วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 114: พระกุมารน้อย

114. สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                หนึ่งอาทิตย์  ทำไมมีแค่เจ็ดวันน้า....  ช่วงเวลาที่ตัวน้อยไปเชียงแสน  เหมือนแสนสั้น  แต่ความทรงจำในกัน  และกัน  ระหว่างพี่(ตัวน้อย)  กับน้อง ๆ ทั้ง....  สิบเก้าคนบวกหนึ่งครูพี่เลี้ยง  แต่เป็นน้องน้อยของตัวน้อยอีกคน  รวมถึงน้อง ๆ ผู้ชายประมาณสามสิบคน เป็นสิ่งที่มีค่า  และไม่อาจลืมเลือน  เมื่อหวลคิดถึง...ก็ทำให้ยิ้มได้...หัวเราะได้...
หวังในใจ... เรื่องราวมากมายที่พี่ตัวน้อยแบ่งปัน  ให้น้อง ๆ ได้ฟังกันตาแบ๋ว   จะมีค่า  และมีความหมายกับน้อง ๆ บ้าง  แม้สักนิด  หากเป็นลิขิตของสวรรค์ หากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า  ...  และตัวน้อยน้อมรับ  เราจะได้พบกันอีก  ....
ตัวน้อยกลัวอยู่ว่า  พี่ที่น่ารัก  จากกลายเป็น...แม่มดไป  เพราะการไปเยี่ยม  กับการไปอยู่ นั้นต่างกัน  การไปอยู่.... การดูแลคงใส่ใจมากกว่าร้อย คงไม่น้อยไปกว่า  ที่ได้ทำไปแล้ว  และ คงเข้มงวดอีกนิดหน่อย  เพราะส่วนใหญ่ก็ดีอยู่แล้ว  ได้แต่คิดถึงพระวาจาในหัวใจที่ว่า  จงอวยพรให้แก่ผู้ที่เคี่ยวเข็ญท่าน”  รายละเอียดขอจัดเต็มในเรื่องต่อ ๆ ไป  กรุณารออ่านหน่อยนะคะ..
ก่อนไปเหมือนหวัดจะยังไม่หาย  ไปอยู่ที่โน่น  อากาศดีมาก ๆ   เย็น ๆ  ถึงหนาว ๆ  ตัวน้อยชอบอากาศหนาวมากกว่าอากาศร้อน  เมื่อกลับมากรุงเทพ  ไปพบคุณหมอในวันรุ่งขึ้น  ตัวน้อยเริ่มจาม  มีน้ำมูก  แต่อาการยังป่วยไม่ชัดเจน  คุณหมอจึงไม่ให้ยาแก้หวัด  สงสัย..ต้องหายารับประทานเอง  ราวกับร่างกายจะเตือนว่า ไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิดนะ   แค่หนาวหน่อยก็ไม่สบาย  อ่อนแอขนาดนี้  แล้ววิญญาณดวงน้อยจะอ่อนแอแค่ไหน...  คงได้แต่ยึดพระองค์ไว้  มั่นคง
ขอพระเจ้าทรงตอบแทนทุกคำภาวานา  ทุกน้ำใจดีที่กรุณารัก  ห่วงใย  สวดภาวนาให้ตัวน้อย  และเมลดี ๆ ร้อยเท่าพันทวี  ทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  ขอพระองค์ทรงรัก  และดูแลทุกคน  แทนตัวน้อย  และเผื่อตัวน้อย   ขอพระจิตเจ้าทรงโปรดภาวนา แทนตัวน้อย  เพื่อพวกลูกทั้งหลาย  โดยเฉพาะน้อง ๆ ที่เชียงแสน ซึ่งกำลังสอบวันนี้ และพรุ่งนี้  ด้วยเทอญ  อาแมน
เขาตั้งท่านเป็นผู้ปกครองหรือ  อย่ายกตนเลย  จงอยู่กับเขาเหมือนคนหนึ่งในพวกเขา  เอาใจใส่เขาให้ดีเถอะ  บุตรสิรา 32:1   อุ๊...ตัวน้อยรู้สึกเหมือนโดนพระวาจานี้  ตีเจ็บ ๆ ... เลย.. เปิดพบได้อย่างไรเนี่ย ...
