วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เรื่องที่60:วิชาพระบัญญัติประการที่1-4

60.สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                วันพฤหัสบดี  ตัวน้อยออกจากห้องผ่าตัด  คงไม่สะดวกส่งเรื่อง  ขอส่งวันนี้เลยนะคะ
                เมื่อทักทายในเรื่องที่แล้ว  ตัวน้อย....อารมณ์แบบ...สุดแต่น้ำพระทัย  ยอมจำนน  ด้วยความชื่นชมยินดี  ที่จะร่วมพระทรมานนิดหน่อย  เพื่อ ชีวิตนิรันดรในสวรรค์  แต่แม่พระทรงเมตตายิ่งนัก...
                พี่วิญญาณที่แม่พระโปรดประทานให้  เป็นพี่ชายที่แสนดี  ได้นำสารจากแม่พระ  ความว่า
                ความเชื่อ....ในอัศจรรย์ นั้น   เกิดได้จากคำภาวนาซื่อ ๆ จากหัวใจ   ทำให้ตัวน้อยถามใจตัวเองอีกครั้งว่าตัวน้อยปรารถนาอะไร
                ตอนนี้  อีกสองวันสุดท้าย  ก่อนผ่าตัด 
ตัวน้อยจะวิงวอน...ขอให้หายขาดจากโรคร้าย  ขอที่จะไม่ต้องเจ็บปวดทรมาน  ขอให้หายเป็นปกติ  ใช้ชีวิตได้...อย่างน้อยเหมือนทุกวันที่ผ่านมา  ขออย่าให้เป็นภาระใคร  ขอให้ตัวน้อยสามารถทำกิจการดี ๆ รับใช้แม่พระ  ในกิจการของพระเยซู ถวายพระบิดาเจ้าด้วยพระจิตเจ้าทรงนำ ให้เป็นที่พอพระทัยทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  ขอพระแม่ของลูก   โปรดภาวนาเพื่อลูกน้อยคนนี้ของแม่ด้วยเถิด 
                ไม่ว่าอย่างไร  ขออย่าให้เป็นไปตามน้ำใจของลูกเลย  ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์แห่งพระเมตตาของพระเจ้าเทอญ  ลูกเป็นของพระองค์  ลูกวางใจในพระองค์  ลูกวางใจในพระองค์  ลูกวางใจในพระองค์  อาแมน
                กรุณาช่วยภาวนาให้ตัวน้อยด้วยนะคะ  เรายังสวดให้กันและกันใช่ไหมค  
                ขอขอบคุณทุกเมล  ทุกสายโทรศัพท์  ทุกคำภวานา  ทุกความรัก  ความห่วงใย    ตัวน้อยมีความสุขในความรัก  และพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้า  และทุกคนจริง ๆ  และหวังในใจขอให้ทุกคนมีความสุขในความรักของพระเจ้าเสมอนิรันดร์  เช่นกัน
ขอพระเจ้าตอบแทนน้ำใจดี..ร้อยเท่า...พันทวี...
พระทรงมอบอาญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์ และบนแผ่นดินให้แก่เรา  มัทธิว  28:18
อย่ากลัวเลย  ผมทุกเส้นบนศีรษะของท่านถูกนับไว้หมดแล้ว  มัทธิว 10:30
หากพระเจ้าทรงอนุญาตให้ปีศาจมาประจญท่าน  ก็เพื่อให้ท่านตระหนักถึงความอ่อนแอของท่านเอง  และความจำเป็นที่จะต้องภาวนา  และเพื่อให้ท่านระลึกว่า  จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความไม่ระมัดระวังต่าง ๆ และมอบความไว้วางใจของท่านในพลานุภาพแห่งความรักของพระองค์  จากหนังสือ รำพึง เข้าใจ พระวารสารนักบุญมัทธิว  หน้า 69
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า  ผู้ที่เชื่อในเรา  ก็จะทำกิจการที่เรากำลังทำอยู่ด้วย  และจะทำกิจการที่ใหญ่กว่านั้นอีก ยอห์น 14:12
การถูกประจญมิไดเป็นเครื่องหมายของการขาดความรัก  การยอมแพ้ต่อการประจญต่างหาก  ที่เป็นการผิดต่อความรัก จากหนังสือ รำพึง เข้าใจ พระวารสารนักบุญมัทธิว  หน้า 74
 เอาหล่ะคะ  ตอนนี้ เชิญอ่าน
เรื่องที่60:วิชาพระบัญญัติประการที่1-4 
ผู้ใดเป็นเหตุให้คนธรรมดา ๆ ที่มีความเชื่อเหล่านี้ทำบาป  ถ้าเขาจะถูกผูกคอด้วยหินโม่ถ่วงในทะเล  ก็ยังดีกว่ากระทำดังกล่าว  มาระโก 9:42
                อู๊ย.......เกี่ยวกับวิชานี้ของคุณพ่อ  ตัวน้อยจะแบ่งปันอย่างไรดี  เนื้อหามันมาก  อยากให้มาเรียนเองจริง ๆ เพราะต้องจด    ต้องเปิดหนังสือเรียน ขีดเส้นใต้ประกอบ  แต่ที่ชอบที่สุดคือ เรียนไป  สอบไป  ที่สำคัญที่สุดของที่สุด  คุณพ่อกรุณา ให้เปิดหนังสือสอบ  สุดยอด  รักคุณพ่อจริง ๆ เลย  ....  ....
