วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

เรื่องที่ 85: กิจกรรมสัญจร ของกลุ่มพีเอ็มจี

85.สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                อาทิตย์ที่สองของการพักฟื้น  การรับคีโมเข็มที่สาม ได้มีโอกาสคุยกับคุณหมอถึงอาการเบื้องต้นของการรับคีโม  คืออาทิตย์แรกจะเกิดอาการแพ้  เช่นคลื่นไส้  อาเจียน ปวดท้อง  ท้องเสีย  ท้องผูก  ไม่มีแรง  อาทิตย์ที่สองจะดีขึ้น  แต่เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายอ่อนแอที่สุด  จึงไม่ความอยู่ในที่ชุมชน  เพราะอาจติดเชื้อได้ง่าย  อาทิตย์ที่สามร่างกายซ่อมแซมส่วนที่ถูกทำลาย  แล้วก็ต้องรับคีโม....อีกแล้ว
                สี่วันที่พักฟื้นอยู่บ้าน  เขียนเรื่องได้อีกสี่เรื่อง  ทั้ง ๆที่ ก่อนจะเขียน  กลุ้มใจ....เล็ก ๆ ว่าไม่มีเรื่อง  ไม่มีประเด็นดี ๆ จะเขียน  คงต้องเปลี่ยนจากส่งเมลอาทิตย์ละสองเรื่อง  เป็นอาทิตย์ละหนึ่งเรื่อง ดีไหมน้า.... แล้วก็มีเวลา  มีอะไรให้เขียน  ก็มีอะไรส่งให้ผู้อ่านที่รักได้อ่านต่อไป  คงเป็นเพราะกำลังใจ  และคำภาวนาจากผู้อ่านที่รักทุกท่านด้วย....
ขอบพระเจ้าทรงตอบแทนน้ำใจดี  ร้อยเท่าพันทวี  อาแมน.
สวดภาวนาให้กัน และกันต่อไปนะคะ...
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เขาได้บอกทุกสิ่งที่ดิฉันเคยทำ  ยอห์น 4:39
พระองค์ทรงทอดพระเนตรเขา  และทรงรักเขา  มาระโก 10:21
ท่านหายเป็นปกติแล้ว  อย่าทำบาปอีก  มิฉะนั้น  เหตุร้ายกว่านี้  จะเกิดขึ้นแก่ท่าน  ยอห์น 5:14
อาแมน.
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 85: กิจกรรมสัญจร ของกลุ่มพีเอ็มจี
เราได้ฟัง  เราได้เห็นด้วยตาของเรา  เราได้เฝ้ามอง  และเราได้สัมผัสด้วยมือของเรา  และเราได้ประกาศให้ท่านทั้งหลายรู้ ยอห์น 1:1
วันเสาร์ที่ 25 สค.55  ตัวน้อยได้ไปร่วมกิจกรรมสัญจร  งานของ กลุ่มฆราวาสผู้ประกาศข่าวดี (พีเอ็มจี)  ในคณะธรรมฑูต  เราได้ไปฟัง  ร่วมแบ่งปัน  และเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท ชาวเวอร์คิง แมนูแฟคเจริ่ง  จำกัด  ซึ่งเจ้าของกิจการ  คือ  คุณศรินทร  เมธีวัชรานนท์  พี่ฆราวาสผู้ประกาศข่าวดี  รุ่นที่สอง  (ตัวน้อยเป็นรุ่นที่สี่)  ผู้เขียน หนังสือเรื่อง  ภูเขาเคลื่อนได้ ชีวิตจริงยิ่งกว่าบทประพันธ์  และบทสวดของฉัน 
