วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เรื่องที่ 129: สองคุณพ่อสุดโต่ง+เรื่องที่127

129. สวัสดีคะ  ผู้อ่านที่รัก
                ตัวน้อยหยุดส่งเรื่องไป..หกสัปดาห์เพราะไปเรียนอบรมครูคำสอน ภาคฤดูร้อน ของศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรม  ระดับชาติ  ปีที่สอง  ปีหน้าเรียนจบก็ได้รับวุฒิบัตรแล้วคะ...  สู้..สู้.. แล้วกว่าจะถึงปีหน้าตัวน้อยจะยังแข็งแรงอยู่ไหมน้า.... คิดแค่ทำวันนี้  ให้ดีที่สุดก่อนดีกว่าใช่ไหมคะ...
                เมื่อวานนี้(01.พค.56) ไปพบคุณหมอ ผลตรวจ  คุณหมอไม่ค่อยบอกอะไร  แต่เหมือนว่าไม่เป็นไร  ใช้ชีวิตให้ชิน ๆ กับอาการไว...กว่าคนอื่น  เช่นเหนื่อยเร็วกว่าคนอื่นหน่อยหนึ่ง  อ่อนแอกว่าคนอื่นนิดหนึ่ง และรับความรู้สึกร้อนได้มากกว่าคนอื่นมากหน่อย  ร้อนได้บ่อย ๆ จนคันยิบ ๆ หลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืน นอนห้องแอร์ ต้องลุกมาเปิดพัดลม ทุกชั่วโมง  สองชั่วโมง เพราะร้อน  เนื่องจากความร้อนในร่างกายขึ้น เพราะรับประทานยาต้านมะเร็ง  และใกล้เข้าสู่วัยคนจะรวย  ก็วัยทองอย่างไรคะ  .. รวยแบบนี้ไม่อยากรวยเลยนะคะ... แต่ใครเล่าจะหนีพ้น...
  คุณหมอบอกอยู่ที่ใจแล้ว  แค่ต้องอดทน  อยู่กับมัน  อยู่ให้ชิน ๆ บอกกับใจ  ต้องอดทน  และอดทน  คนที่เขาลำบากกว่าเรามีตั้งมากมาย  แล้วอีกสามเดือนมาพบคุณหมอใหม่
                วันนี้ ( 02 พค. 56) ตัวน้อยจะเริ่มทำทัวร์ห้าวัน  รับลูกทัวร์ไฟล์สามทุ่มครึ่ง  ติดกันสี่สัปดาห์ ทุกวันพฤหัสบดี จบวันจันทร์ ต้องขาดวัดวันอาทิตย์ และการประชุมพลมารีย์ด้วย ตัวน้อยต้องแก้บาปไหมคะเนี่ย คุณพ่อที่อ่าน  กรุณาตอบตัวน้อยที  แต่วันที่ไม่ได้ทำงาน  ตัวน้อยไปวัดทุกวันเลยคะ
 แค่คิดถึงแสงแดดที่แรงมาก ๆ ก็ไม่อยากคิดต่อแล้วคะ  ตัวน้อยจะหงุดหงิดกับความร้อนที่ทำให้ไม่สบายตัว  จนหงุดหงิดกับลูกทัวร์ไหมเนี่ย.. ท่องคาถา อดทน อดทน  เอาน้ำพรมไว้ ขยันล้างหน้า ทาครีมกันแดด    ทาแป้งฝุ่น  แป้งเย็นบ่อย ๆ จะได้คลายร้อนนะคะ.. ปัญหามา  ปัญญามี   แก้ไขกันไป
                หัวใจของตัวน้อยชื่นบานได้ด้วยเมลตอบของผู้อ่านที่รัก พี่น้องฝองเพื่อน  ก็ยังน่ารักมาก ๆ ถึงมากที่สุดเหมือนเดิม  คิดถึงข้อความที่ได้อ่าน ก็ยิ้มไปยิ้มมา น่ารักจริง ๆ ขอบคุณนะคะ  จุ๊บ...จุ๊บ..
ขอพระเจ้าทรงตอบแทนทุกคำภาวานา  ทุกน้ำใจดีที่กรุณารัก  ห่วงใย  สวดภาวนาให้ตัวน้อย  และเมลดี ๆ ร้อยเท่าพันทวี  ทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  ขอพระองค์ทรงรัก  และดูแลทุกคน  แทนตัวน้อย  และเผื่อตัวน้อย   ขอพระจิตเจ้าทรงโปรดภาวนา แทนตัวน้อย  เพื่อพวกลูกทั้งหลาย ด้วยเทอญ  อาแมน.
