริง ๆ อย่างน้อย จากเพื่อนรุ่นปีหนึ่ง แปดสิบเจ็ดคน มีอย่างน้อยสองคน ที่ชอบเพลงของตัวน้อย....ดีใจจัง ดีใจจริง.....เย้..เย... พระเจ้าข้า ตัวน้อยทำดีแล้วใช่ไหม พระเจ้าข้า....
เพราะการนอนภาวนานี้เอง ทำให้พวกเราเรียกวิชาการภาวนาในชีวิตคริสตชน วิชานอน เพราะ เป็นช่วงเวลาแห่งความเรียนรู้ที่มีความสุขสบายที่สุดจริง ๆ
แต่จากนั้น การเรียนเป็นเนื้อหาล้วน ๆ เป็นข้อสอบแบบให้ตอบเป็นอัตนัย ตัวน้อยเขียนเก็บไว้ อยากอ่านไหมคะ เนื้อหาล้วน ๆ ถ้าอยากอ่านส่งเมลมาขอหน่อยนะคะ ๆ...
ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่ง และติดตามพระองค์แล้ว มาระโก 10:28
ถ้าท่านอยากเข้าสู่ชีวิตนิรันดร ก็จงปฏิบัติตามบทบัญญัติเถิด มัทธิว 19:17
ความทุกข์ทรมานในปัจจุบัน เปรียบไม่ได้เลยกับพระสิริรุ่งโรจน์ที่จะทรงบันดาลให้ปรากฏแก่เรา โรม8:18
ความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์นำไปสู่ความตาย แต่ความปรารถนาของพระจิตเจ้า นำไปสู่ชีวิต และสันติ โรม 8:6
พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์เพราะบาปของเรา (1 โครินทร์ 15:3) นักบุญฟรังซีสกล่าวว่า “ไม่ใช่ปีศาจหรอก ที่ตรึงพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน แต่เป็นพวกท่านนั้นแหละ ที่ตรึงพระองค์ พวกท่านก็ยังคงตรึงพระอยู่อีก คือทุกครั้งที่พวกท่าน ปล่อยใจไปกับพยศชั่ว และบาปต่าง ๆ จากหนังสือ คาทอลิกสอนอะไร หน้า 38
ผู้ใดอยากติดตามเรา ก็ให้เลิกคิดถึงตนเอง ให้แบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา มาระโก 8:34
ท่านอยากได้อะไร ก็จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ ยอห์น 15:7
ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับพระเจ้า ลูกา 1:37
จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะบำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่ มัทธิว5:12
08.05.2555 เขียนเสร็จ
27.05.2555 เขียนเพิ่มและส่งเมล
พบกันใหม่วันพฤหัสบดี กับเรื่องที่58: คุณพ่อนักมายากล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น