สวัสดีคะ ผู้อ่านที่รัก เมื่อวาน (13 มค. 55) ตัวน้อยได้ไปฉลองแม่พระฟาติมา ที่วัดฟาติมาดินแดง ครั้งแรก เพราะมีพี่พลมารีย์ชวนไป ในใจนั้นอยากไปนานแล้ว เพราะ เวลาขับรถจากบริษัทกลับบ้านจะผ่านประจำ ก่อนกลับใจ ไม่เคยสนใจ แต่เมื่อคืนดีกับพระเจ้าแล้ว ก็เริ่มมอง ในใจก็คิดอยากแวะ อยากมาหาแม่พระบ้างจัง โดยนิสัย ตัวน้อยจะขลาด และเขลา จะไม่ค่อยกล้าไปไหนที่ไม่เคยไปคนเดียว วัดฟาติมา เห็นวัด แต่ไม่เห็นทางเข้า ก็ไม่กล้า แวะ จนพี่เขาชวนและได้ไปด้วยกัน (เต็มรถห้าคน อยากไปสวรรค์ ต้องชวนกัน พากันไปหลาย ๆ คน ใช่มั๊ยคะ) สิ่งที่อัศจรรย์น่ายินดีที่เกิดขึ้น ก็คือตัวน้อย ได้มีโอกาสแบ่งปัน(ไม่ถึงสิบนาที พี่ ๆ พลมารีย์ที่ไปด้วยน่ารักมาก ๆ ร่วมกันสวดขอพระจิตให้ตัวน้อยก่อนพูดด้วย น่ารักจริง ๆ ขอบคุณคะ จุ๊บ..จุ๊บ...) และได้ร้องเพลง “กว่าจะรู้ว่าถูกรัก” เพลงแรกในชีวิตที่แต่งจากความรู้สึกที่ได้รู้ว่าถูกพระเจ้ารัก ความรู้สึกมันล้นใจ (เพลงเก่ง สงสัยต้องโชว์ทุกงาน เพลงอื่นก็พอมีนะคะ แต่เพลงนี้บอกเล่าเรื่องราวของตัวน้อยได้ครบครันที่สุด) พอพูดเสร็จ คุณพ่อสุรชัย ได้กรุณาเข้ามาคุย ขอเนื้อเพลง และถามว่า มีโน๊ตด้วยไหม อู้ฮู ตัวน้อยตอบว่า มีแต่คอร์ดกีตาร์ ที่อู้ฮู เพราะว่า เมื่อไปฉลองมรณสักขีสองคอน ในช่วงวันเกิด ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รู้จักกับพี่อาจารย์ท่านหนึ่ง ระหว่างเดินทางห้าวัน ก็คุย แบ่งปันกันในหลายเรื่อง และเรื่องเพลง พี่อาจารย์ได้กรุณา แนะนำให้รู้จักพี่ครูเปียโน ตัวน้อยโทรไปสวัสดีปีใหม่ ได้คุย และส่งเรื่องไปให้พี่ครูเปียโนอ่าน และได้กรุณาตอบเมล์ กลับมาอย่างน่ารักมาก ๆ ตัวน้อยได้อ่านแล้ว ยิ้มชื่นใจ สุขใจจริง ๆ พระเจ้าประทานพี่ที่น่ารักให้ตัวน้อยอีกคนแล้ว เย้..เย...เมื่อสองสามวันที่แล้วเพิ่งส่งเมล์ข้อความไปขอให้พี่เขาทำโน๊ตเพลงให้ เพราะตอนที่ถูกทาบทามให้ไปแบ่งปันที่วัดพระจิต (ไปสองครั้ง ยังไม่ได้แบ่งปัน เพราะคุณพ่อวิจิตร ไม่สบาย สวดให้คุณพ่อกันนะคะ อื่อ...นายชุมพาบาลที่สามก็ไม่สบาย เมือวานคุณพ่อประธานมิสซา คุณพ่อเอกชัย ก็ไม่สบาย พ่อแม่ของตัวน้อยก็ไม่สบาย พี่พลมารีย์หลายก็ป่วย คนไม่สบายมากจริง ๆ สวดให้พวกเขากันนะคะ) ก็ได้ไอเดียว่า ในวัดมีแต่อิเลคโทน เวลาต้องแบ่งปัน ถ้ามีโน๊ตเพลง ผู้เล่นก็คงเล่นให้ได้ ถ้าได้ดนตรี ประกอบการร้องตอนแบ่งปัน เพลงจากพระพรของพระเจ้าคงไพเราะขึ้นอีกมาก แล้วเช้านี้ (14 มค. 55) ลุกมาสวดตีห้า เสร็จราวหกโมงครึ่ง เปิดโน๊ตบุ๊คตั้งใจว่า จะเขียนเรื่องใหม่ แต่เช็คเมล์ก่อน ก็ได้พบหลาย ๆ เมล์ (ดีใจจัง ๆ หัวใจลันลา ตั้งแต่เช้าเลย เย้..เย...) และ เมล์ตอบของพี่เขา ว่าให้ส่งมาเนื้อและเพลงมา พี่เขายินดีจะทำให้ อู้ฮู....อู้ฮู... เย้..เย้.... ไม่ทราบจะขอบคุณพระเจ้าอย่างไรดี พระองค์ทรงคนมาช่วยตัวน้อยสานงานต่อแล้ว....ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิตสุดใจ และขอขอบคุณพี่ครูเปียโนจากทั้งหมดของหัวใจ มาณ.โอกาสนี้ด้วย