หนังสือบทสวดของฉัน  เป็นหนังสือซึ่งนายชุมพาบาลที่สามกรุณาให้มา  เมื่อคืนดีกับพระเจ้าได้...สักสี่เดือน  จากนั้นราวสามเดือน  ตัวน้อยได้เริ่มอ่าน  และเป็นแรงบันดาลใจทำให้จับปากกาเริ่มเขียนหนังสือเรื่องนี้  คือ ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย  เพื่อเป็นกิจการดี ๆ ถวายพระเจ้า  เพื่อเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิต  เพื่อถวายพระสิริรุ่งโรจน์แห่งพระฤทธานุภาพของพระตรีเอกภาพ  ในความรัก และพระเมตตาของพระเจ้า  ปรารถนาเพียง  ร่วมประกาศข่าวดี  ไปให้ได้  จนสุดปลายแผ่นดิน  แม้ตัวอาจไปไม่ถึง  แต่ถึงด้วยการเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิต....ก็ยังดี
เมื่อทราบว่า  มีการจัดกิจกรรมสัญจร  ไปเยี่ยมชมโรงงานของพี่ศรินทร  ทำให้ตัวน้อยอยากไปมาก ๆ ดีใจมาก ๆ เพราะสี่วันก่อนไปนั้น  ตัวน้อยเพิ่งได้รับหนังสือ  สารคาทอลิก  ของสมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทย  เมื่อวันอังคาร  ที่ไปวัดพระจิต  เซนต์หลุยส์  มีพี่ที่น่ารักคนหนึ่งกรุณาบอกว่าเป็นคนตรวจเรื่อง  และเรื่องของตัวน้อยได้ลงหนังสือ  และนำหนังสือมาให้   ในเล่มนี้ได้เริ่มลงเผยแผ่เรื่อง ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย  ตั้งแต่บทนำจนถึงเรื่องสาม  ได้กล่าวถึงพี่ศรินทร  ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวน้อยเริ่มจับปากกาเขียนแบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง  พี่เขา  เป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ             
โรงงานของพี่ศรินทร  อยู่ที่อมตะนคร จ.ชลบุรี  ตัวน้อยไม่รู้จัก  ไปไม่ถูก  และไม่อยากขับรถไกล  เพราะร่างกายยังป่วยอยู่
 เมื่อให้คีโมเข็มแรก  สองอาทิตย์ผ่านไป  ผมเริ่มร่วง  และร่วงมากมาย  จนคร้านจะเก็บกวาด    อาทิตย์ที่สาม  ตัวน้อยก็กลายเป็นคนใจน้อย  เพราะว่าหัวล้าน  ต้องใช้น้องวิกกี้  พี่คนแรกที่เห็นตัวน้อยหัวล้าน  เรียกตัวน้อย  “อิกคิวซัง”  ตัวน้อยตอบ  “ครับผม  เอ้ย..  ครับ  ไม่มีผม  555  หลาย ๆ คนที่ใจดี  คำที่ออกจากปากก็จะเป็นคำที่น่ารักให้กำลังใจ  เช่น  คนป่วยทำไมสวยว้า....  ตัวน้อยได้ยินก็ก้มหน้า  แอบยิ้ม  แต่ใจน่ะ...ยิ้มแก้มแตกไปแล้ว 555 
เมื่อให้คีโมเข็มที่สอง  สองอาทิตย์ผ่านไป  เล็บของตัวน้อยเริ่มดำ  เพราะคีโมจะทำลายเซลที่สร้างตัวไว  เซลที่แตกตัวไวที่สุด คือเซลมะเร็ง  และจากนั้นเซลดี ๆ เซลผม  เซลเล็บ  เนื้อเยื่อในช่องปาก  ความร้อนภายใน  ทำให้ฟ้องออกมาทาง  แผลในช่องปาก  ทำให้รับประทานอาหารยากขึ้น  อีกสองวัน ตัวน้อยจะรับคีโมเข็มที่สาม  ตัวน้อยจะเป็นอย่างไร  โปรดติดตาม  ในตอนต่อไป...