                ตัวน้อยชอบมาก  น้องที่นั่งข้างตัวน้อยยิ่งชอบ  เพราะแต่ไหนแต่ไร  ตัวน้อยไม่ใช่คนหวงวิชา  ตั้งแต่มัธยมปลาย  เริ่มตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง  ก็เรียนเก่งจน ติวให้ใครต่อใครได้  ก็ติวให้ตลอด
ระหว่างเรียนอบรมครูคำสอน  ไม่กล้าบอกใคร เลย  ว่าจบเกียรตินิยม  เหรียญทองมา   เพราะสมองที่ไม่ใช้มานาน  คงฝ่อ ไปมาก  และเรียนตอนสูงวัย   คงสู้น้อง ๆ คราวลูก ไม่ได้  โดยเฉพาะซีสเตอร์  น้องเณร  น้องนาง  ผู้ฝึกหัดทั้งหลาย  ความรู้เรื่องพระเจ้าที่อ่านมาหนึ่งปี  คงมีความรู้สัก...เท่าหางลูกอึ่ง  กระมัง..... 
                และเมื่อรักพระเจ้าแล้ว  ต้องรักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง  ต้องสละน้ำใจตน  การได้เอคนเดียวมันไม่น่าสนใจ  แต่การทำให้ทุกคนได้เอต่างหาก  ที่ตัวน้อยปรารถนาจะทำ  อย่างน้องเริ่มจากคนใกล้ตัวก่อน  เหมือนที่ตัวน้อย  ปรารถนา  และหวังในใจ  อยากพาตัวเอง  และทุกคนไปสวรรค์  ด้วยติดตาม  และวางใจในพระเยซู  นั่นเอง
                เวลาทำข้อสอบแบบเปิดหนังสือ  น้องข้างตัวน้อย  จะบอก “วิชานี้ นั่งข้างพี่ตัวน้อย  แสนสบาย  หายห่วง”  เพราะตัวน้อยทำไป  จะชี้นิ้วไป  ถ้าน้องเหลือบมองตาม  ก็จะเห็นว่าคำตอบอยู่ตรงไหน
                ตัวน้อย เป็นคนทำอะไรเร็ว  ทำอะไรได้ไม่เลว  แต่สะเพร่า  ดังนั้น  เรื่องเต็มร้อย  เป็นอะไรที่เกินความสามารถของตัวน้อย  แต่พระเจ้าก็น่ารักมาก ๆ  น้องอีกข้างของตัวน้อย  เรียนแบบง่วง ๆ  แต่สามารถ  เก็บสิ่งเล็ก ๆ ที่ตัวน้อย  มองข้าม ทำให้โมโหตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่าพลาดในสิ่งที่ไม่ควรพลาด  เหมือนคนอวดดี อวดเก่ง   แล้วก็หัวคะม่ำ  เพราะสะดุดหินก้อนเล็ก ๆ อยู่เป็นระยะ   พระเจ้าทรงพยายามสอน  แม้ตีสอน  เพื่อให้ตัวน้อยรู้จักถ่อมตน  ตอนนี้ก็ดีขึ้นพอสมควร   แต่ยังต้องถูกริด  ต้องตายจากความไม่น่ารักของตัวเองอีกมาก