ผู้ที่รักเขาพยายามตีสอนเขา  สุภาษิต 13:24
ลิ้นของนักปราชญ์แจกจ่ายความรู้  แต่ปากของคนโง่  เทความโง่ออกมา  สุภาษิต 15:2
จงฟังคำแนะนำ  และรับคำตักเตือนสติ เพื่อเจ้าจะได้ปัญญา สำหรับอนาคต  สุภาษิต  19:20
เอาหล่คะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 114: พระกุมารน้อย
สุขจริงหนอ  ผู้ที่พระองค์ทรงเลือก  และนำมาใกล้  ให้พำนักในบริเวณพระนิเวศน์ของพระองค์  สดุดี 64:4
                เมื่อวาน   (วันที่ 28  ธค. 55)  เป็นวันฉลองนักบุญทารก ผู้วิมล  จำได้ว่า  วันนี้  เมื่อปีที่แล้ว(54)  ตัวน้อยก็ได้ไปวัด เพิ่งจะเรียนรู้จักพระเจ้าได้  สิบเดือน หลังจากคืนดีกับพระเจ้าด้วยการแก้บาปรับศีลใน วันวาเลนไทน์ ปี 54  หลังจากไม่ได้แก้บาปมา  สักยี่สิบกว่าปี  เพราะคิดว่า  ยังเลิกทำบาปไม่ได้  และพระเจ้าก็ทรงเมตตาบันดาลให้เกิดเหตุกาณ์  ที่ทำให้ได้สำนึก  กลับใจ  และมีชีวิตที่เหลือ เพียงเพื่อติดตามพระองค์  ตามเรื่องที่ได้แบ่งปันไปแล้ว
เมื่อปีที่แล้ว (54)  ตัวน้อยไปวัดได้ยิน คำว่า ฉลองทารกผู้วิมล ครั้งแรก ทารกผู้วิมล  แปลว่าอะไร อ้อ...  พระเยซูทรงบังเกิดมาได้สามวัน  ฉลองพระกุมารเยซูผู้บริสุทธิ์  ละมั้ง ....
 ปีนี้ (55)  ได้อ่านไบเบิลไดอารี่ 2012  และฟังคุณพ่อเทศน์  ย้ำจึงได้เข้าใจว่า  เมื่อพระเยซูเจ้าประสูติ  กษัตริย์เฮโรดซึ่งอิจฉา กษัตริย์ประสูติใหม่  จึงได้สืบหาพระกุมาร  เพื่อจะประหารชีวิต  ฑูตสวรรค์ได้มาแจ้งข่าว  ทำให้นักบุญยอแซฟ  พาแม่พระ  และพระกุมาร  หนีไปอียิปต์  ทำให้  กษัตริย์เฮโรดกริ้วที่ถูกโหราจารย์หลอก  และสั่งให้ประหารเด็กชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมา  รวมทั้งลูกของตัวเองด้วย......
ทำให้เมืองเบธเลเฮม  และบริเวณใกล้เคียง เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้  คร่ำครวญ  อย่างข่มขื่น  เทียบ (มัทธิว 2:13-18)
เพื่อแผนการณ์ของพระเจ้าในการไถ่กู้มนุษย์จากบาป  ได้กลับไปสวรรค์  ทำให้เด็กน้อยผู้วิมล  ต้องสละชีพ  แต่ในสายตาของชาวสวรรค์  เขาเป็นช่างมีลาภเหลือเกิน  ที่ถูกเลือกให้เป็นพวกแรกในงานไถ่บาปของพระเยซูเจ้า  ผู้ในที่สุดต้องทรงเป็นเหยื่อของบาปบริสุทธิ์ ต้องสิ้นพระชนม์บนกางเขนอย่างปราศจากความผิด”  (ข้อความ  จากข้อคิด ไบเบิล  ไดอารี่ ศ. 28  ธค. 2012)
ตัวน้อยชอบเรื่องเล่าในการเทศน์ของคุณพ่อวันนี้  เป็นพิเศษ  ขอแบ่งปัน  ความว่า
เด็กน้อยคนหนึ่งอาศัยอยู่กับยาย  ฐานะยากจน  ในวันที่เหน็บหนาว  เด็กน้อยได้ออกไปเก็บฟืน  และนำขนมปังติดไป  เผื่อหิวระหว่างทาง
เมื่อเดินออกจากบ้านได้สักพักหนึ่ง  ก็ได้พบเด็กเล็ก ๆ  หนาว  และหิว  เด็กน้อยจึงแบ่งขนมปัง  และถอดเสื้อนอกสวมให้เด็กเล็ก ๆ นั้น
เมื่อเดินต่อมา  ได้พบคุณยาย   คุณยายนอนหนาวอยู่ข้างทาง  เด็กน้อยจึงแบ่งขนมปัง  และผ้าคลุมห่มให้คุณยาย...
