83.สวัสดีคะ ผู้อ่านที่รัก
วันอาทิตย์ และวันจันทร์ที่ผ่านมา จะมีใคร...แม้สักคนคิดถึงตัวน้อย คิดถึงเรื่องของตัวน้อย เป็นห่วงตัวน้อยบ้างไหมนะคะ....อยากทราบจัง...
ตัวน้อยอยู่โรงพยาบาลรัฐบาล สองวัน รับคีโมเข็มที่สามในห้องรวม แล้วนางพยาบาลให้กลับบ้าน ห้องเดี่ยวเต็ม ตัวน้อยสวดภาวนาขอห้องเดี่ยว ด้วยความไว้วางใจ น้อมรับน้ำพระทัย แล้ว..ก็ไม่ได้ห้องเดี่ยว เพราะ ... พระเจ้าทรงมีแผนการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่านั้น อย่างไรน้า...
ตัวน้อยขับรถกลับบ้าน แล้วไม่สบาย...อาเจียน จึงขับรถไปโรงพยาบาลเอกชนที่ตัวน้อยผ่าตัด ไกลจากบ้านตัวน้อยเกือบสี่สิบกิโลเมตร ขับไปหลับไป ดีที่มีพี่ที่น่ารักมาก ๆ ถึงมากที่สุดในหมู่บ้านอยู่เป็นเพื่อนตลอด และคอยปลุก เวลาไฟเขียว
การเข้าโรงพยาบาลคราวนี้ ห้าวัน มีอะไร ๆ สนุกดี จะขอจัดเต็มในเรื่องต่อ ๆ ไป
ทุกคนสบายดีไหมคะ... ฝากการบ้านไว้ให้คิดเล่น ๆ ถ้าเวลาในชีวิตบนโลกใบนี้ เหลืออีกแค่แปดเดือน จะใช้ชีวิตที่เหลือนี้อย่างไรคะ...
อย่ากลัวเลย ผมทุกเส้นบนศีรษะของท่านถูกนับไว้หมดแล้ว มัทธิว 10:30
พระองค์ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้น ฟิลิปี2:7
พระองค์ทรงผ่านการทดลองทุกอย่างเหมือนเรา ฮีบรู 4:15
จงวางใจในพระเจ้าตลอดไป อิสยาห์ 26:4
เอาหล่ะคะ ตอนนี้ ขอเชิญอ่าน
เรื่องที่83:รักไป... เจ็บไป....
เจ้าเคยเป็นขี้ปากท่ามกลางประชาติทั้งหลาย ให้เขาแช่งฉันใด เราจะช่วยเจ้า แล้วเจ้าจะเป็นแหล่งพระพรฉันนั้น อย่ากลัวเลย แต่จงให้มือของเจ้าเข้มแข็งเถิด เศคาริยาห์ 8:13
“หลายคนที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย และกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก มัทธิว19:30
คนกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนกลุ่มแรก และคนกลุ่มแรกกลายเป็นคนกลุ่มสุดท้าย มัทธิว20:16”
ทำไมหล่ะ ทำไมเป็นแบบนี้หล่ะ...ตัวน้อยเก็บความสงสัยไว้ในใจมาตลอด เพิ่งได้รับคำตอบมาสักอาทิตย์กว่าที่ผ่านมา และเมื่อได้อ่านไบเบิ้ลไดอารี่ 2012 เมื่อวานนี้ (21 สค. 55) ก็ได้รับความ กระจ่าง และพระวาจาวันนี้ (22สค.55) ก็ปรากฏอีกเช่นกัน
หลายคนที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย และกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก มัทธิว19:30
ในส่วนที่เป็นข้อคิด ของไบเบิ้ลไดอารี่ 2012 วันที่ 21 สค. 55 ได้เขียนอธิบายไว้ว่า คนกลุ่มแรก...ที่พระเยซูเจ้าหมายถึง คือ ผู้ที่ฟังพระวาจาของพระเจ้า และปฏิบัติตาม แต่ทำไมกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย และกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก
น่าจะสิบวันที่แล้ว มีพี่ที่น่ารักในหมู่บ้านคนหนึ่งได้มาหาตัวน้อยที่บ้าน เราได้คุยกันหลายเรื่อง แต่เรื่องที่สำคัญ และเป็นคำตอบของสองพระวาจา นี้ โดยอาศัยเรื่องเล่าชวนคิด ให้ขำ ๆ ความว่า
ในสรวงสวรรค์ คนที่ได้ไปสวรรค์ จะขับรถเบนซ์ คนที่อยู่ในไฟชำระ จะขี่จักรยาน คนที่ตกนรกจะ...เดิน
แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่คุณยายขับเบนซ์ เห็นคุณพ่อปั่นจักรยานอยู่ข้างทาง จึงเปิดกระจกรถทักทาย “คุณพ่อ ทำถึงขี่จักรยาน” คุณพ่อตอบว่า “จุ๊...จุ๊ ...อย่าพูดดังไป พระสังฆราชเดินอยู่ข้างหลัง” ??????