ทุกสิ่งที่มาจากหัวใจอันแท้จริง  ย่อมมีคุณค่า  และเป็นของขวัญที่สวยงาม (ข้อความจากหนังสือแม่รักลูก เล่ม 3 หน้า22)
มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา  แต่เราได้เลือกท่าน  มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล  และผลของท่านจะคงอยู่ (ยอห์น 15:16)
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้เชิญอ่าน
เรื่องที่ 129:  สองคุณพ่อสุดโต่ง
“เรามิได้ประกาศเรื่องตนเอง  แต่ประกาศว่า  พระคริสตเยซูทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้า  ส่วนเราเป็นเพียงผู้รับใช้ท่านทั้งหลาย  เพราะความรักต่อพระเยซูเจ้า”  2  โครินทร์ 4:5
                วิชาแรกที่เรา....  นักศึกษาชั้นปีที่สอง  ของการอบรมครูคำสอน  ภาคฤดูร้อน ประจำปีการศึกษา 2556 ของศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรม  ระดับชาติ  ได้เรียนคือ
                “หลักสัจธรรมข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า”  เนื้อหาคือ ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริตเจ้า  พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า  องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย  ทรงปฏิสนธิเดชะพระจิตเจ้า  ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี  ทรงรับทรมานสมัยปอนทิอัส  ปิลาต  ทรงถูกตรึงกางเขน  สิ้นพระชนม์  และถูกฝั่งไว้  เสด็จสู่แดนมรณะ  วันที่สามทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ  จากบรรดาผู้ตาย  เสด็จสู่สวรรค์  ประทับเบื้องขวาพระเจ้า  พระบิดาผู้ทรงสรรพนุภาพ  แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็น  และผู้ตาย
                คุณพ่อที่สอน ตั้งใจ ทุ่มเท  และเข้มงวด ที่สุด ของที่สุด  เวลาเรียนห้ามคุยกันเด็ดขาด...  นักเรียนห้าสิบห้าคน  ตั้งใจเรียนกันมาก  เป็นการยากที่จะไม่ง่วง เมื่อต้องเรียนเนื้อหา  แต่เป็นการทำให้เรามีระเบียบวินัย และตั้งใจในการเรียนวิชาต่อ ๆ ไปมากยิ่งขึ้น
                เราได้เรียนรู้ถึงธรรมล้ำลึกมากมาย  อย่างเช่น “ความเชื่อในการรับธรรมชาติมนุษย์แท้จริงของพระบุตรพระเจ้า  เป็นเครื่องหมายที่เด่นชัดแห่งความเชื่อของคริสตัง “ท่านทั้งหลายรู้จักจิตของพระเจ้าโดยวิธีนี้  คือจิตใจที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสตเจ้าเสด็จมาในธรรมชาติมนุษย์  ก็เป็นจิตที่มาจากพระเจ้า  (1 ยอห์น 4:2)  นี่คือความเชื่อมั่น  อันเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีของพระศาสนจักร  ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มพระศาสนจักรมาแล้ว  เมื่อพระศาสนจักรขับเพลงธรรมล้ำลึกแห่งความเคารพรักพระเจ้า  “พระเจ้าทรงปรากฏให้แลเห็นได้ในธรรมชาติมนุษย์”  ( 1 ทิโมธี 3:16)  ตัวน้อยสวดขอพระจิตเจ้า ว่าทรงประสงค์ให้ใช้ข้อความใด  จากเนื้อหาที่เรียน  77 หน้า  เล่มขนาดเอสี่  แล้วตัวน้อยก็พบข้อความนี้  เป็น ข้อความจากหนังสือ  คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  ภาค 1 การประกาศยืนยันความเชื่อ ข้อ 463  หน้า 114  เป็นต้น  และธรรมล้ำลึกอื่น ๆ  อีกมากมาย
                วิชาที่สอง  คริสต์ศาสนาในประเทศไทย   เป็นเรื่องประวัติศาสตร์พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย  เพราะเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์  คุณพ่อสอนได้สนุก  และนำลูกอมมาแจกพวกเรา  เพื่อเป็นตัวช่วยแก้ง่วง  จะได้ไม่หลับในเวลาเรียน  คุณพ่อบอกพวกเราว่า  “เวลาแกะลูกอมให้แกะดัง ๆ  ???....คนที่ง่วง ๆ หลับ ๆ จะได้ตื่นด้วย  555  ฮาดี...ชอบ...ชอบ...