เมื่อเดินเก็บฟืนมาเรื่อย ๆ พบคุณตา กำลังมาเก็บฟืน  แต่ไม่ค่อยมีแรงจะเดิน ท่ามกลางความหนาว  เด็กน้อยจึง พาคุณตากลับบ้าน  แบ่งฟืน  ก่อกองไฟ และแบ่งขนมปังที่เหลือให้คุณตา
เด็กน้อยกลับบ้าน  ด้วยเสื้อตัวเดียว  กับฟืนนิดหน่อย  ขณะกำลังเข้าบ้าน  มีแสงระยิบระยับ  ตกมาจากฟ้า  เป็นเพชรพลอย  เด็กน้อยจึงนำไปขาย  อยู่กับคุณยาย  อย่างมีความสุข  ทำความดีต่อไป....  และต่อไป
วันนี้ (29  ธค. 55)  เป็นวันเกิดของพ่อวิญญาณของตัวน้อย ตัวน้อยคิด  แล้วก็คิด  จะให้ของขวัญอะไรดี….  หากกิจการดีที่ทำในวันนี้  พระเจ้าทรงประทานบำเหน็จ  ขอมอบบำเหน็จนี้ เป็นของขวัญวันเกิด  แด่พ่อวิญญาณของตัวน้อย  ดีไหมคะ....
แล้วสิ่งที่ตัวน้อยทำก็คือ...แท่น ... แท๊น...แทน  อาสาคุณพ่อเป็นแท็กซี่ป้ายดำ  นำพระกุมารน้อย  และคุณพ่อเจ้าวัด  กับพี่ ๆ พลมารีย์ สี่คน รวมตัวน้อย  คุณพ่อ  พระกุมาร  หกคน  หนึ่งองค์ ไปเยี่ยม  พี่พลมารีย์  ที่ป่วย  ที่โรงพยาบาล
แม้พี่เขาเจ็บป่วย..  .. ทรมาน  แต่ก็ได้รับพระเมตตา  พระกุมารน้อยเสด็จมาเยี่ยม.....  ไม่ธรรมดาจริง ๆ
ระหว่างทางไปและกลับ  คุณพ่ออุ้มพระกุมาร  อย่างถนุถนอม  จนตัวน้อยแซว  คุณพ่อว่า  “ทำไม  คุณพ่อไม่อุ้มพระกุมารหันหน้าออกไปด้านหน้าหล่ะคะ  พระองค์จะได้ทรงเห็นว่า  โลกนี้วุ่นวายเพียงใด”  คุณพ่อกรุณาตอบ  ด้วยอารมณ์ขันว่า  “เดี๋ยว  พระกุมารน้อยวอกแวก  .... 555   พระองค์ทรงเห็น  ทรงได้ยินทุกอย่างน่ะแหละ......”  อุ.... จะกล้าทำบาปโดยเจตนาไหมเนี่ย.....