เมื่อตั้งใจจะไปร่วมกิจกรรม  ตัวน้อยก็คิด...คิด..คิด  ขอพระจิตโปรดประทานสติปัญญา....  แล้วก็ขอให้เพื่อน (ท่านประธานรุ่นสี่)...จะขอติดรถไปด้วยก็เกรงใจ  ขอให้ช่วยขับรถให้ดีกว่า  แม้มีเหตุบางประการ  ที่ตัวน้อยทำให้คิดจะขับรถไปเอง  แต่ต้องขอบคุณพระเจ้า  และเพื่อนท่านประธานที่ไม่ยินยอมให้ตัวน้อยขับรถไปเอง  ด้วยความเป็นห่วงตัวน้อย 
และดีมาก ๆ ที่เพื่อนไม่ยอม  เพราะตัวน้อยคงไปไม่ถึง  เพราะไปไม่ถูก  คนละที่กับที่คิดไว้  เราได้แวะรับเพื่อนอีกสองคน  รถของตัวน้อยจึงไปกันสี่คน
เมื่อไปถึงโรงงานพนักงานออกมาต้อนรับอย่างดี  น่ารักมาก ๆ ผู้ที่มาถึงก่อน สิบกว่าคน  และคุณพ่ออีกสององค์  กำลังชมพระแท่นในออฟฟิส  ที่จัดแต่ง  และตกแต่งอยากสวยงาม  เราถ่ายรูปที่ระลึก  และเข้าห้องประชุม  สรุปผู้ร่วมกิจกรรมยี่สิบคน  และคุณพ่อสององค์
ในช่วงเวลาเกือบสองชั่วโมง  เรามีการแบ่งปันกัน  ประมาณสิบคน  เรื่องราวของทุกคนล้วนน่าสนใจ  แต่ขอนำสองคนที่ตัวน้อยประทับใจที่สุด  และขอนำมาแบ่งปันแก่ผู้อ่านที่รักของตัวน้อย
คนที่หนึ่ง  แน่นอนที่สุด  พี่ศรินทร  เมธีวัชรานนท์ 
พี่ศรินทรได้แบ่งปันถึงชีวิตการทำงาน  ประมาณว่า  พี่เขาจะบริหารงาน  แบบฝรั่ง  และญี่ปุ่น  คือให้พนักงาน  มีระเบียบวินัย  ซื่อสัตย์  ตรงเวลา และมีประสิทธิภาพในการทำงาน  แต่มีน้ำใจแบบคนไทย  ด้วยการนำความรักพระเจ้า  และความรักต่อผู้อื่นให้พนักงานได้รับรู้
แม้มีแต่พี่เขา  และครอบครัวเท่านั้น  ที่เป็นคาทอลิก  พนักงานทุกคนเป็นพุทธ  เริ่มต้นจากทุกสามเดือนจะเชิญพระภิกษุมาเทศน์สอน  อบรมจิตใจ  แต่ปรากฏว่า  พนักงานหลับหมด  พี่เขาจึงคิดว่า  “งั้นชั้นเทศน์เองดีกว่า  เพราะท่านประธานพูดใครหลับ  ถูกหักเงินเดือน” 555  มุขขำ ๆ น่ารักดี  แต่พี่เขาเป็นคนพูดสนุก  มีสาระ  ต้องทำให้ผู้ฟังตื่นได้ตลอดอยู่แล้ว  แม้แต่พนักงานต่างด้าว  แม้หมดสัญญาสามปี  ไม่มีใครสักคนลาออก  มีแต่บอกให้เพื่อน ๆ มาสมัคร  แสดงว่า  พี่เขาบริหารได้ใจพนักงานจริง ๆ
พี่เขาได้นำหนังสือพระคัมภีร์ที่เขาอ่านมากมาย  มาให้ชมเป็นขวัญตา  มีกระดาษคั่นพระวาจามากมาย  เป็นแบบอย่าง  แห่งการอ่านพระวาจา  นำพระวาจาสู่ชีวิต  ปรากฏบนตัวอักษร  ผืนผ้า และ แผ่นภาพด้วยงานศิลป์  อันวิจิตร์เปี่ยมด้วยพระพร  จากพระหรรษทานที่หลั่งไหล  เพื่อเยียวยา  หล่อเลี้ยงหัวใจ  ให้พากเพียร  อดทน  และบำเหน็จรางวัลแห่งการผ่านบทที่ทดสอบอันยิ่งใหญ่  ได้อย่างงดงาม