ทำไมคุณยายขับเบนซ์ คุณพ่อขี่จักรยาน และพระสังฆราชเดิน ทำไมคุณยายได้ไปสวรรค์ ทำไมคุณพ่ออยู่ในไฟชำระ ทำไมพระสังฆราชจึงตกนรก
อาจจะเป็นเพราะ...คุณยายทำบาปโดยไม่รู้ ไม่มีเจตนา สำนึกผิด ขออภัย ก็ได้รับการอภัย ได้ไปสวรรค์
อาจจะเป็นเพราะ...คุณพ่อทำบาปโดยรู้ แต่เพราะอ่อนแอในความเป็นมนุษย์ สำนึกเสียใจ ขออภัย จึงได้รับการอภัย ต้องผ่านไฟชำระ แล้วจึงได้ไปสวรรค์
อาจจะเป็นเพราะ....พระสังฆราชทำบาปโดยรู้ตัวทุกอย่าง และอาจหลงอยู่ในอำนาจ และงานมากมายที่ต้องทำ ต้องรับผิดชอบ อาจทำให้ตกอยู่ในบาป ขออภัยไม่ทัน ตายเสียก่อน จึงต้องไปนรก กระมัง.....
เมื่อได้อ่านไบเบิ้ลไดอารี่วันนี้ (22 สค. 55) เรื่องคนงานในสวนองุ่น ความว่า คนที่ทำงานเต็มเวลา ได้ค่าตอบแทนเท่ากับ คนทำงานไม่กี่ชั่วโมง เพราะพระเจ้าทรงเมตตายิ่งนัก
คนที่ทำงานเต็มเวลาก็คือนักบวช พระสงฆ์ทั้งหลาย
คนที่ทำงานไม่เต็มเวลา ก็คือ ฆราวาสใจศรัทธา
คนที่ทำงานนาทีสุดท้าย ก็คือคนบาปกลับใจ
ตัวน้อยคิดถึงคำเทศน์ที่เคยฟังจากคุณพ่อท่านหนึ่งว่า “หนึ่งในเล่ห์กลลวงของปีศาจ คือ จะดลใจให้มนุษย์คิดว่า พระเจ้าใจดี เดี๋ยวแก่ ๆ ใกล้ตายแล้ว ค่อยไปวัด กลับใจ พระเจ้าทรงให้อภัย ก็ได้ไปสวรรค์อยู่ดี” ทำให้ใช้ชีวิต ที่จมอยู่ในความผิดบาป
เพราะเราไม่รู้วันตาย ถ้าวันพรุ่งนี้...เราไม่ตื่นขึ้นมาหล่ะ...เรามิต้องตกนรกหรือ พระเจ้าจึงสอน เพราะเราไม่รู้วันเวลา ให้เราเตรียมตัวพร้อมอยู่เสมอ เหมือนเจ้าสาวที่เตรียมน้ำมันตะเกียงไว้ตลอดเวลา เพื่อรอการมารับของเจ้าบ่าว ซึ่งก็คือความตาย ดังนั้น เมื่อตาย แล้วจะไปไหน สวรรค์ หรือนรก
สำหรับตัวน้อย เมื่อคืนดีกับพระเจ้า ได้เรียนรู้จักพระเจ้า ใช้ชีวิตในพระวาจา แบกกางเขน ติดตามพระเยซู ปรารถนาจะไปให้สุดทางแห่งความครบครัน ในอ้อมอุระของพระเจ้า แต่มันไม่ง่ายเลย
เพราะบัญญัติเอกคือ รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจ สุดสติปัญญา สุดพละกำลังนั้น ไม่ยาก เพราะพระเจ้านั้น น่ารัก และแสนดี แต่บัญญัติรอง คือ รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง นั้น ก็เหมือนไม่ยาก แต่สุดจะเจ็บปวดหัวใจ...