และอีกเมล์ที่สุดยอด ต้องขออนุญาต แบ่งปัน เป็นเมล์จาก คนพิเศษ ซึ่งคงได้อ่านเรื่องที่แล้ว และตัวน้อยส่งจดหมายจากลูกทัวร์ที่เพิ่งกลับไป ซึ่งเขียนให้ตัวน้อย แต่ที่สำคัญคือ ลูกทัวร์คนนี้ได้รับกระแสเรียกเช่นกัน ตัวน้อยส่งให้ บางท่านกรุณาอ่านก่อน สำหรับผู้อ่านที่รัก กรุณารออ่านเรื่องเต็มในเรื่องที่สามสิบห้านะคะ ข้อความส่งมาว่า “ นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี และที่น่าชื่นชมยินดีที่สุดก็คือ ชื่อของลูกแกะตัวน้อยได้ถูกจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว ลูกแกะตัวน้อยได้มีชื่อในพินัยกรรมสวรรค์ ได้มีส่วนในกองมรดกของพระบิดาแล้ว จงทำต่อไป ทำต่อไป ท่ามกลางกระแสแห่งการประจญชวนให้ท้อใจ ของปีศาจ แต่ตราบใดที่ใจของเจ้ายังบริสุทธิ์ ในส่ิงที่เจ้าได้กระทำเพื่อเป็นการถวายเกรียติแด่พระนามของพระเจ้า จงมั่นคง อย่าหวั่นไหว และอย่าหวาดกลัว เพราะพระเจ้าจะปกป้องเจ้า จากการคุกคามของเหล่าสิงโตคำรามทั้งมวล” อู้ฮู...โอ้โฮ...ตัวน้อยอ่านแล้ว มากกว่าความสุข....คือความปิติ ใช่ไหมคะ ตัวน้อยปิติจนขนลุกเลย ผู้อ่านที่รัก รู้สึกอย่างไรคะ จะมีใคร...น้อยใจหรือเปล่าคะ ตัวน้อยอยากจะขอบอกกับทุกคนว่า ทุกคนคงไม่ลืมใช่ไหม เราทุกคนเป็นลูกของพระเจ้าเช่นกัน เรามีส่วนในกองมรดกของพระบิดาเช่นกัน พระเจ้าคงปรารถนาจะตอกย้ำผ่านตัวน้อยในเรื่องนี้ และเตือนให้เราทุกคนสำนึก ระแวดระวัง ว่าเราทำตัวสมกับการที่เป็นบุตรของพระเจ้า สมกับที่จะได้รับมรดกที่พระองค์เตรียมไว้ให้เรามากมายแล้วหรือยัง โดยเฉพาะตัวน้อยเอง จะเป็นเกลือที่รักษาความเค็มได้นานเท่าไหร่ จะเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดได้นานเพียงไร จะแพ้การผจญวันไหนหรือไม่ เราต้องหมั่นสวดภาวนา อยู่ในความรัก และพระพรของพระเจ้า และ แม่พระเสมอนะคะ ไม่เช่นนั้นปีศาจคงจะมาเอาวิญญาณเราไป......ผู้ที่ยืนหยัดจนถึงวาระสุดท้าย จะรอดพ้น มัทธิว 10:22 และบำเหน็จในสวรรค์นั้นใหญ่ยิ่งนัก
พระเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์ พระองค์ทรงตั้งชื่อของข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในท้องมารดาข้าพเจ้า อิสายาห์ 49:1
ข้อความจากหนังสือ พระบิดาตรัสกับลูก ๆ ของพระองค์