ตัวน้อยได้จูบพระกุมารอย่างตั้งอกตั้งใจที่โรงพยาบาล  และมอง.. ชื่นชมพระกุมาร เท่าที่จะละสายตาจากถนนได้  ตลอดเวลาที่ขับรถ   เมื่อกลับมาถึงบ้านคุณพ่อ  ตัวน้อยใช้มือซ้าย  จับมือพระกุมารน้อยที่กางออก  ราวกับรอให้ทุกคนมาโอบอุ้ม  มารักพระองค์  ตัวน้อยไม่อยากปล่อย...ไม่อยากให้พระกุมารน้อยจากไป....  ด้วยว่า  ขอจับมือพระองค์ไว้  และติดตามพระองค์ตลอดไป 
บนหนทางสู่พระเจ้า  พระเยซูตรัสไว้ด้วยพระวาจาในหัวใจว่า  “จงสละทิ้งทุกสิ่ง  และติดตามเรามา  จงสละน้ำใจตน  และแบกกางเขนของตน”
                    ไม่ว่า  วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร  ตัวน้อยจะติดตามพระเยซูไปจนสุดปลายทางแห่งความครบครันในอ้อมอุระของพระบิดาได้หรือ...  จะผ่านการทดสอบหรือไม่...  จะแพ้การผจญเมื่อใด....  กรุณาติดตาม  และเป็นกำลังใจสำคัญของตัวน้อยต่อไปด้วยนะคะ  เราจะสวดภาวนา  และเป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ
                    ขอบมอบบทเพลง  เคียงข้างเสมอ  ให้แก่ผู้อ่านที่รักทุกท่านเป็นของขวัญจากใจตัวน้อยคะ
 
1)บนทางเดินในความมืดมน  เดียวดายจนเกินทนใครเลยจะเข้าใจ
เสียงนุ่มนวลยังคงก้องดังข้างใน                     "เราอยู่เคียงข้างเสมอ"
2) พระเยซูผู้เดียวที่เป็นเพื่อนในยามลำเค็ญ เป็นความหวังให้เธอ
แม้มีภัยใดต้องพานพบเจอ             มีพระหัถต์อบอุ่นดูแลมั่นใจ
3) หากทางเดินยังดูมืดมน             ฉันนี้ยังคงมีพระองค์จับมือมั่นไว้
ขอเพียงมีพระองค์ข้างกาย            ให้ดวงใจอบอุ่นเท่านั้นก็เพียงพอ (ซ้ำ 2)
จงหวังใจในพระเจ้า  เพราะข้าพเจ้าจะถวายสดุดีพระองค์อีก  ผู้ทรงเป็นความอุปถัมภ์  และพระเจ้าของข้าพเจ้า  สดุดี 42:11
ข้าพเจ้าวางใจในความรักมั่นคงของพระเจ้า  ข้าพระองค์โมนทนาพระคุณพระองค์เป็นนิตย์  สดุดี 52:39
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเจ้าตลอดไป  จิตใจของข้าพเจ้าโอ้อวดในพระเจ้า  ให้คนที่เสงี่ยมเจียมตัวได้ฟัง  และยินดี  เชิญยอพระเกียรติพระเจ้าพร้อมกับข้าพเจ้า  ให้สรรเสริญพระนามของพระองค์ด้วยกัน  สดุดี 34:1-3
อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย.
29  ธค. 55  เขียนเสร็จ.
ปล.  ตัวน้อยเขียนเรื่องนี้เสร็จตอนบ่ายวันเสาร์  พอห้าโมงครึ่ง  ไปวัดนพวารพระมารดานิจจานุเคราะห์  เพลงที่ใช้ขับในมิสซาเพลงหนึ่งคือ  “ราตรีพร่างพราว”  เนื้อเพลงเป็นเรื่องราวการประสูติของพระกุมารเยซู  ทำให้ตัวน้อยได้คำตอบว่า  ทำไมพระกุมารน้อยกางพระกร
เนื้อเพลงในวรรคสุดท้ายคือ
พระกุมารากางพระกร   อวยพรให้คนพ้นภัย.
ขอพระเจ้าทรงพระเจริญ  อาแมน.
ปล ที่ 2.  สิบสองวันผ่านไป  หลังจากเขียนเรื่องนี้เสร็จ      พี่….ที่เราไปเยี่ยม   ก็ได้หมดเวลาอันยากลำบาก  ด้วยความศรัทธามั่นคง  และศีลเสบียงมากมายที่พี่เขาได้รับ  เตรียมตัวเตรียมใจ  และวิญญาณที่พร้อมอยู่เสมอ  ทำให้ตัวน้อยเชื่อว่า  พี่เขาได้เข้าสู่อ้อมอุระของพระบิดาเจ้าสวรรค์  เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซู  ในบ้านแห่งบรมสุขชั่วนิรันดร์  หวังในใจ...อีกไม่นาน  เราจะได้พบกัน  นะคะ  ฑูตสวรรค์รุ่นพี่
จบจริง ๆ แล้วคะ...
16.01.2556   เขียนเพิ่มและส่งเมล
พบกันใหม่   วันทิตย์กับ เรื่องที่ 115: ลูกแกะตัวที่เก้าสิบเก้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น