วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เรื่องที่ 106: สะพานสู่สวรรค์

106.สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
จากเมลเรื่องที่แล้ว... ป่วย...ระยะสุดท้าย   และการที่ตัวน้อยต้องไปทำงานทัวร์สองวันแทนไกด์ที่ได้รับการบอกว่า  ป่วย  ทั้ง ๆ ที่สภาพร่างกายของตัวเองก็ยังไม่พร้อม  และได้แบ่งปันไปในส่วนทักทาย ทำให้มีเมลจากผู้อ่านที่รัก  กรุณาส่งมา....ด้วยความรัก  ความห่วงใย  และคำภาวนาหลั่งไหลมาสู่ตัวน้อยมากมายเป็นพิเศษจริงๆ ...
ทำให้เป็นสองวันที่ทำงานอย่างมีความสุขมาก ๆ หัวใจปิติสุขมาก   จนลืมป่วยไปเลยคะ  ตัวน้อยดูแลร่างกายระหว่างทำงานด้วยการดื่มอาหารเสริมพิเศษ  ซึ่งได้รับมาด้วยความรัก  ความห่วงใยของแม่   และหัวใจที่เปี่ยมสุข อิ่มใจด้วยคำภาวนาจากทุก ๆ คน  และพระวาจาที่นำมารำพึงตลอดสองวัน  ซึ่งอ่านพบในไบเบิล ไดอารี่ 2012 ของวันพฤ. 13 ธค. 55 ที่ตัวน้อยเริ่มทำงาน  ว่า  “อย่ากลัวเลย  เราจะช่วยท่าน”  อิสยาห์ 41:13
                ตัวน้อยมีพระเจ้าที่ทรงรัก  และพระทัยดียิ่ง  ทรงช่วยตัวน้อย  ตัวน้อยมีคำภาวนาจากผู้อ่านที่รัก  เป็นสิ่งหนุนนำใจ  พากายที่ป่วยให้ทำงานผ่านไปได้อย่างดี...
ขอพระเจ้าทรงตอบแทนทุกคำภาวานา  ทุกน้ำใจดีที่กรุณารัก  ห่วงใย  สวดภาวนาให้ตัวน้อย และเมลดี ๆ  ร้อยเท่าพันทวี  ทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  ขอพระองค์ทรงรัก  และดูแลทุกคน  แทนตัวน้อย  และเผื่อตัวน้อย   ขอพระจิตเจ้าทรงโปรดภาวนา เพื่อพวกลูกทั้งหลาย ด้วยเทอญ  อาแมน.
เมื่อวานกว่าจะเสร็จงาน  กลับบ้านนอนเกือบเที่ยงคืน  รู้สึกตัวตื่นเกือบเจ็ดโมง  อ่านไบเบิลไดอารี่  สวดภาวนา และเพราะเมลจากพี่ที่น่ารักยิ่งของกลุ่ม LECTIO  DIVINA  ทำให้ตัวน้อย ตัดสินใจ  อาบน้ำแต่งตัวไปร่วมเข้าเงียบด้วย  เพราะคิดว่า  อาจเป็น ครั้งสุดท้ายหรือเปล่า....  ที่จะมีโอกาสไป  เพราะถ้าตัวน้อยกลับไปทำงาน ทัวร์เต็มเวลา  อาจจะไม่มีเวลาว่างมาอีกก็ได้...
ช่วงเวลาที่วัดแม่พระองค์อุปถัมภ์  กรุงเทพกรีฑา  เป็นอีกวันที่ไม่อาจลืม  เป็นความทรงจำดี ๆ ให้คิดถึงด้วยความปิติสุข  และสันติสุขเต็มเปี่ยมในหัวใจ  และ เพราะได้พบพี่ที่น่ารัก หลาย ๆ คน  ที่กรุณาอ่านเรื่องของตัวน้อย
 กิจกรรมมีอะไรบ้าง  ความประทับใจมากมายเพียงใด  อย่างไร  ขอจัดเต็มในเรื่องต่อ ๆ ไป  แต่ที่แน่ ๆ พระหรรษทานแห่งพระจิตเจ้าหลั่งไหลมาสู่เราทุกคนอย่างแท้จริง   หัวใจที่เต้นลุกร้อนของตัวน้อยเป็นประจักษ์พยานการประทับอยู่ของพระเจ้าได้คะ...