                คุณพ่อสอน  และเราต้องอ่านหนังสือขนาดสี่เอพับครึ่ง สามร้อยยี่สิบเก้าหน้า อีกรอบ  หรือหลาย ๆ รอบ    เพื่อทำข้อสอบหกข้อ  เขียนด้วยลายมือ  ไม่จำกัดจำนวนหน้า  วิชานี้เขียนตอบกันคนละหลาย ๆ สิบหน้า  ทำให้เรานิ้วระบมกันเป็นแถว โดยเฉพาะตัวน้อยซึ่งไม่ได้เป็นครู  หรืออยู่ในวงการการศึกษาเหมือนคนอื่น ๆ   ทำให้ไม่ชินกับการต้องเขียนลายมือ  มากมายขนาดนี้  สาหัสจริง ๆ ....  เขียนไป... บ่นไป...  บ่นแม้วิชาต่อ ๆ ไป อีกเก้าวิชา  เพราะต้องสอบเขียน  จดเลคเชอร์ที่เรียนอีก ทรมานจริง ๆ ....
                ตัวน้อยขอจบเรื่องด้วยการตอบข้อสอบข้อที่หก  ด้วยโจทย์ที่ว่า  “ในฐานะที่นักศึกษาเป็นผู้ที่เตรียมตัวเป็นพระสงฆ์คาทอลิก  หรือครูคำสอน  ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในด้านการแพร่ธรรมของพระศาสนจักร  และด้านอื่น ๆ จงแสดงความคิดเห็นประยุกต์ความรู้จากการเรียนคริสตศาสนาในประเทศไทย  เพื่อเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัว  และเตรียมชีวิตของแต่ละคน”      
ตัวน้อยตอบในการตอบข้อสอบว่า  ความรู้มากมาย  ที่ได้เรียนในการอบรมครูคำสอน  สองปีที่ผ่านมา  แล้วด้วยวิชา ประวัติศาสตร์ พระศาสนจักรไนประเทศไทย  ทำให้ได้ทราบว่า  ราว   350  ปีแล้ว  ที่คริสตศาสนา  เข้ามาเผยแผ่ในประเทศไทย
นับราวสี่พันปี  ที่ความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์  ปรากฏเป็นเรื่องราว  บันทึกไว้ใน พันธสัญญาเดิม  และพันธสัญญาใหม่ 
การได้เรียน  ได้ฟัง  ได้อ่าน ได้ประมวล.. เรียบเรียงเรื่องราว  เพื่อเขียนตอบข้อสอบ  ทำให้ได้รับความรู้  ความเข้าใจ  ความซาบซึ้ง  ในความทุ่มเทของพระศาสนจักร  ที่  พยายามเผยแผ่  ประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซูคริสต์เจ้า  ความรักจนถึงที่สุด และมั่นคงเป็นนิจนิรันดร์ของพระเจ้า  เพื่อช่วยเรา..มนุษย์ ให้รอดพ้นจากบาปที่นำเราลงสู่ไฟนรก  ได้คืนดีกับพระเจ้า  และกลับสู่บ้านแท้ของพระบิดาเจ้าสวรรค์  ด้วยชีวิตนิรันดร
ความรักต่อพระเจ้า  และเพื่อนมนุษย์  เพื่อช่วยวิญญาณได้รอดพ้น  ด้วยความพากเพียร ของเหล่ามิสชันนารี ไม่ว่าจะมีอุปสรรค ปัญหา  การเบียดเบียนมากเท่าไร  ความยากลำบากเพียงไร  หรือแม้ชีวิตจะต้องจบสิ้นลง   คนแล้ว  คนเล่า  ครั้งแล้ว  ครั้งเหล่า  เป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมแห่งชีวิตคริสตชน  ผู้ได้รับเลือกสรร  ให้เป็นบุตรของพระเจ้า  เป็นศิษย์ของพระเยซูคริสตเจ้า  อย่างแท้จริง
ข้าพเจ้า...ในฐานะคริสตชนที่เพิ่งคืนดีกับพระเจ้าได้สองปี  การได้เรียนรู้ความรักพระองค์  ก็เพื่อที่จะสามารถร่วมประกอบพันธกิจประกาศ ข่าวดี  ได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าด้วยงานเขียน  การแบ่งปันกับผู้คนที่พานพบ  ด้วยชีวิตที่เป็นประจักษ์พยานในความรัก  และพระเมตตาของพระเจ้า  การใช้ชีวิตด้วยพระวาจา  ในความรัก  ความเชื่อ  และความหวังอันยิ่งใหญ่
แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย  ที่จะสละน้ำใจตน  แบกกางเขนของตน  ติดตามองค์พระเยซู 
แต่อย่างน้อยที่สุด  เราในฐานะคริสตชนต้องยึดมั่นในความรัก  และพากเพียรในการทำความดี  เพื่อเป็นภาพลักษณ์ที่ครบครันของพระเจ้า  เพราะพระเจ้าประสงค์ให้มนุษย์นั้นศักดิ์สิทธิ์  เหมือนที่พระองค์ศักดิ์สิทธิ์  พร้อมที่จะเป็นเครื่องหมาย  และเครื่องมือ  ในการรัก รับใช้พระเจ้า และเพื่อนมนุษย์  เพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จไป เป็นที่พอพระทัย
การมีชีวิตอยู่ท่ามกลางกระแสโลก  เหมือนดั่งพระวาจาในหัวใจที่ว่า  “เราส่งเจ้าไป  เหมือนลูกแกะในฝูงสุนัขป่า”  การใช้ชีวิต  ที่เป็นเกลือดองแผ่นดิน  เป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืด  เป็นเชื้อฟูของพระเจ้า  ที่จะหว่านความรัก  ความเชื่อ  และความหวัง  ลงในใจของผู้คน  เป็นสิ่งที่ต้องกระทำต่อไป  และต่อไปด้วยความพากเพียร  จนกว่าจะถึงปลายทางแห่งความครบครันในอ้อมอุระของพระบิดาเจ้าสวรรค์
แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ  และผิดพลั้งอยู่เสมอ   อาจไม่ดีพอ  อาจไม่ถูกใจใครหลายๆ คน  ขอพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตอยู่กับเราเสมอ  ด้วยความไว้วางใจ  ไม่ว่าจะเป็นอะไร ไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้น  ขอเพียง....เพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฏในตัวเรา  เทียบ  ยอห์น 9:3    ลูกเป็นของพระองค์  โปรดกระทำต่อลูกตามที่พระองค์ทรงพอพระเถิด......
ผู้ใดก็ตามที่หนีพ้นความเสื่อมของโลก  ผู้ได้รู้จักพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า  องค์พระผู้ไถ่ของเราแล้ว  ถ้าเขากลับไปติดบ่วง  และพ่ายแพ้ความเสื่อมนี้อีก  บั้นปลายของเขา ก็จะประสบสิ่งร้ายยิ่งกว่าตอนต้น  การที่เขาไม่เคยรู้จักทางแห่งความชอบธรรมเลย  ยังดีกว่า  การที่เขารู้ทางแห่งความชอบธรรมแล้ว  แต่หันหลังให้บทบัญญัติศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทาน  2 2:20-21
เมื่อข้าพเจ้าพบพระวาจา  ข้าพเจ้าก็ได้กินพระวาจานั้น  พระวาจาของพระองค์เป็นความชื่นบาน  และความยินดีในจิตใจข้าพเจ้า  เยเรมีย์. 5:16
ความสุข  จงมีแต่ผู้อ่าน  และผู้ฟังถ้อยคำการประกาศพระวาจานี้..  วิวรณ์ 1:3
พระวาจาของพระเจ้า....
ขอพระคริสตเจ้าทรงพระเจริญเทอญ ... อาแมน.
                ตัวน้อยตอบข้อสอบแบบนี้  ผู้อ่านที่รักจะให้ตัวน้อยได้กี่คะแนนดีคะ....
                ตัวน้อยไม่ได้ขอมาก  ขอแค่ไม่น้อยก็พอ...  คิ..คิ...