๐ความห่วงใยเพียงประการเดียวของเราคือ การเฝ้าดูแลปกป้องมวลมนุษย์ และรักพวกเขาเยี่ยงบุตรของเรา หน้า 38
๐เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว เราอยากให้มนุษย์รับรู้โดยเร็วที่สุดว่า เรารักพวกเขา และเรามีความสุขมากที่สุดเมื่ออยู่ท่ามกลางพวกเขา พูดคุยกับเขาเหมือนพ่อพูดกับลูก ๆ ของตน หน้า 38-39
๐จงเข้าใจให้ดีเถิดว่า เรารักลูกเหมือนหนึ่งว่ามากกว่าเรารักพระบุตรสุดที่รักของเรา หรือยิ่งกว่านั้นมากกว่าเรารักตัวเราเองเสียอีก หน้า 45
๐เราปรารถนาให้ชีวิตของพวกเขามีความสุขมากกว่านี้ อาศัยกฏบัญญัติของเรา เราปรารถนาให้ลูกไปหาพวกเขาในนามของเรา และพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรา ถูกแล้ว จงบอกเขาว่า เขามีพ่อ พ่อซึ่งเมื่อได้สร้างพวกเขามาแล้ว ยังต้องการมอบสมบัติที่พ่อมีให้แก่เขาด้วย เหนือสิ่งอื่นใด จงบอกพวกเขาว่า เราคิดถึงเขา (จำเสียงในใจของตัวน้อยที่ได้ยินในเช้าที่ถูกปลุกของวันอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นวันที่พระเยซูเจ้าทรงเสด็จขึ้นสวรรค์ ว่า เราคิดเจ้า ได้ไหมคะ อัศจรรย์ดีไหมคะ) เรารักเขา และต้องการมอบความสุขนิรันดรแก่พวกเขา โอ้ เราขอให้สัญญากับลูกว่า เพียงเท่านี้ การกลับใจของพวกเขาก็จะเร็วขึ้น หน้า 52-53)
เห็นความรักของพระบิดาไหมคะ ตัวน้อยได้หนังสือมา.... หลายเดือน...สาม..สี่...เดือนที่แล้ว เพิ่งมาอ่านตอนกลับมาจากลี้ภัยน้ำท่วมที่หัวหิน ปลายพฤจิกายน ได้อ่านแล้วน้ำตาร่วง....ซึ้งในความรักมากมายของพระบิดา แล้วก็เริ่มสวดสายประคำพระบิดา และบทเร้าวิงวอนพระบิดา แทนบทพระทรมานแห่งพระเมตตาของนักบุญบริจิตต์ รอบสองก่อนนอน เพราะสวดน่าจบครบ หรือเกินสามร้อยหกสิบห้าครั้งแล้ว จึงสวดเฉพาะตอนเช้า
เมื่อได้รับรู้ถึงความรักของพระบิดาที่มีต่อมนุษย์กันดังนี้แล้ว เราจึง “.....ต้องทนทุกข์เพียงเล็กน้อย แต่จะได้รับบำเหน็จใหญ่หลวง เพราะพระเจ้าทรง ทดลองเขา และทรงพบว่า เขาเหมาะสมกับพระองค์ พระองค์ทรงทดลองเขาเหมือนหลอมทองในเบ้า” ปรีชาญาณ 3:5-6
จงมั่นคง อย่าหวั่นไหว และอย่าหวาดกลัว เพราะพระเจ้าจะปกป้องเจ้า จากการคุกคามของเหล่าสิงโตคำรามทั้งมวล ข้อความจาก คนพิเศษ เทียบ 2 เปโตร 5:8-10 คุยแบ่งปันเพื่อตอบเมล์เสียยาว ตอนนี้ เชิญอ่าน
เรื่องที่ 18 กางเขนในสายตา”
ทรงรักคนที่เป็นของพระองค์ในโลก จนถึงสุดชีวิตของพระองค์
และมอบชีวิตนั้น เป็นค่าไถ่ ชดใช้บาปให้เรา (ยอห์น 13: 1)
เมื่อมองไปที่ไม้กางเขน แต่ละคนมีความคิด เป็นอย่างไรคะ