หัวใจที่เต้นลุกร้อนของตัวน้อย หรือสัญญาณการประทับอยู่ เป็นหนึ่งในพระพรที่ตัวน้อยได้รับ  เมื่อคืนดีกับพระเจ้า  เป็นพระเมตตาที่พระเจ้าโปรดสำแดงเป็นพิเศษ  เพื่อเป็นสัญญาณแห่งการประทับอยู่ ของพระองค์  รายละเอียดเป็นอย่างไร  ขอเชิญอ่านเรื่องที่ 28 สัญญาณการประทับ อยู่นะคะ  
ตัวน้อยได้รับสัญญาณการประทับอยู่ ของพระจิตเจ้าทั้งสองครั้งอย่างลุกร้อน  และชัดเจนมากเป็นพิเศษ  ขณะที่ไปร่วม เข้าเงียบของ LECTIO  DIVINA
ที่แบ่งปันเรื่องนี้  เพราะปรารถนาที่จะเป็นประจักษ์พยานว่า  พระเจ้าสถิตอยู่กับเรา ประทับ อยู่ท่ามกลางเรา  และหลั่งพระหรรษทานแห่งพระจิตเจ้าจริง ๆ  แต่ทว่า  แต่ละคนอาจรับรู้  สัมผัส และ รับพระหรรษทานได้ไม่เท่ากัน  ขึ้นอยู่กับความเชื่อ  ความรัก  และความวางใจของแต่ละคน.....
ดูเถิด  ข้าพเจ้าอ้าปาก  ลิ้นภายในปากของข้าพเจ้าก็พูด  ถ้อยคำของข้าพเจ้าสำแดงความเที่ยงธรรมในจิตใจ  และริมฝีปากของข้าพเจ้ารู้อะไร  ก็พูดออกมาอย่างจริงใจ  โยบ 33:2-3
อย่าหยุดภาวนา  และวิงวอนพระจิตเจ้าตลอดไป  1 ทิโมธี 2:1
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 106:  สะพานสู่สวรรค์
เพราะไม่เคยมีถ้อยคำของบรรดาประกาศกที่มาจากเจตนารมณ์ของมนุษย์  แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำ  ซึ่งมาจากพระเจ้า  ตามที่พระจิตเจ้าทรงดลใจ  2 เปโตร 1:21
                ในช่วงเวลาของการเจ็บป่วย  พระเจ้าทรงเมตตาส่งคนที่น่ารักมาอยู่เคียงข้างตัวน้อยสองคน  
คนหนึ่งคือพี่สาวในหมู่บ้านที่น่ารักที่สุดของที่สุด  ซึ่งอายุเกือบเจ็ดสิบปีแล้ว มาดูแลตัวน้อย
 เมื่อตัวน้อยผ่าตัด  นอนพักฟื้น  กรุณามาเยี่ยม  ทั้ง ๆ ที่โรงพยาบาลไกลจากบ้านตัวน้อยเกือบสี่สิบกิโลเมตร  ใช้เวลาเดินทางโดยรถโดยสารเกือบสองชั่วโมง   เมื่อตัวน้อยรับคีโมที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน  พี่เขากรุณามานอนเฝ้า  และหาซื้ออาหาร ที่ตัวน้อยอยากรับประทาน  เมื่อตัวน้อยฉายแสงพี่เขากรุณามารับทุกหกโมงเช้า  เพื่อไปเป็นเพื่อนตลอดการฉายแสงยี่สิบเจ็ดครั้ง 