ขอกล่าวถึงชีวิตของพี่เขาพอสังเขป  เผื่อมีใครหลายคนอาจยังไม่รู้จัก คือว่า พี่เขาเป็นคริสตังยืน  ซึ่งหมายความว่า  ไม่ได้รับศีลล้างบาปตั้งแต่แรกเกิด  ซึ่งจะเรียกกันเล่น ๆ ว่าคริสตังนอน
ศีลล้างบาปเป็นพิธีกรรมที่ประกาศความเป็นคริสตชน  คนของพระคริสต์   แต่ถ้ารับศีลล้างบาป เมื่อโตแล้ว  เรียกกันเล่น ๆ ว่าคริสตังยืน  เพราะพระเจ้าทรงเรียก  และเขาก็เลือก  เพราะพระองค์ทรงเลือกให้เขาเป็นลูกของพระองค์ก่อน  และเขาได้น้อมรับน้ำพระทัย
จากชีวิตที่พรั่งพร้อมทั้งการศึกษา  ครอบครัว  และการทำงาน  วันหนึ่งกลับถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง  ทำให้ต้องหนีไปใช้ชีวิตต่างประเทศ  สูญสิ้นทั้งชื่อเสียง  เกียรติยศ  เงินทอง เพื่อน และสามีที่รัก  ชีวิตที่เคยสบาย  กลับกลายเป็นลำบาก ยากแค้น  แค้นทั้งใจ  ลำบากทั้งกาย  แทบอยากจะฆ่าตัวตาย  ไปหลาย ๆ ครั้ง  
แล้ววันหนึ่งที่แสนจะทุกข์ท้อใจ  พี่เขาก็ยังสวดภาวนา  และสวดภาวนา  จนกระทั้งความคิดที่ไม่ได้คิด  ดังขึ้นในสมองบอกพี่เขาว่า  อย่าท้อถอย  วันหนึ่ง  ความจริงจะปรากฏ  พระเจ้ามีงานให้ลูกทำ”
                สิบปีแห่งการตกระกำลำบากในต่างแดน  จนหมดอายุความ  สี่ปีแห่งการหาหลักฐาน  เพื่อล้างมลทิน  และตัดสินใจ  ให้อภัย  โดยไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย  ที่จะได้รับถึงสองสามร้อยล้านบาท
อีกหกปีแห่งการเยียวยา  และสิบหกปีที่เต็มไปด้วยพระพรได้ประจักษ์  ด้วยธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่  ด้วยสองมือเปล่า  ประสบความสำเร็จมากมาย   จนล่าสุด  ได้รับโล่เกียรติคุณ  สตรีไทยดีเด่น ในวัน 1 สค. 55   จากสภาสตรีแห่งชาติ  ในพระบรมราชินูปถัมภ์
                แต่มากกว่าความยินดีในเรื่องนี้  คือพี่เขาพาชมภาพเขียนฝีมือของพี่เขา  ไม่ธรรมดาจริง ๆ และดูเหมือนที่พี่เขาภูมิใจยิ่งกว่า  คือมีโอกาสเข้าเฝ้าพระสัตตะปาปาสองพระองค์คือ  พระสัตตะปาปาจอห์นปอลที่สอง  และพระสัตตะปาปาเบเนดิกส์  ที่สิบหก  องค์ปัจจุบัน 
ตัวน้อยได้เห็น  ชื่นชมหลาย ๆ ภาพ  มีภาพที่พระสัตตะปาปาจอห์นปอลที่สอง  จูบศีรษะพี่เขาด้วย  พี่เขาพูดให้ฟังว่า  “ดีใจ  มีความสุขมาก ๆ เลย  จนไม่สระผมสองอาทิตย์”  วู้...วู้..  ดีใจกับพี่เขาด้วยจริง ๆ ไม่อยากอิจฉา   เดี๋ยวบาป... 555