ในวันหนึ่งที่ไปวัด คุณพ่อได้เทศน์ ถึงไม้กางเขน จำได้ประมาณว่า ท่านพุทธทาสได้พูดถึง ไม้กางเขนว่า ไม้ที่เป็นขีดตั้ง ก็หมายถึงตัวกู ไม้ที่เป็นขีดขวาง ก็คือเครื่องหมายลบ ถ้าลบตัวกูได้ ทุกคนก็จะไม่เห็นแก่ตัว โลกนี้ก็จมีแต่ความสงบสุข
ส่วนมหาอตมคานธี เมื่อได้มองไม้กางเขน และคิดถึงชีวิตแห่งพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าทำให้ท่านเป็นผู้นำการเรียกร้องโดยใช้หลักอหิงสา คือการต่อสู้เรียกร้องโดยสันติวิธี
ในอีกมิสซาหนึ่ง คุณพ่ออีกท่านได้เทศน์ถึงไม้กางเขนว่า “มีเด็กคนหนึ่งร้องไห้ ไม่ยอมไปโรงเรียน” ผู้เป็นแม่ก็ถามสาเหตุ ว่า “ทำไม” ลูกตอบว่า “มีศพแขวนอยู่ที่ ห้องเรียน” พอแม่ไปดูที่โรงเรียนก็เห็นไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซูนั่นเอง
เมื่อก่อนกลับใจ ความรู้สึกของตัวน้อยไม่ต่างจากเด็กคนนี้เท่าไหร่นัก รู้สึกเห็นถึงความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน ที่ไม่น่ามองเลยจริง ๆ
แต่เมื่อคืนดีกลับพระเจ้าและได้ไปท่องเที่ยวแสวงบุญที่เกาหลี(6-10 พค. 54) ปีที่แล้วเดินทางบ่อยจริง ๆ ( เวียนดนามกลางแปดวัน อเมริกาสิบวัน เข้าเงียบหัวหินแปดวัน เชียงรายสี่วัน เกาหลีสี่วัน เข้าเงียบสวนจิตรินแปดวัน ญี่ปุ่นสิบสี่วัน) เพราะคงไม่ค่อยอยู่บ้าน เลยเป็นเป้าหมายของขโมย (สามครั้งภายในสามเดือน)
ในการท่องเที่ยวเกาหลี วันสุดท้ายได้ไปโบสถ์ Jeoldrsan martyrs’ shrine เป็นวัดที่มีมรณสักขีหลายองค์ เมื่อได้เข้าร่วมมิสซา ไม้กางเขนของวัดนี้แขวนลอยจากเพดาน ลงมากลางโบสถ์ จากที่นั่งของตัวน้อย เห็นเหมือนไม้กางเขนลอยอยู่ตรงหน้า ใกล้ตา ก็ใกล้ใจระหว่างมิสซาได้มองไม้กางเขนตลอด ได้สบตากับพระเยซูใกล้ ๆ แล้วมีเสียงในใจดังออกมาว่า “เจ้าเห็นความรักเรามั๊ย ”
เมื่อกลับมาแล้ว วันหนึ่ง ก่อนออกไปทำงานทัวร์ อาบน้ำไปร้องเพลงไป ร้องไป ร้องมากลายเป็นเพลงนี้ “จากใจพระเยซู”
เจ้าเห็นความรักเรามั๊ย เราได้ไปตรึงกางเขนเพื่อเจ้า
รอยบาดแผลเจ็บลึกสุดเศร้า เห็นมั๊ย เรารักเจ้าเพียงใด
ยามใดที่เจ้าอ่อนแอ ยามใดเจ้าแพ้การผจญ
หัวใจเราทุกข์สุดเกินทน เจ้าทุกคนจงสำนึกรีบกลับใจ
จงหันมาพึ่งพระเมตตา นำพารักเราโอบอุ้มเจ้า
เราจะคุ้มเจ้าให้รอดจากเงา ความขลาดเขลา จงหายไปจากใจ
จงมั่นสวดภาวนา ทุกเวลาเช้าค่ำพร่ำวิงวอน
แล้วเราจะให้ทุกพระพร นำคำสอนสู่ใจในทุกวัน
เมื่อได้กลับใจ ไม้กางเขนในสายตาของตัวน้อย คือความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเยซู พระองค์ต้องเจ็บปวด ทรมาน อับอาย อดสู อย่างหาที่สุดมิได้ รอยบาดแผลทั้งหมด 5480 และบาปที่พวกเราทำ ก็เป็นการเพิ่มบาดแผลให้กับพระองค์อีก