เรารู้จักกัน  เพราะตัวน้อยไปสวด  ในงานของพลมารีย์ในหมู่บ้าน  แล้วตอนปลายปี 54 จำได้ว่า  วันอังคารหลังวันคริสมาส ปี 54  เราไปวัด พระจิต  ครั้งแรกพร้อมกับคนอื่น  เต็มรถตัวน้อย ห้าคน   ที่จำได้ แม่น  เพราะหลังมิสซามีการแจกของที่ระลึก  และเลี้ยงอาหาร เนื่องจาก  โอกาสวันคริสตมาสด้วย  แล้วหลัง จากนั้น  เวลาตัวน้อย ไปฉลองที่วัดฟาติมา  หรือที่วัดในกรุงเทพ  ก็จะชวนพี่เขา  พี่เขาก็จะไปด้วยกันเสมอ
มีเรื่องขำ ๆ ขอแบ่งปัน.....  มีอยู่วันหนึ่งที่ไปรับคีโม  ตัวน้อยเจาะเลือดตอนเช้า  พบคุณหมอ  แล้วไปที่ห้องผู้ป่วย  เป็นห้องเดี่ยวพิเศษ  ได้ห้องเดี่ยวมา  เพราะพระเมตตาจริง ๆ  โรงพยาบาลของรัฐบาล  การได้ห้องเดี่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ  เห็นด้วยไหมค้า...  ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิตสุดใจ
เพราะการผ่าตัดทำให้ไม่ควรยกของหนักเกินสองกิโลกรัม  พี่เขาจะถือของ  ลากกระเป๋าสัมภาระของตัวน้อย   จนนางพยาบาลเห็นแล้วเอ็ดตัวน้อย  ทำไม  ให้คนแก่ถือของ”   ตัวน้อยก็อึ้ง...  ยิ้ม....  แล้วก็ชี้สำลีที่เจาะเลือดที่แขน  เพื่อจะบอกว่า  “คนป่วยน่ะ  คนนี้คะ”  555
เวลาไปโรงพยาบาลด้วยกันทีไร  มีแต่คนคิดว่า  พี่เขาเป็นคนป่วย  เพราะส่วนมาก  ลูกหลานมาดูแลพ่อแม่  ไม่มีใครคิดว่า  คนสูงวัยมาดูแลคนอ่อนวัยกว่า  ขอบคุณพระเจ้า  และพี่เขาจริง ๆ  จากทั้งหมดของหัวใจ  ขอพระเจ้าทรงตอบแทนน้ำใจดีร้อยเท่าพันทวีแด่พี่ที่น่ารัก  ทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  อาแมน.
คนที่สอง  เป็นเพื่อนที่อายุน้อยกว่าตัวน้อยสักปีหนึ่ง  เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็ก ๆ พอโตมา  ก็ห่างกัน   แต่เมื่อตัวน้อยไปวัด  จะเห็นเขาตลอด  จึงรู้สึกว่า  คนนี้ศรัทธาดีจัง  ทุ่มหนึ่งไม่ดูหนังดูละคร  แต่มาหาพระ  มาวัด  สุดยอด....