                เวลาทำข้อสอบตัวน้อยก็จะแอบมองน้องทั้งสองข้าง (อยากช่วยคนอื่น ๆ ด้วย  แต่ไกลเกิน  คงประเจิดประเจ้อเกินไป  เกรงใจคุณพ่อ)  ว่าทำได้ไหม  ถ้าตอบผิด  ก็จะแอบบอก   เวลาตัวน้อยตอบไม่ครบ  น้องก็แอบบอกตัวน้อย   พอแลกกันตรวจข้อสอบ   แล้วเราก็ตอบถูกกัน  เราก็มีการ  ประสานมือกัน  give  me  five  เย เย้....  กันนิดหน่อย
                ในการเรียนอบรมคำสอนของปีหนึ่งนั้น  เนื่องมาจาก  แต่ละคนมีพื้นฐานไม่เท่ากัน  อย่างคนที่นอกวางการอย่างตัวน้อย  ความรู้ก็น้อยไปด้วย  น้องนักบวชที่เพิ่งเข้า  หรือเข้ามาหลายปีแล้ว  นักศึกษาต่างชาติ  ต่างภาษา  คือภาษาลาว  ภาษา ชนเผ่า  ภาษามือ  ก็มี
                ดังนั้น  การสอน  และการสอบ  จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับการวัดผล  เวลาสอบ  ก็มีมาตราฐาน  แต่ไม่ได้เข้มงวดมาก  เพราะเวลานำมาใช้จริง  เราคงต้องเปิดหนังสือ  และเตรียมการสอนมากกว่าใช้ความจำ
                ส่วนหนึ่งของร้อยคะแนน  คือการทำการบ้าน  ตอบ  เป็นคะแนนสอบ  พระบัญญัติข้อ 1-4  โจทย์  และคำตอบของตัวน้อยคือ
คำถาม :1. ด็กคนหนึ่งไม่ชอบมาร่วมมิสซาวันอาทิตย์  ท่านมีวิธีช่วยเขา อย่างไร            
คำตอบ:  ก่อนอื่น. เขาไปพูดคุยกับเขาก่อนว่า  เพราะอะไรเขาถึงไม่ชอบไปมิสซา 
                คงเพราะยาว  น่าเบื่อ  ไม่สนุก        
                ทำอย่างไรให้การไปร่วมมิสซาสนุก น่าสนใจขึ้น
๑.สร้างแรงจูงใจ  เช่นให้เขามีส่วนร่วมในมิสซา  ด้วยการ เป็นผู้ช่วยในมิสซา  ให้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ  เช่นร้องเพลง  แล้วมีของเล็ก ๆ น้อยเป็นรางวัล  เช่น นม  หรือขนม
๒.พูดคุยกับเขา  ถึงความหมายความสำคัญของการเข้าร่วมมิสซา  เช่น  หนูรักพ่อและแม่ของหนูไหม  ถ้าหนูรักพ่อแม่ของหนู  หนูก็จะไม่ทำอะไร  ให้ท่านต้องเสียใจ  ผิดหวังใช่ไหม
  พระบิดาเจ้า แ ละแม่พระ  คือพ่อแม่ในสวรรค์ของหนู  ทุกคน  วันหนึ่งก็ต้องตายจากโลกนี้  แล้วก็กลับไปหา  พ่อแม่ในสวรรค์ของหนู   การที่หนูไม่ตั้งใจร่วมมิสซา  ทำให้พ่อแม่ในสวรรค์ของหนูเสียใจ ....