โอ้พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์เป็นความหวานชื่นใจนิรันดร สำหรับผู้ที่รักพระองค์ ทรงเป็นความปิติยินดีทั้งปวง ทรงเป็นยอดของความปรารถนาใด ๆ พระองค์ทรงเป็นความรอด และความหวังของคนบาปทั้งมวล พระองค์ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ทรงต้องการอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้อยู่กับมนุษย์ พระองค์ทรงรักมนุษย์มากจนถึงกับมารับสภาวะมีพระวรกายเป็นมนุษย์
จากบทภาวนาสิบห้าบท ของนักบุญบริจิตต์ ใน หนังสือบทภาวนา พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
บทภาวนาที่ _1 หน้า 20 (เล่มที่สวด)
แผลที่เล็กที่สุดของพระองค์ เกิดจากเราแต่ละคน ที่มีความโกรธ อิจฉา
ริษยา เกลียดชังพี่น้อง พระวรกายถูกฉีกกระชากเพราะความแตกแยก
ความเห็นแก่ได้ แก้แค้น ทำลายล้าง และสงครามที่มนุษย์โถมเข้าใสกัน
พระวาจาจาก บทภาวนา พระเมตตาของพระเยซูเจ้า (เล่มที่สวดอยู่) หน้า 45
ตัวน้อยจึงหมั่นสวดบทภาวนาสิบห้าบทของท่านนักบุญบริจิตต์ วันละสองรอบ เพราะพระเยซูเจ้าทรงตรัสไว้ว่า “ให้เธอสวดทุกวันตลอดระยะเวลาหนึ่งปี เมื่อครบหนึ่งปี ถือได้ว่า เธอได้ถวายพระเกียรติ แด่บาดแผลบนร่างกายของเราทุก ๆ บาดแผล” พระวาจาจากบทสวด
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า หน้า 6
เพราะพระวาจา “จงตื่นเฝ้าระวังไว้ เพราะท่านไม่รู้วันเวลา” (มัทธิว 25:13)
ตัวน้อยกลัวว่า 2012 โลกจะแตก น้ำจะท่วมถึงยอดเขาเอเวอร์เรส จริงหรือเปล่า กลัวสวดไม่ครบปี ก็เลยวันละสองรอบ และพยายามไม่ทำบาปอีก เพราะไม่อยากเพิ่มความเจ็บปวดให้พระเยซูอีก เพราะ ทุกครั้ง เพราะทุกคน เมื่อได้ทำบาป นั่นหมายความว่า ทำให้พระบิดาเสียพระทัย พระบุตรต้องเจ็บปวด และพระแม่ต้องโศกเศร้าทุกข์ระทม ถ้าเลิกได้ ก็รีบตัดสินใจเลิก ถ้ายังเลิกไม่ได้ ก็ค่อย ๆ ลด ค่อย ๆ ละ ก็ยังดีนะคะ
เพราะการทำบาป แม้เมื่อแก้บาป รับศีล ได้รับการอภัยแล้ว ก็ยังต้องชดใช้ในไฟชำระ ถ้าไม่อยากผ่านไฟชำระ ก้ต้องอาศัยพระเมตตานะคะ ไม่ทราบรู้จัก และสวดพระเมตตากันอยู่หรือเปล่าคะ
ผู้ในต้องการ บทสวดภาวนาสิบห้าบทของท่านนักบุญบริจิตต์ และพระเมตตาเล่มที่ตัวน้อยสวดอยู่ ให้เมล์มาขอได้ ส่งที่อยู่มาด้วยนะคะ จะก็อปปี้ และจัดส่งให้ถึงบ้านไม่คิดค่าใช้จ่ายคะ
เรามาเตรียมตัวไปสวรรค์กันนะคะ
ข้าแสวงหาพระเจ้า และข้าจะมอบเรื่องราวของข้ากับพระเจ้า โยบ 5:8
มนุษย์จะเอาอะไรมาแลกกับวิญญาณของตน มาระโก 8:37
เขาแสวงหาเราทุกวัน และปิติยินดีที่รู้จักทางของเรา อิสยาห์ 58:8
ขอพระเจ้าช่วยท่านให้รอดพ้นเทอญ เดเนียล 6:17
Good night and God bless you. Ka
. ลูกแกะตัวน้อย.