ลูกแกะตัวน้อย
27. 04. 56  เขียนเสร็จ
02. 05. 56 เขียนเพิ่ม และส่งเมล
พบกันใหม่   วันอังคารกับ เรื่องที่ 130: ละครหุ่นมือ
ขอเชิญตามอ่าน...  “ความรักของพระเจ้ากับลูกแกะตัวน้อย”  เรื่องที่ส่งไปแล้วใน
127: สวัสดีคะ   ผู้อ่านที่รัก
                หกสัปดาห์ที่ วุ่นวายสนุกสนานกับการทำทัวร์  และตั้งแต่พรุ่งนี้ ( 18 มีค. - 25 เมษ.56)  ตัวน้อยจะเข้าโรงเรียนประจำ  อบรมครูคำสอนภาคฤดูร้อน ปีที่สอง อีกหกสัปดาห์  เรียนหนัก  การบ้าน  รายงาน  การสอบ  คงมากมาย  เรื่องนี้  เป็นเรื่องสุดท้ายที่เขียนเสร็จ   แต่ยังไม่ใช่เรื่องสุดท้ายนะคะ  เรื่องต่อไปตัวน้อยมีชื่อเรื่องแล้ว  คือ  ตุ๊กตาหน้ารถ  แต่ยังไม่แน่ใจจะมีเวลาเขียนเมื่อใด  ....
                จากนี้ไป  เรื่องของตัวน้อยคงไม่ได้มาตามวันนัดหมาย....  แต่ขออนุญาตมาตามความสะดวก  ที่ตัวน้อยจะมีเวลาเขียนแบ่งปัน  และคุณพ่อกรุณาตรวจให้ เรียบร้อยก่อน  แล้วจึงส่งเมลได้   หวังในใจ  เราจะยังคิดถึงกันในคำภาวนา  และโปรดขอให้ตัวน้อยมีเวลา  มีพละกำลัง  และเรื่องราวดี ๆ มาแบ่งปันให้ผู้อ่านที่รักได้อ่านต่อไป  กรุณารออ่าน  และรอติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ....
ขอพระเจ้าทรงตอบแทนทุกคำภาวานา  ทุกน้ำใจดีที่กรุณารัก  ห่วงใย  สวดภาวนาให้ตัวน้อย  และเมลดี ๆ ร้อยเท่าพันทวี  ทั้งบนแผ่นดิน  และในสวรรค์  ขอพระองค์ทรงรัก  และดูแลทุกคน  แทนตัวน้อย  และเผื่อตัวน้อย   ขอพระจิตเจ้าทรงโปรดภาวนา แทนตัวน้อย  เพื่อพวกลูกทั้งหลาย ด้วยเทอญ  อาแมน.
ท่านเองเป็นหนังสือของเราจารึกไว้ที่ดวงใจของเรา  ให้คนทั้งปวงได้รู้ และได้อ่าน  ท่านปรากฏเป็นหนังสือของพระคริสต์ซึ่งเราได้เขียนไว้มีใช่ด้วยหมึก  แต่ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า  ผู้ทรงชนม์  และมิได้เขียนไว้ที่แผ่นศิลา  และเขียนไว้ที่แผ่นดวงใจมนุษย์  2 โครินทร์ 3:2-3   อู้....ฮู...  ตัวน้อยพบพระวาจานี้ได้อย่างไรเนี่ย....
ข้าพเจ้าจึงตรากตรำทำงานด้วยความอุตสาหะ  เข้มแข็ง  ด้วยพลังที่พระองค์ดลใจข้าพเจ้าอยู่  โคโลสี 1:29  ใช่เลย.....
ข้าพเจ้าไว้ใจในพวกท่านว่า  ความยินดีของข้าพเจ้า  ก็เป็นความยินดีของท่านด้วย  2 โครินทร์ 2:3  จริง ๆ นะ...  เหมือนใจตัวน้อยเลย...
เอาหล่ะคะ  ตอนนี้  เชิญอ่าน
เรื่องที่ 127: มะม่วงน้ำดอกไม้
เมื่อคุณให้พระเจ้าพูดคุย  และยิ้มให้โลกผ่านคุณ  โดยคุณเป็นผู้ให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน  และอยู่อย่างเปี่ยมจุดมุ่งหมายแล้ว  ความมั่งคั่งในดินแดนสวรรค์ย่อมเป็นของคุณ  (ข้อความปกหลัง  ของหนังสือสารนักบุญมาร์ติน ปีที่ 6 ฉบับที่ 1/2013)
ตัวน้อยคิด...คิด...คิด....หาวิธีดี ๆ  เพื่อจะแบ่งปันกับลูกทัวร์ญี่ปุ่น  ถึงความรักของพระเจ้า   อย่างไรดี น้า.....
