97.สวัสดีคะ ผู้อ่านที่รัก
เสาร์ อาทิตย์นี้ ( 27-28 ตค. 55) เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ ใจอยู่ทาง ตัวอยู่ทาง เพราะใจของตัวน้อยนั้น ปรารถนาที่ไปร่วมงานพระเมตตา ซึ่งจัดติดต่อกันสามวัน ส. อา. จ. แต่ด้วยปัญหาสุขภาพที่ไม่อำนวย สถานที่ ไกลจากบ้านตัวน้อยมาก ไปไม่ถูก และ ไม่แน่ใจว่า จะมีแรงขับรถไปกลับเอง และอีกเหตุผลสำคัญท่ามกลางผู้คนนับพัน คงไม่ค่อยเหมาะกับสภาพร่างกายของตัวน้อย ในตอนนี้
ผู้ใดได้ไปร่วมงาน หากมีเวลา กรุณาเขียนแบ่งปันให้ตัวน้อยอ่านบ้างนะคะ ทั้งบรรยากาศ ความประทับใจ และอะไรที่เหลืออยู่ในความทรงจำ และชีวิตของคุณ ขอบคุณมากคะ.....
แม้ตัวน้อยอยู่บ้าน วันเสาร์ ก็ได้ไปวัดนพวารพระมารดานิจานุเคราะห์ ที่วัดใกล้บ้านตัวน้อย
วันนี้ เป็นวันที่พิเศษ สำหรับตัวน้อย เพราะตัวน้อยถวายบางอย่าง แด่แม่พระ แด่พระเยซูเจ้า ด้วยการสละน้ำใจตนอีกเรื่อง..... ด้วยน้ำตาท่วมหัวใจ และภาวนาวิงวอน ขอให้ตัวน้อยสามารถแบกกางเขน น้อมรับความทุกข์ทรมาน ทั้งกาย และใจ ด้วยความชื่นชมยินดี และ ความเบิกบานใจ
แล้ววันอาทิตย์นี้ ตัวน้อยก็ได้ร่วมถือธง แห่เคียงข้างแม่พระ เพื่อปิดเดือนแห่งสายประคำ ได้รับเชิญให้ถือเครื่องบูชา คราวนี้ ตัวน้อยได้ถือเทียน ซึ่งเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ ดี ๆ ที่ได้รับมอบหมายให้ทำ ซึ่งตัวน้อยชอบ และมีความสุข ความชื่นชมยินดี เบิกบานใจมากกว่า นั่งร่วมมิสซา และร่วมแห่ ตามหลังแม่พระ
ตัวน้อยคิด ..คิด ...คิด....จะหาความเบิกบานใจได้จากที่ใด ตัวน้อยคิดถึง รายการ จำอวดหน้าม่าน ซึ่งเป็นมุขตลก ที่สะอาด และไม่หยาบคาย จึงซื้อแผ่นซีดีมาดู เมื่อไปทัวร์แสวงบุญ ผู้จัดมักเปิดให้ดูบ่อย ๆ เปิดดูระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ก็ได้หัวเราะ ฮา กระจาย สนุก ๆ สนุกจริง ๆ ถ้าได้ดูกันทั้งครอบครัว ทุกคนร่วมหัวเราะด้วยกัน คงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข
คงจะช่วยเปลี่ยนบ้านที่เงียบเหงา ต่างคน ต่างอยู่ เริ่มจากเสียงหัวเราะของคนหนึ่งคน คงพาอีกหลาย ๆ คน มาร่วมหัวเราะกันได้ เป็นกิจกรรมง่าย ๆ ที่ทำด้วยกันได้ คงจะดีไม่น้อยใช่ไหมคะ ลองทำดูสิคะ ตัวน้อยไม่สงวนลิขสิทธิ์ หรอก.....แฮะ..แฮะ...
ความสุขเหมือนก้อนหิน ที่โยนลงไปในบ่อน้ำ ทำให้น้ำกระเพื่อม และแผ่คลื่นแห่งความสุขกระจายออกไปเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ เรามีความสุข คนข้าง ๆ เราก็พลอยมีความสุขไปด้วย.....