                ชีวิตของพี่เขาเหมือนโยบ ศต. ที่21 พระเจ้าทรงประทานมา  และทรงนำกลับคืนไป   เมื่อใจยังซื่อสัตย์มั่นคงในรักต่อพระเจ้า  พระเจ้าก็ทรงบำเหน็จรางวัลมากมาย  ไม่ต้องรอรับในสวรรค์  แต่ทรงตอบแทนตั้งแต่บนแผ่นดิน  ดังนั้น  จงแบกกางเขน  ติดตามพระเยซูเจ้า  ด้วยความรัก  ความเชื่อ  ความหวัง ทำทุกกิจการดี  ด้วยความ  ร้อนรน  ซื่อสัตย์ อดทน พากเพียร  และวางใจในพระองค์เทิด  ทุกอย่างที่เกิด  ล้วนเป็นแผนการณ์ของพระเจ้า  เพื่อพันธกิจที่ยิ่งใหญ่กว่า  จะปรากฏ  และสำเร็จไปบนโลกใบนี้
                อู้...แค่เรื่องของพี่เขาคนเดียวก็ยาวแล้ว  ของพี่อีกคนที่ตัวน้อยประทับใจมาก ๆ จะขอแบ่งปันในเรื่อง ต่อ ๆ ไปดีกว่า  เดี๋ยวผู้อ่านที่รักของตัวน้อยจะเหนื่อยเกินไป   เบื่อหรือเปล่าค้า....
เพื่อนรัก  เราล่วงรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจท่าน  ท่านรู้สึกกลัว  ในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น  และท่านกำลังถูกผจญ  ให้ทิ้งเราใช่ไหม  ฉะนั้น  เราขอบอกแก่ท่านว่า  เราเข้าใจท่านดี  เพราะเราเอง  เราก็เคยถูกประจญ  ให้ละทิ้งทุกสิ่งเช่นกัน   ทียบ มัทธิว 4:9
เราเคยถูกทดลอง  ไม่ให้เชื่อฟังพระเจ้า  และหันไปรับใช้ปีศาจแทน เทียบ  ลูกา 4:7
การถูกประจญ  เป็นการทดลอง  มิใช่บาป....  ในชีวิตของพระเยซูเจ้า  เช่นเดียวกับในชีวิตของเรา  การถูกทดลอง และการผจญเป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์พระเจ้า  โดยการทดลองนี้  พระเยซูเจ้าจะทรงช่วยโลกให้รอด  และโดยการถูกทดลองของเรานี่เอง  ที่เรากลายเป็นผู้ร่วมไถ่กู้โลกให้รอดพร้อมกับพระองค์  ( ข้อความจากหนังสือ รำพึง  เข้าใจ  พระวรสารนักบุญมัทธิว หน้า 67)
ผู้ใดรับใช้เรา  ผู้นั้น  จงตามเรามา  ยอห์น 12:26
พระเจ้าข้า  ข้าพเจ้าลี้ภัยมาพึ่งพระองค์  โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอด  สดุดี 7:1
ถ้าผู้ชอบธรรมเป็นบุตรพระเจ้า  พระองค์ก็จะทรงปกป้องเขา  ปรีชาญาณ 2:18
ในวันแห่งความรอดพ้น  เราจะช่วยเหลือท่าน  เราจะปกป้องท่าน  อิสยาห์ 49:8
งานที่เรากระทำอยู่นี้  เป็นพยานถึงเรา  ว่าพระบิดาทรงส่งเรามา  ยอห์น 5:36
จงยินดีเถิด  ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน  พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน  ลูกา 1:28
อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
29.08.55   เขียนเสร็จ.
13.09.2555 เขียนเพิ่ม  และส่งเมล
 พบกันใหม่วันอาทิตย์  กับเรื่องที่86: พี่ชายข้างบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น