เพราะถ้าให้เราปฏิบัติต่อคนอื่น เหมือนที่เราปฏิบัติต่อตัวเองนั่น ไม่ยาก แต่ผู้อื่น เขาต้องการ หรือเปล่า...
หลายครั้งที่ความรัก ความหวังดีของตัวน้อยไม่ค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีความสำคัญ และเจ็บปวดที่สุด ถ้าถูกปฏิเสธจากคนที่รัก ... ที่สุด
พระเจ้าทรงสอนให้ ให้อภัย จงรักศัตรู จงภาวนาให้กับผู้ที่เบียดเบียนท่าน เขาตบแก้มซ้าย จงยื่นแก้มขวาให้เขาตบ เขาขอเสื้อใน จงถอดเสื้อนอกให้เขาด้วย
การให้อภัย การสวดภาวนาให้กับศัตรู หรือ คนที่ทำให้เสียใจนั้นไม่ยาก แต่การที่ยอมให้เขาตบแก้มซ้าย แก้มขวา และเหยียบย่ำหัวใจ มัน...เจ็บปวด ร้าวระบมในหัวใจดีจริง ๆ
จนวันหนึ่ง ที่ตัวน้อยไปวัด มองรูปปั้นพระหฤทัยพระเยซูเจ้ารำพึงคุยกับพระองค์ ลูกไม่อยากเป็นคนดีแล้ว ไม่อยากเป็นคนศรัทธา ไม่อยากเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ อยากเป็นแค่คนธรรมดา อยากเป็นแค่คนบาป ที่พระองค์รัก.....
แล้ว...เสียงในใจ หรือพระวาจาที่อยู่ในหัวใจ...ก็ไม่แน่ใจ ตอบว่า จงเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ เพราะพระบิดาของเจ้าศักดิ์สิทธิ์ จงใช้ชีวิตไร้มลทิน ในสายพระเนตรของพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ เทอญ.
อู้ฮู.... มันเหนื่อย มันยาก ตัวน้อยไม่ใช่นักบุญ ตัวน้อยก็ยังเป็นลูกพระมั่ง ลูกผีมั่ง ไม่ต่างจากใคร ๆ เพียงแต่ เมื่อรู้ว่าพระเจ้าทรงรัก ก็รักตอบพระองค์ และอยากทำให้คนที่รักมีความสุข เพราะความสุขความพอพระทัยของพระองค์ คือ ใช้ชีวิตตามพระประสงค์ของพระบิดา นั่นคือติดตามพระเยซู แบกกางเขนของตน สละน้ำใจตน
การที่ต้องสละน้ำใจตนครั้งแล้วครั้งเล่า มันเหนื่อย มันเจ็บปวด แค่ลองคิดง่าย ๆ ให้รักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง
เวลาตัวน้อยให้อะไรใคร จะให้ในสิ่งที่ตัวเองชอบ ตัวเองรัก เมื่อต้องให้ที่สิ่งที่รักที่ชอบ ใครบ้างจะไม่เสียดาย ใครบ้างจะไม่หวงแหนสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ ถ้าให้อะไรที่ไม่ชอบ แน่นอน สามารถให้ได้ด้วยใจยินดี แต่ให้ในสิ่งที่รัก ในสิ่งที่หวง ด้วยยินดีสละน้ำใจตน แต่ก็มีน้ำตา อาลัยของที่รักที่ชอบ แล้วยิ่งคนรับไม่ต้องการ ไม่เห็นค่า ได้แต่สวดภาวนา เยียวยาหัวใจตัวเอง...