เรามาช่วยสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับโลก อันแสนจะยุ่งเหยิง และเครียด กันเถอะ ถ้ามีใครมีวิธีอื่นทีทำให้เบิกบานใจได้ ช่วยสอนตัวน้อยหน่อยนะคะ.... อยู่ในโลก ของคนป่วย โรงพยาบาล หาความเบิกบานใจได้ยากจริง ๆ
และสิ่งหนึ่งที่ตัวน้อยอ่านพบ จากหนังสืออนุสรณ์แห่งความรักที่พ่อมอบให้ลูก อัตชีวประวัติ คุณพ่อ คาร์โล เดลลาโตเร
ผู้ให้กำเนิดคณะธิดา พระราชินีมาเรียผู้นิรมล หน้า 96 คือ
พระสังฆราช “วัลตอร์ตา” ท่านเป็นคนร่าเริง กล้าหาญ และมีคติประจำใจว่า จงผ่านความยากลำบากต่าง ๆ ประจำวัน มิใช่ด้วยความกลัว ความโกรธ หรือด้วยน้ำตาเศร้าโศก แต่ด้วยดวงใจอันเต็มเปี่ยมด้วยความยินดี เพราะว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นองค์แห่งความยินดี และความสงบสุข เราซึ่งเป็นธรรมฑูตของพระเป็นเจ้าต้องเป็นในความยินดี และสงบ”
อุ...อุ....โดน ...โดนใจ เต็ม ๆ
ตอนนี้ ตัวน้อยกำลังอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของคุณพ่อคาร์โลอยู่ สนุกมาก ๆ น่าสนใจมาก ๆ และมีคุณค่ามาก ๆ คงต้องขอจัดเต็มในเรื่องต่อ ๆ ไป รออ่านนะคะ...
ขอพระเจ้าทรงตอบแทนทุกน้ำใจดีทั้งที่มาเยี่ยม โทรศัพท์มาเยี่ยม และเมลดี ๆ ร้อยเท่าพันทวี ขอพระองค์ทรงรัก และดูแลทุกคน แทนตัวน้อย และเผื่อตัวน้อย ด้วยเทอญ อาแมน.
ท่านจงปฏิบัติงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้บริบูรณ์ทุกเวลา ท่านทั้งหลายพึงรุ้ว่า โดยองค์พระผู้เป็นเจ้า การของท่านจะไร้ประโยชน์ ก็หามิได้ ท่านจงตั้งมั่น อย่าหวั่นไหว 1 โครินทร์ 15:39
เพราะข้าพเจ้าปรารถนาที่จะได้พบท่านทั้งหลาย เพื่อจะได้นำของประทานฝ่ายจิต มาให้แก่ท่านบ้าง เพื่อเสริมกำลังท่านทั้งหลาย โรม1:11
เราทั้งหลายจงชื่นชมยินดีในพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ผู้ทรงเป็นเหตุให้เราได้กลับคืนดีกับพระเจ้า โรม 5:11
เอาหล่ะคะ ตอนนี้ เชิญอ่าน
เรื่องที่ 97: ลูกแกะ กับสุนัขป่า
เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ เอเฟซัส 2:10
หลายวันนี้ พระวาจาที่วนเวียนอยู่ในความคิดของตัวน้อย คือ “เราส่งท่านทั้งหลายไป ดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า” ลูกา 10:3......???
ถ้าลูกแกะ ไปอยู่ในฝูงสุนัขป่า ลูกแกะจะไม่เหลือ แต่กระดูก หรือ..... ตัวน้อยสงสัยจริง ๆ......
คิดถึงสภาพสังคมในกระแสโลก เพื่อความอยู่รอด การแข่งขันทางธุรกิจ คือปลาใหญ่ กินปลาเล็ก เหมือนสำนวนไทยที่มีกล่าวไว้ว่า คนโง่ ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด
ในสภาพชีวิตของมนุษย์บนโลกตอนนี้ ทุกคนมีชีวิตด้วยการขาย ไม่ว่าจะเป็นขายแรงงาน ขายความคิด หรือขายบริการ
แต่สิ่งที่น่า เป็นห่วง คือเราขายวิญญาณ ไปให้กับปีศาจ ด้วยหรือเปล่า
การใช้ชีวิตโดยปราศจากความดี และความรัก ต่อผู้อื่น ทำทุกอย่างเพียง เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุข ความร่ำรวย ชื่อเสียง เกียรติยศ ในช่วงชีวิตของมนุษย์ โดยเฉลี่ย ประมาณแปดสิบปี แล้ววันเวลาที่เหลือ ที่นานกว่า ที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า โลกนี้ กำเนิด มาเป็นพันล้านปี จะเป็นอย่างไร
คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เราจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้ จะเป็นของใครเล่า ลูกา 12:20