                เมื่อตัวน้อยป่วยห้าเดือนที่แล้ว  และ  เข้าผ่าตัด  พักฟื้นที่โรงพยาบาลไกลบ้าน  เพื่อนก็มาเยี่ยมกับพี่เขา  และตัวน้อยกับพี่สาว  ซื้อเครื่องทำน้ำผลไม้สกัดกาก  เพื่อดูแลสุขภาพกัน
                เมื่อตัวน้อยอยู่บ้าน  ทุกบ่าย   ประมาณสามโมง  เราจะทำน้ำผลไม้สกัดกาก  ผลไม้  และผักส่วนใหญ่ที่ใช้  ก็คือ  แคทรอด  แอ๊บเปิ้ล สัปปะรด  มะเขือเทศ  ใบย่านาง ใบบัวบก  ดอกอัญชัน  บล็อกโครี่  สาระพัดผักที่มี   ล้วนมีประโยชน์ ในการต้านมะเร็งทั้งสิ้น  
ตัวน้อยจะใช้สัปปะรด  เป็นหลักเพราะจะทำให้รสชาติอร่อย  และอย่างอื่น ๆ อีก  สามสี่ห้าอย่าง  สกัดรวมกัน  ช่วยกันซื้อ  ช่วยกันทำ  ช่วยกันล้าง  สวดขอพระเมตตาแห่งการเยียวยารักษา  และดื่มด้วยกัน  สามคน
 ถ้าพี่พลมารีย์ที่ป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน  อยู่บ้าน  ตัวน้อยก็จะทำเผื่อส่งไปให้พี่เขาด้วย  แล้วก็สวดพระเมตตา  เตรียม รับประทานอาหารเย็น  ไปวัดหนึ่งทุ่มกัน  ทุกวัน
                ถ้าตัวน้อยทำรับประทานคนเดียว  ตัวน้อยคงไม่มีความขยันมากพอ  แต่เพราะพระเจ้าสอนให้รักผู้อื่น  สอนให้แบ่งปัน  สอนให้รักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง  ทำกับตัวเองอย่างไร  ก็ต้องทำให้ผู้อื่นอย่างนั้น เป็นอย่างน้อย  ...
                เพราะความเจ็บป่วย  ทำให้ต้องเปลี่ยนชีวิตในหลาย ๆ อย่างเรื่องหนึ่งคือ  นิสัยการรับประทาน  จากคนที่รับประทานแต่อาหารค้างแช่แข็ง  เต็มตู้  รับประทานอาหารซ้ำ ๆ ผัก ผลไม้  ไม่ค่อยได้รับประทาน เปลี่ยนมาเป็นอาหารสดใหม่ทุกวัน  ซื้อมารับประทานคนเดียวก็ไม่หมด  รับประทานซ้ำก็อยากรับประทานแล้ว  จึงโทรเรียกพี่น้องทั้งสองมารับประทานด้วยกัน
 จนเดี๋ยวนี้  ชีวิตเพิ่งคงที่ เพราะการรักษาเสร็จสิ้น  เป็นช่วงเวลาของการพักฟื้น  อยู่บ้าน  กิจวัตรจึงเป็น  ตอนเช้าตื่น  อ่านไบเบิ้ลไดอารี่  สวดสายประคำพลมารีย์  หกโมงครึ่งไปตลาด  เจ็ดโมงโทรปลุกพี่  เป็นห่วงกลัวพี่เขาไม่ตื่น  เพราะรับประทานยานอนหลับทุกวัน  เจ็ดโมงครึ่งโทรปลุกเพื่อน ให้ตื่นมารับประทานยา   เจ็ดโมงสี่สิบห้า เริ่มเตรียมอาหารเช้า  แปดโมงกว่าสวด  และรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน
 อาหารหลักคือ  น้ำไข่ขาว  เพราะเราป่วยกันทั้งสามคน  และน้ำหนักน้อยกว่ามาตราฐานปกติของคนสุขภาพแข็งแรง  เราทั้งสามจึงต้องเพิ่มน้ำหนักกัน  ตัวน้อยเรียกว่า  “ภาระกิจหมูสามตัว”
                ช่วงนี้  เมื่อมิสซาหนึ่งทุ่มจบลง  เราจะมาที่บ้านตัวน้อยอีกครั้ง  เพื่อทำโยแฟ๊ท  กัน   
โยแฟ๊ท  คือ  โยเกริต  นมสด  น้ำผึ้ง  มะนาว  ผสมกัน  ถ้ารับประทานตอนเช้า  จะช่วยลดความอ้วน  แต่ถ้ารับประทานตอนเย็น  จะช่วยเพิ่มความอ้วนได้   และยังช่วยล้างพิษในลำไส้ได้อีกด้วย  สูตรนี้  ตัวน้อยได้มาจากหนังสือ  นาฬิกาแห่งชีวิต