อา. 15 มค. 55 ส่งเมล์
ปล. ตัวน้อยมีคลิปเพลง จากใจพระเยซู แนบมาด้วย เป็นเนื้อเพลงที่ปรับแต่ง โดย นายชุมพาบาลที่หนึ่ง และเล่นกีตาร์ให้โดยครูกีตาร์ที่สอง ขอขอบพระคุณทั้งสองท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย (เนื้อเพลงของตัวน้อย ไม่ได้ทำไว้เลย เสียดายจัง.....)
จากใจพระเยซู (ปรับแต่งเนื้อ)
F Bb C F
เจ้าเห็นความรักเรามั๊ย เราได้ ตรึงกางเขนเพื่อเจ้า
F Bb C F
รอยบาดแผลเจ็บลึกสุดเศร้า เห็นมั๊ย เรารักเจ้าเพียงใด
F Bb C F
ยามใดที่เจ้าอ่อนแอ ยามใด เจ้าแพ้กาผจญ
F Bb G7 F
หัวใจ เราทุกข์สุดเกินทน เจ้าทุกคน จงสำนึกรีบกลับใจ
F C Am C
จงหันมาพึ่งพระเมตตา สวดภาวนา ด้วยความไว้วางใจ
Gm Bb C F
แล้วเรา จะช่วยให้รอดปลอดภัย นำเจ้าไป สู่ดินแดนสรวงสวรรค์
F C Am C
จงหันมาพึ่งพระเมตตา สวดภาวนา เพื่อมนุษย์ทั้งมวล
Gm Bb G7 F
ให้คนที่มีจิตใจเรรวน ได้หวนคืนสู่ ชีวิตนิรันดร์.
ขอบอกความลับ อย่างอาย สุด ๆ ว่า นอกจาก แต่งเพลงโดยไม่รู้โน๊ต ไม่รู้ทฤษฏี เล่นดนตรี ไม่เป็น ไม่มีทักษะการแต่งเพลงแล้ว นับจังหวะ ฟังจังหวะก็ไม่เป็น ร้องเพลง ก็นำ หรือค่อมจังหวะ ตลอด พระเจ้าโปรดประทานพระพรให้ตัวน้อย เกินกำลัง เกินความสามารถจริง ๆ จึงทำได้แค่นี้ (พอฟังไหวมั๊ยคะ) พระองค์ถึงต้องประทานคนมาช่วยให้เพลงนั้น ครบครันยิ่งขึ้น ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิตสุดใจ พระเจ้ายิ่งใหญ่ สุดยอดยิ่งใหญ่......พระเจ้า.น่ารักที่สุดทั้งบนแผ่นดิน และในสวรรค์ จุ๊บ...จุ๊บ......
พบกันใหม่วันอังคาร กับเรื่องที่สิบเก้า หนึ่งฝันที่เป็นจริง ของเพื่อนแกะตัวนิด กับลูกแกะตัวน้อย
====================================================================
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น