มันเป็นการยากที่จะเชื่อว่า โลกหน้า....มีจริง สวรรค์ นรก ... มีจริง พระเจ้า....มีจริง แล้วปีศาจ....ก็มีอยู่จริง
หลาย ๆ เรื่องพิสูจน์ได้ และอีกหลาย ๆ เรื่อง ที่พิสูจน์ไม่ได้ ด้วยสติปัญญาของมนุษย์ เฉกเช่นเดียวกับ เรามองไม่เห็นเชื้อโรค แต่นักวิทยาศาสตร์ ได้พิสูจน์ แล้วว่า มันมีอยู่จริง และถ้า มันมีมากพอ มันก็จะทำให้เราเจ็บป่วยได้
เรื่องนี้ ตัวน้อยเพิ่งเข้าใจ เมื่อพบคุณหมอรังสี และอธิบายให้ฟัง ประมาณว่า ร่างกายประกอบด้วยเซลมากมาย แต่เมื่อมีเซลหนึ่งทรยศ กลายเป็นเซลร้าย และวันเวลาทำให้เซลร้ายนี้ค่อย ๆ แพร่ขยายเติบโตขึ้น จะเริ่มตรวจพบเมื่อ เซลร้ายมีความใหญ่ ประมาณหนึ่งซม. ซึ่งหมายความว่า ประกอบด้วยเซลร้าย สิบยกกำลังห้า หรือสิบยกกำลังหก ซึ่งเท่ากับหนึ่งแสนเซล หรือหนึ่งล้านเซล
ถ้าเราปล่อยให้มันแพร่ขยายเติบโตไปเรื่อย ๆ เราก็จะเจ็บป่วยทรมาน และตาย...ในที่สุด แต่ถ้าเรากำจัดเซลร้ายออกไป เหมือนนิ้วไหนร้าย ก็ต้องตัดนิ้วนั้นทิ้ง เพื่อรักษาส่วนที่ดีไว้ เราก็จะรักษาชีวิตไว้ได้
เหมือนกับชีวิต ถ้าดำเนินอยู่ในความไม่ดี ก็เป็นเซลร้ายทำลายชีวิต .....
กิจการของมนุษย์นั้นปรากฏชัดแจ้ง คือการผิดประเวณี ความลามกโสมม การปล่อยตัวตามราคตัณหา การกราบไหว้รูปเคารพ การใช้เวทมนตร์คาถา การเป็นศัตรูกัน การทะเลาะวิวาท ความอิจฉาริษา ความโกรธเคือง การแก่งแย่งชิงดี การแตกแยก การแบ่งพรรคแบ่งพวก การเมามาย การสำมะเลเทเมา และอีกหลายประการในทำนองเดียวกันนี้ ข้าพเจ้าขอเตือนท่านทั้งหลายอีกครั้งหนึ่ง ดังที่เคยเตือนมาแล้วว่า ผู้ที่ประพฤติตนเช่นนี้จะไม่ได้อาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก กาลาเทีย 5:19-21
หลายวันก่อน ตัวน้อยไปวัด ฟังคุณพ่อท่านหนึ่งเทศน์สอน เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และจดจำไว้ คือ
มีพ่อลูกคู่หนึ่ง ได้ทำผิดต่อกฏหมายบ้านเมืองอย่างมาก จึงถูกตัดสินประหารชีวิต ด้วยการใช้ขวานตัดคอ โดยให้ใครคนหนึ่ง ต้องตาย และอีกคนหนึ่งรอด แต่ต้องเป็นคนตัดคอ ตัวเองจึงรอด
สองพ่อลูก มองหน้ากันไป มองหน้ากันมา และด้วยความรักมากมายที่พ่อมีต่อลูก พ่อจึงยอมตาย และยอมให้ลูกเป็นคนตัด
พ่อจึงวางศีรษะพาดไว้ ลูกถือขวานอยู่ในมือ มองพ่อ แล้วก็คิด....คิด...คิด.... แล้วในที่สุด....แท่น..แทน...แท๊น....ลูกก็ขว้างขวาน ไปไกลสุดแรง และนำศีรษะของตนมา วางไว้ เคียงข้างกับศีรษะของพ่อ
ว้าว...ว้าว... ความรักของทั้งผู้เป็นพ่อ และ ผู้เป็นลูกยิ่งใหญ่ จริง ๆ
เพราะรัก จึงยอม ตาย สละชีวิตเพื่อให้คนที่รักได้รอด...หัวใจรักของผู้เป็นพ่อ เหมือนหัวใจของพระบิดา ที่ยอมสละพระบุตรให้มาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยให้มนุษย์ได้รอดไปสวรรค์ ไหมคะ.... แล้วพระคริสตเยซู พระบุตรของพระเจ้า ก็ทรงยอมสิ้นพระชนม์ด้วยการถูกตรึงกางเขน เพราะรักพระบิดา และเรามนุษย์ เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่อย่างหาที่สุดมิได้ของพระเจ้าไหมคะ
เพราะรัก จึงยอม ตาย แต่ไม่ยอมทำร้ายคนที่รัก...หัวใจรักของผู้เป็นลูก คงเหมือน ลูกแกะที่รักสุนัขป่า และยอมให้สุนัขป่ากินเป็นอาหาร เมื่อสุนัขป่าหิว
ในความคิดของตัวน้อย......