 แต่เวลาหนูเป็นเด็กดี  พ่อแม่ของหนูก็จะตามใจหนู  ให้ในสิ่งที่หนูขอ  ที่หนูอยากได้  พ่อแม่ในสวรรค์  ก็เช่นกัน  ถ้าหนูไปวัด  ตั้งใจสวด  ร้องเพลง  ฟังคุณพ่อสอนอย่างดี  พ่อแม่ในสวรรค์ของหนูก็จะดีใจ  และให้สิ่งดี ๆ กับหนูกับพ่อแม่ของหนูมากมาย  หนูอยากได้รับสิ่งดี ๆ มีความสุข  หรือเปล่าคะ  ถ้าเช่นนั้น  หนูก็ต้องไปวัดบ่อย ๆ โดยเฉพาะในวันอาทิตย์นะคะ  พ่อแม่ในสวรรค์ของหนูจะได้อวยพรหนูมากมาย  ดีไหมคะ....  เป็นต้น
แต่ในสภาพสังคมปัจจุบัน  สิ่งหนึ่งที่สำคัญ  คือจิตสำนึกพ่อแม่ของเด็ก  ได้ปลูกฝั่งการไปร่วมมิสซามากน้อย และให้ความสำคัญแค่ไหน  เป็นแบบอย่าง อย่างไร
ถ้าพ่อแม่ศรัทธา  ก็จะพาลูกไปวัด  และเป็นแบบอย่างที่ดี  และเอาใจใส่ สอนให้ลูก  เป็นผู้ศรัทธาต่อไป
แต่ถ้าพ่อแม่ไม่ศรัทธา  พาลูกไปแต่โรงเรียนกวดวิชา  เรียนพิเศษเพิ่มเติม    ตัวเองก็ไม่ไปวัด  ลูกก็เลยไม่ได้ไป  คงต้องไปแก้ที่พ่อแม่ก่อน  ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย 
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนทำได้  นั่นคือ การสวดภาวนา  ขอให้ผู้มีใจเย็นเฉยได้เกิดร้อนรน  ผู้ที่จมอยู่ในบาปได้กลับคืนชีพ  สำนึกกลับใจ  เป็นลูกที่รักและร้อนรนของพระเจ้าในเร็ววัน
เพราะมนุษย์ทำได้นิดเดียว  แต่พระเจ้าทรงทำได้ทุกสิ่ง

คำถาม:  ๒. ทำไมการอุทานโดยใช้ชื่อพระ  จึงเป็นการออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ
คำตอบ: การอุทานเป็น กริยา  เป็นปฏิกริยาที่เกิดจาก ความตกใจ  แต่ถ้าคำอุทานเป็นคำที่สุภาพ  เช่นพระเจ้าช่วย   ก็น่าจะเป็นการอุทานที่ดี  เพราะนั่นหมายถึง  การคิดถึงพระเจ้า  แม้ในยามตกใจ  นั่น  มาจากคนที่มีพระเจ้าอยู่ในหัวใจ
                แต่ถ้าเป็นคำอุทานแบบ  อุ๊ย  พระเจ้าร่วง  อันนี้คงเป็นการอุทานที่ออกพระนามโดยไม่สมเหตุ
                คำอุทานโดยใช้ชื่อพระจะเป็นการออกพระนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ  หรือไม่จึง  แล้วแต่คำอุทานนั้น ๆ .
๓. รอให้รวยก่อนแล้ว  จะมาดูแลพ่อแม่  ท่านคิดเห็นอย่างไร กับคำพูดนี้  สำหรับท่าน  จะปฏิบัติต่อพ่อแม่อย่างไร
คนที่ฟังพระวาจาของพระเจ้า  และปฏิบัติตามย่อมเป็นสุข ลูกา 11:28
รอให้รวยก่อนแล้ว  จะมาดูแลพ่อแม่  เป็นความคิดที่ประมาทในการใช้ชีวิต  เพราะ
เราไม่รู้วันเวลา  พรุ่งนี้  อาจจะไม่มีพ่อแม่แล้วก็ได้ 
พระเยซูได้ทรงตรัสสอนไว้ว่า
จงตื่นเฝ้าระวังไว้  เพราะท่านไม่รู้วัน และเวลา  มัทธิว 25:13
จงเตรียมพร้อมเพราะ พระบุตรแห่งมนุษย์ จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย   ลก 12:39-40
เราไม่ต้องรวย เราก็สามารถดูแล  พ่อแม่ได้ตามกำลังของตน  ท่านอาจไม่ได้ต้องการแต่เงิน  หรือสิ่งของ   มากไปกว่าความใส่ใจ  ความเอาใจใส่  ความมีน้ำใจ  ความคิดถึง  ก็ทำให้พ่อแม่มีความสุขมากพอแล้ว
                การปฏิบัติต่อพ่อแม่  คือการเคารพ  ให้เกียรติ ทั้งวาจาและกิจการ  เชื่อฟัง นบนอบ เลี้ยงดูยามแก่เฒ่า  เจ็บไข้ได้ป่วย  ทำให้ท่านสุขกายสบายใจ  อย่าทำให้ท่านขุ่นข้อง  เสียใจ และดูแลให้ท่านอยู่ในศีลในพระพร  จนกว่าจะถึงวันที่พระเยซูจะมารับไปสวรรค์