แล้วพระเจ้าหล่ะ รักมนุษย์ทุกคนมากมาย ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่างดี แม้แต่ยอมพลีพระบุตรสุดที่รัก ให้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ รับทุกอย่างเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยเฉพาะความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ทั้งกายและใจ ยิ่งกว่า ใคร ๆ ในโลกนี้ แล้วมีกี่คนที่รู้ รับรู้ และซาบซึ้งในความรักของพระองค์ พระองค์ปรารถนาจะนำเรากลับสู่สวรรค์ แต่มนุษย์มากมาย ก็ยังปฏิเสธ ไม่กลับใจ หลงไปลงนรกนิรันดรกันมากมาย
เพียงเพราะพระเจ้าทรงประทานความอำเภอใจ ให้ใช้ชีวิตในเจตจำนงเสรี
ใครเล่าจะครบครัน การให้อภัย และการสวดภาวนาให้เขาจึงเป็นเครื่องมือที่ดีสุด เพราะมนุษย์ทำได้นิดเดียว แต่พระเจ้าทรงทำได้ทุกสิ่ง
ตัวน้อย...ในฐานะศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้า ก็คงทำได้แค่รักไป...เจ็บไป... แต่ก็ยังต้องรักต่อไป และต่อไป
เมื่อรักแล้ว ก็ต้องรักตลอดไป... เสมอนิรันดร์ เหมือนพระเจ้าเป็นองค์แห่งความรัก... ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิจนิรันดร์
นิรันดร์นั้นนานนัก แต่รักของพระเจ้านานกว่านั้น....
พระองค์ทรงเคาะประตูใจ จนเจ็บมือไปหมดแล้ว เมื่อไหร่ จะเปิดหัวใจรับพระองค์กันเสียที.....
จงกลับใจ แล้วท่านจะมีชีวิต เอเสเครียล 18:32
บางคนเป็นขันทีตั้งแต่อยูในครรภ์มารดา บางคนถูกมนุษย์ทำให้เป็นขันที และบางคนทำตนเป็นขันที เพราะเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์ ผู้ที่เข้าใจ ก็จงเข้าใจเถิด มัทธิว 19:12
ผู้ใดที่สละบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตร ไร่นา เพราะเห็นแก่เรา ก็จะได้รับตอบแทนร้อยเท่า และจะได้รับชีวิตนิรันดรเป็นมรดกด้วย มัทธิว 19:29
เมื่อถึงคราวสิ้นโลก ฑูตสวรรค์จะมาแยกคนชั่วออกจากคนชอบธรรม ทิ้งคนชั่วลงในขุมไฟ ที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟัน ด้วยความขุ่นเคือง มัทธิว 13:49-50
พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า “เขาทั้งหลายจะเป็นคนของเรา เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ในวันที่เราจะประกอบกิจ และเราจะไว้ชีวิตคนเหล่านี้ ดังไว้ชีวิตบุตรของเขา ผู้ปรนนิบัติเรา มาลาคี 3:17
ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามพระวาจาพระเจ้า ย่อมเป็นสุข สดุดี 118:11
จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน ลูกา 1:28
จิตใจของเขาจะยินดีเหลือล้น ในพระเจ้า เศคาริยาห์ 10:7
ผู้ชอบธรรมเป็นบุตรพระเจ้า พระองค์จะทรงปกป้องเขา ปฐมกาล 2:18
ขอพระองค์ โปรดปกป้องลูกทุกคน อย่าให้แพ้การผจญ จนกว่าจะได้มีความสุขในสวรรค์ ด้วยชีวิตนิรันดร์ อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย .
22 .08.55 เขียนเสร็จ.
06.09.55 เขียนเพิ่ม และส่งเมล
พบกันใหม่วันอาทิตย์ กับเรื่องที่84: เยี่ยมผู้ป่วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น