ลูกแกะ หมายถึง คนที่รักผู้อื่น พร้อมจะให้ และสละตนเพื่อผู้อื่น
สุนัขป่า หมายถึง คนที่เห็นแก่ตัว เห็นแต่ประโยชน์ ส่วนตน ทำร้ายผู้อื่น เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
คนที่รักพระเจ้า และพระเจ้าทรงสอนให้รักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง และ มากกว่าตัวเองด้วยการสละน้ำใจตน จึงไม่ต่างจากลูกแกะ
“แต่ในสังคมปัจจุบัน สุนัขป่ามากกว่า ลูกแกะมากมาย ลูกแกะคงจะตายหมดสิ...พระเจ้าข้า” ตัวน้อยรำพึงคุย กับพระเยซูเจ้า
แล้ววันนี้ (22 ตค.55) ในตอนเช้า ตัวน้อย อ่านไบเบิ้ลไดอารี่ จบ รำพึงภาวนา และจูบปกหลัง ซึ่งเป็นภาพพระเยซูทรงอุ้มลูกแกะตัวน้อยในอ้อมแขน สายตาก็เหลือบมองไปที่ตัวอักษรซึ่งมีเขียนไว้ใต้ภาพ ว่า
เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน
อู้ ....ฮู.......ตัวน้อยอึ้งเลย...ความสงสัยเรื่อง ลูกแกะในฝูงสุนัขป่า ได้รับการคำตอบแล้ว ว่า พระเยซูจะทรงปกป้อง คุ้มครอง เป็นโล่ และกำบังที่เข้มแข็ง จงวางใจในพระองค์
ผู้อ่านที่รักของตัวน้อยเคยเข้าไปเยี่ยมชมในบล็อกของตัวน้อยไหมคะ.... ขอเชิญเข้าไปเยี่ยมชม อ่านเรื่องที่ส่งเมลไปแล้ว และฝากรอยการเยี่ยมไว้ให้ด้วย จะขอบคุณม๊าก ๆ เลยคะ(http://loveofgodwithlittlelamb.blogspot.com)
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ตัวน้อยเข้าไปลงเรื่องในบล็อก รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มีผู้ติดตามใหม่ ใช้รูปที่ปรากฏแทนตัวคือ เสือ
ตัวน้อยเห็นมีผู้ติดตามเพิ่ม ตัวน้อยก็ดีใจมาก ๆ แต่ก็คิดเล่นๆ อู้..ตอนนี้ มีเสือ ติดตาม ลูกแกะตัวน้อย ตัวน้อย....รู้สึกหวาดกลัว ยำเกรง อย่างไรชอบกล
ในสักวันหนึ่ง ลูกแกะตัวน้อย จะถูกเสือขย้ำไหมน้า....จะเข้าไปอยู่ในท้องเสือไหมน้า ทำอย่างไร เสือ กับลูกแกะจึงจะเป็นมิตรกัน....
คิดถึงภาพข่าวที่เคยดู ใช่หล่ะ ต้องเป็นแม่แกะ กับลูกเสือ ให้ลูกเสือ กินนม แม่แกะ เมื่อลูกเสือโต ลูกเสือคงไม่กินแม่แกะหรอกกระมัง ก็สละเลือดในอกให้ด้วยความรักแล้วนี่ เป็นแม่เป็นลูกกันแล้วนี่ ความรัก ความผูกพันระหว่างกันคงมีมากมาย
แต่ถ้าวันหนึ่ง สัญชาติของความเป็นเสือตื่นขึ้นมา แม่แกะคงยอมให้ลูกเสือกินเนื้อ ไม่ต่างจากพ่อแม่ที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อลูกได้กระมัง
แล้วถ้าเป็นตัวน้อยหล่ะ ตัวน้อยปรารถนาอยากให้เป็นแบบไหน......
ตัวน้อยปรารถนาให้เป็นแบบนี้คะ.....