                ดังที่ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม สารบบที่สอง  บุตรสิราได้สอนให้ปฏิบัติตามว่า 
บุตรที่ยำเกรงบิดาก็ชดเชยบาปของตน
บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เหมือนกับสะสมทรัพย์สมบัติไว้
ผู้ที่ยำเกรงบิดาก็มีความสุขจากบุตรของตน
เมื่อเขาอธิษฐานภาวนพระเจ้าก็จะทรงฟังเขา
บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะอายุยืน
บุตรที่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ
ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมให้เกียรติแก่บิดา เราจะรับใช้บิดามารดาเหมือนรับใช้เจ้านาย
จงให้เกียรติบิดาด้วยกิจการและวาจา
เพื่อพรจากบิดาจะได้ลงมาเหนือท่าน    บสร 3:3-8
บุตรที่ละทิ้งบิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า
บุตรที่ทำให้มารดาเสียใจ  จะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าสาปแช่ง บสร 3:16
จงนับถือบิดามารดา เพื่อท่านจะได้มีอายุยืน อพยพ  20:12
ฯลฯ เป็นต้น...
                ตัวน้อยทำการบ้าน  ตอบเป็นข้อสอบแบบนี้ ถ้าผู้อ่านที่รักของตัวน้อย  เป็นคุณพ่อ  จะให้ตัวน้อยกี่คะแนนค้า....... (อ้อนสุดชีวิต  ไม่ขอเอบวกหรอกคะ  แค่เอก็ไม่ตะแคงก็...โอเค...แฮะ..แฮะ.เอตะแคงก็แปลว่า   ดีด็อก  ไงค้า....)
                สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่ตัวน้อยได้รับจากวิชานี้คือ
                การได้เรียนรู้  ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในความรักพระเจ้า  ...พระศาสนจักร  และผู้อื่น   คือการแสดงออกถึงความรัก  ความศรัทธาต่อพระเจ้าส่วนบุคคล
 อย่างเช่น  การคุกเข่า  เมื่อรับศีล  การถอนสายบัว  เมื่อเข้าที่นั่ง  หรือการกางแขนออก  เมื่อสวดบทข้าแต่พระบิดา  อย่างที่ตัวน้อยแบ่งปันไปแล้วในเรื่องที่ผ่าน ๆ มา   เป็นสิ่งที่ทำได้  พระศาสนจักรไม่ได้ห้าม   แต่ต้องระวัง...ใส่ใจ...ในเรื่องที่เป็นที่สะดุดแก่ผู้อื่น...หรือไม่.....  เหมือนที่ตัวน้อยเห็น  ผู้ศรัทธาบางคนทำ...ตัวน้อยสงสัย  เขาทำด้วยความรู้สึกอย่างไรน้า......  แล้ววันหนึ่ง  ตัวน้อยก็ได้คำตอบ
                การที่คุกเข่า  รับศีล  เป็นการแสดงความเคารพสูงสุด
                การถอนสาย  เป็นการแสดงความคารวะสูงสุด
                การกางแขนออก  เมื่อสวดบทข้าแต่พระบิดา  เป็นการเลียนแบบท่ากางเขนของพระเยซู  เพื่อวิงวอนแด่พระบิดาโปรดทรงเมตตาเราเยี่ยงพระบุตรสุดที่รักของพระองค์
                แต่จากการเรียนในวิชานี้  ได้สอนว่า   การเป็นหนึ่งเดียวกันในการแสดงออกทางพิธีกรรม  ก็สำคัญ
 วัฒนธรรมของบ้านเรา  การแสดงความเคารพ    การแสดงออกซึ่งการคารวะ  สักการะ  ด้วยการไหว้  พนมมือนั้น  ก็เพียงพอ  ตัวน้อยจึงกลับมาแสดงออกให้เหมือนกับทุกคน  เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดแก่ผู้อื่น  แต่สิ่งที่ตัวน้อยทำเพิ่มเข้าไปอีกคือ  นอกจากการไหว้  เพื่อมอบสันติสุขให้แก่กันและกัน  แล้ว  ตัวน้อยยังยิ้มให้  ด้วยปาก  และแววตา  ที่....รักจากหัวใจที่รักพระเจ้า  และรักผู้อื่น  ด้วยการอย่างน้อย  มีความเป็นมิตรที่ปรารถนาจะมอบให้....