                เทคนิคพิเศษในการทำจากประสบการณ์ของตัวน้อย  คือ  บีบมะนาว  ละลายน้ำผึ้งก่อน  แล้วค่อยใส่โยเกิรต  นมสด ผสมลงไป  น้ำผึ้งจะลายโดยไม่ต้องใช้น้ำร้อนช่วยเลยคะ  ลองทำรับประทานบ้างซิคะ  อร่อย  และสุขภาพแข็งแรงด้วยนะคะ
                เราตั้งชื่อว่า โยแฟ๊ท  โยมาจากคำว่า  โยเกิรต   แฟ๊ค มากจากคำภาษาอังกฤษที่ แปลว่า  อ้วน  เพราะเราต้องเพิ่มน้ำหนักกันคนละประมาณสามกิโลกรัม  เพื่อฟื้นฟุสุขภาพให้แข็งแรง
                คิดถึง  คลิปที่น่ารัก มาก ๆ ได้ดูระหว่างรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน  เรื่องมีอยู่ว่า  เด็กน้อยชายหญิงสองคนพี่น้อง  กำลังเดินไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง  แล้วทางขาด  พี่ชายสามารถกระโดดข้ามไปได้  แต่น้องสาวยังเล็กไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้  พี่ชายก็คิดไปคิดมา   และนอน..ทอดตัวลง  เพื่อให้น้องเหยียบบนตัว  เดินข้ามไปได้.....  สุดยอด  กด LIKE  เจ็ดสิบคูณเจ็ดสิบครั้ง
                ไม่ต่างไปจาก  คนที่สละน้ำใจตนเอง  ทำความดีเพื่อผู้อื่น  โดยเฉพาะผู้ที่สละ  และอุทิศตน  เพื่อรับใช้พระเจ้า  และเพื่อนมนุษย์เต็มเวลา  อย่างนักบวช  พระสงฆ์
 และสงฆ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  ก็คือพระเยซูเจ้านั่นเอง   พระองค์ทรงสละสิ้นทุกสิ่ง  ตั้งแต่สละความเป็นพระเจ้า  มาบังเกิดเป็นมนุษย์  ใช้ชีวิตเหมือนเรา  แต่เพราะทรงรักเรา  รักพระบิดา  จึงยอมรับความทรมานอย่างแสนสาหัส  ทั้งกาย  ที่ถูกเฆี่ยน  โบย  ตี  สวมมงกุฏหนาม  และถูกตอกตรึงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  และ ใจ...ที่ถูกสบประมาท  ดูถูกเหยียดหยาม  ถูกทำให้อับอาย  อย่างที่สุด เพียงเพื่อเป็นสะพาน  นำเราไปสู่สวรรค์
ขอจบเรื่องนี้  ด้วยไบเบิลไดอารี่ 2012  ของวันที่เขียนเรื่องนี้ นะคะ
พระวรสาร  นักบุญลูกา 21:34-35
                เวลานั้น  พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า
                “จงระวังไว้ให้ดี  อย่าปล่อยใจของท่านให้หมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานรื่นเริง  ความเมามาย และความกังวลถึงชีวิตนี้  มิฉะนั้น  วันนั้นจะมาถึงท่านอย่างฉับพลัน  เหมือนบ่วงแร้ว  เพราะวันนั้น  จะลงมาเหนือทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดิน  ท่านทั้งหลาย  จงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลาเถิด  เพื่อท่านจะมีกำลังหนีพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นนี้  ไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์บุตรแห่งมนุษย์ได้”
พระวาจาของพระเจ้า
ขอพระคริสตเจ้าทรงพระเจริญเทอญ  อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
 01.12.2555  เขียนเสร็จ
15.12.2555  เขียนเพิ่มและส่งเมล
พบกันใหม่   วันพฤหัสบดี กับ เรื่องที่ 107:  อ้อมกอด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น