“ท่านเสือ อย่ากินพี่ชายที่รักของฉันเลย กินฉันแทน เถิด”
เหมือนเวลาที่ตัวน้อยสวด บทข้าแต่พระบิดานิรันดร ของบทสวดพระเมตตาคนเดียว ตัวน้อยจะสวดว่า
ข้าแต่พระบิดานิรันดร ลูกถวายแด่พระองค์ ซึ่งพระกาย พระโลหิต พระวิญญาณ และพระเทวภาพแห่งพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ พระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของลูกทั้งหลาย เพื่อชดเชยบาปของลูกทั้งหลาย ชาวโลก ชาวนรก วิญญาณในไฟชำระ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง วิญญาณที่ยังไม่สงบ ผู้เจ็บป่วย และคนใกล้จะตายด้วยเทอญ
ข้าแต่พระเยซูเจ้าข้า ลูกขอถวาย กาย ชีวิต โลหิต วิญญาณของลูกแทนพระองค์ ร่วมกับพระองค์ เพื่อชดเชยบาปของลูกทั้งหลาย ชาวโลก ชาวนรก วิญญาณในไฟชำระ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง วิญญาณที่ยังไม่สงบ ผู้เจ็บป่วย และคนใกล้จะตายด้วยเทอญ อาแมน
………………………+……………………
สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อท่านหนึ่งเทศน์สอนว่า “สิ่งที่ไม่มี ที่โรงเรียนใดสอน แต่ที่บ้านเณรสอน” และตัวน้อยก็เคยได้ยินซีสเตอร์ผู้ซึ่งเป็นประธานรุ่น เมื่ออบรมครูคำสอน พูด คือ ให้พวกเราเสียสละ เพื่อความดีของส่วนรวม
ถ้าคนในสังคม ถ้าคนทั้งโลก มีหัวใจ....ที่รู้จักรักผู้อื่น รู้จักเสียสละ เพื่อความดีของส่วนรวม สังคมนี้จะเป็นสังคมที่น่าอยู่ และมีความสุขเพียงใด อาณาจักรสวรรค์คงมาอยู่ท่ามกลางพวกเราแล้ว
ดังนั้น เริ่มต้น จากตัวเราก่อน...
อย่างน้อย แค่ทำดี ก็มีสุข
อย่างน้อย แค่ทำดี ก็เท่ากับเขามีพระเจ้าอยู่ในหัวใจ เพราะพระเจ้าทรงเป็นองค์แห่งความดี
อย่างน้อย แค่รู้จักรักผู้อื่น หัวใจก็เบิกบาน
อย่างน้อย แค่รู้จักรักผู้อื่น ก็เท่ากับเขามีพระเจ้าอยู่ในหัวใจ เพราะพระเจ้า ทรงเป็นองค์แห่งความรัก
และการกระทำความดี เป็นภาคปฏิบัติของ ความรัก
หมั่นทำความดี แม้แต่สิ่งเล็ก ๆ ด้วยกันนะคะ...
ท่านได้รับความรอดพ้นเพราะพระหรรษทานอาศัยความเชื่อ ความรอดพ้นนี้มิได้มาจากท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า เอเฟซัส 2:8
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศว่า “หลังจากที่เขาประสบความทรมานแล้ว เขาจะได้เห็นแสงสว่าง และจะพอใจ ความรู้ของผู้รับใช้ที่ชอบธรรมของเรา จะนำความชอบธรรมมาให้แก่คนจำนวนมาก เขาจะรับผิดของคนทั้งหลายไว้เอง” อิสยาห์ 53:11
อาศัยศีลล้างบาป พระคริสตเจ้าทำให้เรามีบุญ ไม่เป็นคนต่างด้าวอีกต่อไป แต่เป็นเพื่อนร่วมชาติกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า เป็นลูกของพระบิดา เป็นน้องของพระเยซู เป็นที่ประทับของพระจิต (ข้อความ จากหนังสือ ไบเบิ้ลไดอารี่ 2012 ในส่วน ข้อคิด ของวันที่ 23 ตค. 55)
จิตใจของเราทั้งหลาย กำลังรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นความช่วยเหลือ และทรงเป็นโล่ป้องกันภัยของเรา
ใช่แล้ว จิตใจของเรา ชื่นชมในพระองค์...
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอความรักมั่นคงของพระองค์สถิตอยู่กับข้าพเจ้าทั้งหลาย เพราะข้าพเจ้าทั้งหลาย มีความหวังในพระองค์ สดุดี 33:20-22
อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
23.10.2555 เขียนเสร็จ.25.10.2555 เขียนเพิ่มและส่งเมล
พบกันใหม่ วันพฤหัสบดี กับเรื่องที่ 98: อัศจรรย์แห่งสายประคำ