                ตัวน้อยมาเรียนครั้งนี้  มาเพราะอยากเรียนรู้จักพระเจ้าให้มากขึ้น   เพื่อประกาศข่าวดีของพระเยซู...  ของพระเจ้า  ได้อย่างถูก ต้องมากขึ้น  มาเพราะรักด้วยร้อนรน  ผลของการเรียนจะเป็นอย่างไร  ไม่ได้คาดหวังอะไร  แค่ทำดีที่สุด  สุดกำลัง  สุดสติปัญญา  อันน้อย นิด  และฝ่อ  เสื่อม  ไปแล้ว   จึงได้แต่พากเพียรภาวนา  ขอพระจิตเจ้า  โปรดประทานพละกำลัง  สติปัญญา  และปรีชาญาณ  ให้ตัวน้อยสามารถร่ำเรียน  จดจำ  และนำไปใช้  เพื่อเป็นผู้รับใช้ที่ครบครันมากขึ้นในทุกวัน  เพื่อทำทุกพระประสงค์ให้สำเร็จไปเป็นที่พอพระทัย
                การได้รู้จักพระเยซูมากขึ้น  ทำให้รู้สึกว่า  เรื่องราวของพระองค์  สนุกที่สุด  น่าสนใจที่สุด  มีคุณค่า และความหมายที่สุด  มากกว่าหนังสือทุกเล่มในชีวิตที่ตัวน้อยได้อ่านรวมกัน
                รักใดจะยิ่งใหญ่เท่ารักของพระเจ้า  หามีไม่
                สุขใดจะยิ่งใหญ่เท่าสุขในพระเจ้า  หามิมี
                จะทุ่มเท วุ่นวายกับสิ่งจอมปลอมของโลกนี้ไปทำไม 
                ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่จิรัง  มีแต่พระเจ้าเท่านั้น  ที่เป็นนิรันดร์
                นิรันดร์ นั้นนานนัก  แต่รักของพระเจ้านานกว่านั้น
มีชีวิตติดตามพระองค์กันเถิด
จงบังเกิดใหม่ในชีวิตพระหรรษทานแห่งมรรคศักดิ์สิทธิ์  เพื่อชีวิต  และสวรรค์นิรันดร์..
.(จากใจ..ดวงน้อย ๆ ของตัวน้อยเองค้า....)
ใครหว่านสิ่งใด  ก็ย่อมเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น  ผู้ทีหว่านสิ่งใดตามธรรมชาติของตน  ก็จะเก็บเกี่ยวความเสื่อมสลายจากธรรมชาติ  ผู้ที่หว่านความดีในพระจิตเจ้า  ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร จากพระจิตเจ้า  กาลาเทีย 6:8
อย่าออกพระนามพระเจ้าของเจ้า  อย่างไม่สมควร  เพราะผู้ที่ออกพระนามของพระองค์อย่างไม่สมควรนี้  พระเจ้าจะทรงถือว่า ไม่มีโทษ  ก็หามิได้  อพยพ 20:7
ผู้ที่รักบิดามารถา  มากกกว่ารักเรา  ก็ไม่คู่ควรกับเรา  มัทธิว 10:37
ทุกคนที่เกรงกลัวพระเจ้าก็เป็นสุข  คือ  ผู้ที่ดำเนินในมรรคาของพระองค์  สดุดี 128:1
ขอให้มีความสุข  ในความรัก  และพระพรอันอุดมของพระเจ้าทุกวันเวลา
รักพระเจ้า  และรักคุณคะ
ลูกแกะตัวน้อย.

15.05.2555    เขียนเสร็จ

05.06.2555 เขียนเพิ่มและส่งเมล
พบกันใหม่วันอาทิตย์  กับเรื่องที่61: วิชาการประกาศยืนยันความเชื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น