 สวดภาวนา....ขอพระจิตเจ้า  โปรดทรงนำ  เป็นแสงสว่าง  โปรดประทานสติปัญญา ปรีชาญาณ  และพระพรอันอุดมของพระองค์  เพื่อให้ตัวน้อยประกาศข่าวดีของพระองค์ได้สำเร็จไปตามพระประสงค์  เป็นที่พอพระทัยด้วยเทอญ  อาแมน.
                เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่นับถือศาสนา  ไม่เชื่อในพระเจ้า  ไม่เชื่อเรื่องวิญญาณ  หรือชีวิตหลังความตาย   เมื่อแรก ๆ คืนดีกับพระเจ้า  ตัวน้อยประกาศข่าวดีแผ่ธรรมด้วยความร้อนรน  จนมีลูกทัวร์มาเตือนว่า “ พูดแบบนี้  อาจมีคนไม่ชอบ  คุณจะถูก  complain  บริษัทอาจถูกปิดได้นะ  อู้...ฮู...  ลูกทัวร์พูดประมาณนี้  ในความหมายนี้  สองคน  สองทัวร์ติดกัน  ตัวน้อยหนาวเลย....
                ทำให้ตัวน้อยต้องคิดวิธีแผ่ธรรม  แบบเพลิน ๆ  เนียน ๆ  ให้ลูกทัวร์รับได้  และไม่มีปัญหา
                ประเด็นที่ใช้  คือ
ตัวเองเปลี่ยนแปลงอย่างไร  เมื่อรู้ว่า  พระเจ้ารัก  และรักพระเจ้า  ทำให้ได้เรียนรู้ความรักพระองค์ 
วิธีหนึ่งที่ใช้อยู่เป็นประจำคือ....ทุกทัวร์  ตัวน้อยจะซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้มาให้ลูกทัวร์รับประทานสองครั้ง  ในมื้อแรก  และมื้อสุดท้าย  เพื่อให้ลูกทัวร์ได้รับประทานผลไม้ที่อร่อยที่สุด เป็นความทรงจำดี ๆ เป็นน้ำใจเล็ก  เพื่อแทนการขอบคุณจากไกด์  และเพื่อจะสอดแทรกการแผ่ธรรมที่ว่า  พระเมตตาคือผล (ไม้) 
ส่วนหนึ่งในบทสรรเสริญพระเมตตาของพระเจ้า  จากหนังสือ  บทภาวนา และสารพระเมตตาของพระเยซูเจ้า  หน้า 11  มีบทสวด ว่า  “ความรักของพระเจ้าคือดอกไม้  พระเมตตาของพระเจ้าคือ ผล (ไม้)”
อย่างทัวร์ล่าสุด  มีลูกทัวร์สิบคน ตัวน้อยซื้อมะม่วงสองลูกสำหรับสิบคน  สองชุด เป็นสี่ลูก  แต่เมื่อถึงวันที่ต้องนำไปให้ลูกทัวร์รับประทานตัวน้อยหยิบไปสามลูก  แล้วนำไปใช้เป็นประเด็นในการแผ่ธรรมว่า  “มื้อกลางวัน  นอกจากผลไม้ของทางร้านอาหารแล้ว   ดิฉันได้นำ.....  (ยกถุงมะม่วงให้ลูกทัวร์ดู  แล้วถาม)  นี่อะไรคะ”  ลูกทัวร์ส่วนใหญ่ตอบถูก  และตัวน้อยก็บอก  “เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยซ้ำ บ่อย ๆ ก็เพราะผลไม้อร่อย ๆ ทำให้ดิฉันซื้อมะม่วงมาให้คุณได้รับประทาน  สองลูกอาจจะหวาน   ลูกหนี่งอาจจะยังเปรี้ยว  เพราะว่า  ตอนที่ซื้อ เตรียมไว้ให้รับประทานสองลูก ...
 แต่เนื่องจากดิฉันเป็นคริสต์  และเพิ่งคืนดีกับพระเจ้า เพิ่งศรัทธา พระเจ้าทรงสอนไว้ว่า  เมื่อจะให้  ต้องให้อย่างจุใจ  อย่าให้แบบงก ๆ ........   แต่ก่อนดิฉันเป็นคนงก ทำงานหาเงินได้   ก็เก็บ  ใช้อยู่คนเดียว  ให้พ่อแม่บ้าง แต่เมื่อรู้จักพระเจ้าแล้ว  ทำให้ฉันรู้จัก  แบ่งปันให้กับผู้อื่นมากขึ้น  ช่วยเหลือ  เอื้อเฟื้อผู้อื่นมากขึ้น  และฉันก็มีความสุขมากขึ้น  ดังนั้น  มะม่วงสองลูก  สำหรับสิบคนอาจจะน้อยไปหน่อย   ให้คุณได้รับประทานอย่างเพียงพอ  เหลือเฟือ  แล้วค่อยหาซื้อใหม่ดีกว่า   ดีไหมค้า....”  ลูกทัวร์ก็พยักหน้าชอบใจ
ระหว่างเดินทางจะเห็นดอกไม้สวย ๆ เกือบตลอดทาง  เพราะดอกเฟื่องฟ้า  ที่ปลูกเกาะกลางถนน มีดอกงามหลากสีทั้งปี  ช่วงนี้ เดือนกุมภาพันธ์ เป็นหน้าของดอกชัยพฤกษ์  หรือดอกคูณ  เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย  และดอกชมพูพันทิพย์  ซึ่งเป็นดอกไม้สีชมพู คล้ายดอกซากุระชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น   ตัวน้อยจะคุยกับลูกทัวร์ว่า  ดิฉันชอบดอกไม้สวย ๆ มากเป็นพิเศษ  เพราะความรักของพระเจ้า  คือดอกไม้   พระเมตตาคือผล (ไม้)”    เพราะดอกไม้ทำให้โลกสวยงาม   ถ้ามีความรักอยู่ในหัวใจ  หัวใจก็ยิ่งสวยงาม และมีความสุขเป็นพิเศษใช่ไหมคะ.....”
และเมื่อลูกทัวร์ได้รับประทานมะม่วงครั้งที่สองในมื้อสุดท้าย  ตัวน้อยจะถาม  “อาหารมื้อนี้  อะไร  อร่อยที่สุดคะ”  ลูกทัวร์  ส่วนใหญ่  ก็จะตอบว่า  “มะม่วง”   ตัวน้อยก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่  สุขใจที่มะม่วงนั้นหวาน  และลูกทัวร์ชอบ
ตัวน้อยเสกมะม่วงมาสองวันแล้ว  จงหวาน ๆ  เพราะจะเล่นเป็นมุขว่า  “ดิฉันซื้อมะม่วงมาเตรียมไว้ล่วงหน้าสองวัน  เพื่อให้ได้รับประทานในวันสุดท้ายแล้วนะคะ”  เพื่อให้ลูกทัวร์สบายใจว่า  ไกด์รักษาสัญญา  สัญญาต้องเป็นสัญญา  สัญญาจะซื้อให้รับประทานอีกครั้งก็ต้องทำ  แล้วตัวน้อยชูถุงมะม่วงให้ลูกทัวร์ดู   แล้วก็ใช้นิ้วชี้  ชี้วน...วน...  เหมือนท่าแม่มดเสกของ  บอกกับมะม่วงว่า  จงหวาน จงหวาน”  ...  แม่มดตัวน้อย  คิ..คิ...
และในมื้อสุดท้ายที่จะรับประทานมะม่วง  ปรากฏว่า  มะม่วงสามลูก  สามสี  คือเหลืองมาก  เหลืองน้อย  และเหลืองเขียว  ทำให้ตัวน้อยคุยกับลูกทัวร์ด้วยความกังวลใจว่า  “ลูกเหลืองเขียวนี้  ท่าทางจะเปรี้ยวนะคะ”  ตัวน้อยบอกให้ลูกทัวร์ทำใจไว้ก่อน
ในชีวิตแต่ละวัน  มีเรื่องราวมากมาย  สิ่งที่ตาเห็น  สิ่งทีหูได้ยิน  อาจไม่ใช่....  อย่างที่คิด   หลายครั้งที่ปากไม่ตรงกับใจ  เพราะใจมนุษย์นั้น  ยากแท้...หยั่งถึง และบางครั้ง  เรารู้ตัวบ้าง  ไม่รู้ตัวบ้าง   ว่าเราทำอะไรลงไป  พูดอะไรออกไป  ทำให้ใครเสียใจ  เสียหาย  หรือเปล่า ทำให้ตัวน้อยคิดถึงพระวาจาในหัวใจที่ว่า  “อย่าไปตัดสินผู้เขา  แล้วท่านจะไม่ถูกตัดสิน”   มัทธิว 7:1
เมื่อปลอกออกมาสามลูก เนื้อมะม่วงเหลืองดี  แต่มีอยู่ลูกหนึ่งที่เป็นเส้นดำ ๆ ตัวน้อยก็บอกลูกทัวร์ว่า  “มะม่วงเป็นเส้นดำ ๆ รับประทานได้คะ”   แล้วลูกทัวร์ก็รับประทานกันเกลี้ยง   ลูกทัวร์บอกว่า “มะม่วงหวานดี”  ตัวน้อยสบายใจยิ้มไปยิ้มมา   ที่ลูกทัวร์ได้รับประทานมะม่วงที่อร่อย    แล้วก็ถามลูกทัวร์ว่า  “ผลไม้อร่อย  เป็นความใจดีของใครคะ”  แล้ว ก็มีลูกทัวร์ตอบได้  ว่า  พระเจ้า”  ชื่นใจจริง ๆ
ตัวน้อยหยอดความรักของพระเจ้าไว้ด้วยดอกไม้  ที่เห็นกันได้ในทุกแห่งหน  เพราะความรักของพระเจ้าก็อยู่ในทุกสรรพสิ่ง และแอบหวังในใจ....ทุกครั้งที่รับประทานผลไม้  ลูกทัวร์คงจะสะกิดเตือนใจถึงคำพูดของตัวน้อยที่ว่า  “พระเมตตาคือผล (ไม้)”   เพราะด้วยพระเมตตาของพระเจ้าทรงเลี้ยงดูลูก ๆ ของพระองค์แต่ละคนอย่างดี....ที่สุด
                ตัวน้อยหว่าน พระวาจาด้วยชีวิตในพระวาจาของตัวน้อย   และหยอดพระวาจาด้วยบทภาวนา เหมือนข้าวในนาที่มีทั้งนาหว่าน  และหยอดต้นกล้าลงในแต่ละหลุมเหมือนนาดำ  อย่างพิถีพิถัน  ปรารถนาเพียง...ให้จิตวิญญาณของลูกทัวร์เติบโตเป็นต้นแห่งพระพรที่แข็งแรง  เป็นลูกที่รัก  และร้อนรนของพระเจ้าในเร็ววัน  ขอให้ความเชื่อ ความไว้ใจ  ความรัก  และศรัทธาต่อพระเจ้า  เพิ่มพูนในหัวใจ  และจิตวิญญาณของลูกทัวร์  และทุก ๆ คนด้วยเทอญ  อาแมน.
ท่านจงทำตัวเป็นคริสตทาสที่ดี  และสัตย์ซื่อ  จงมีใจกล้าหาญ  สรรพพร้อมจะแบกกางเขนของพระสวามี  ผู้ได้ถูกตรึงกางเขนเพราะความรักต่อท่าน  จงสรรพพร้อมจะสู้ทนความยุ่งยาก  และความเสียหาย  ร้อยสีพันอย่างในชีวิตอันอาภัพนี้......จำเป็นต้องเป็นเช่นนี้  ภัยพิบัติ  และความทุกข์ร้อนนั้น  ไม่มีทางหนีพ้น  เว้นแต่ท่านจะรู้จักอดทน  ตัวท่านเอง  (ข้อความจากหนังสือ  จำลองแบบพระคริสต์  หน้า 199)
พระเจ้า  คือองค์ความรัก 1 ยอห์น 4:8
ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา.....  พระบิดาของเราก็จะทรงรักเขา  เราจะมาหาเขา  และจะพำนักอยู่กับเขา  ยอห์น 14:23
ข้าแต่พระบิดาเจ้า  ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์  ยอห์น 11:41 
อาแมน.
ลูกแกะตัวน้อย
28.02.2556  เขียนเสร็จ.
17.03.2556 เขียนเพิ่ม และส่งเมล
พบกันใหม่  ในวันหนึ่งวันใด  ที่ตัวน้อยมีเวลาเขียน  และได้รับการตรวจจากคุณพ่อแล้ว
เรื่องที่ 128: น่าจะเป็นเรื่อง   ตุ๊กตาหน้ารถ   กระมังคะ  กรุณารออ่านด้วยนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น