ผู้ใดอยากตามเรา จงเลิกคิดถึงตนเอง แบกกางเขนของตนและติดตามเรา
(มัทธิว. 16:24)
เพราะว่าวันศุกร์ (2 กย. 54) ตัวน้อยต้องทำงานทัวร์ วันนี้ วันพฤหัสบดี จึงตั้งใจจะ พักผ่อน เพราะว่าตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 54 ทำงานทัวร์เสร็จ วันอาทิตย์เช้า (28 สค. 54) ได้ไป อบรมจิต ภาวนาห้าแบบที่วิทยาลัยแสงธรรมต่อทั้งวัน วันจันทร์ช่วงเช้า ตัวน้อย ทำกิจกรรม พลมารีย์ เยี่ยมคนป่วยที่โรงพยาบาล และ ไปสวดพลมารีย์สองบ้าน ช่วงบ่ายเข้าบริษัท รับงาน ทัวร์ใหม่ และซื้อแมคบุ๊คโปร พอซื้อปุ๊บ เริ่มพิมพ์ที่ร้าน มีปัญหา น้องที่ร้านคอยช่วยสอน และทำให้ เพราะไม่มี ความ รู้เรื่องการใช้คอมพิวเตอร์เลย เพียงแต่เคยเรียนพิมพ์ดีดตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ขอขอบคุณพระเจ้าที่ให้พิมพ์ดีดเป็น ถ้าให้เขียนงานถวายพระองค์ที่ละตัวคงต้องใช้ความพยายาม และลำบากมากกว่านี้
ราว ๆ เกือบตีสองยังนอนไม่หลับทำให้ลุกขึ้นมาสวด และเมื่ออ่านพระคัมภีร์พบคำว่า “เจ้าอย่าหลับไหลเหมือนคนอื่นเลย” จึงลุกขึ้นมาเขียนเรื่องที่สาม พอเขียนไปเกือบทั้งวันได้ รวม แปดหน้า ระหว่างนี้ ลองเปิดนั้น...ดูนี่... ปรากฏว่าคอมฯค้าง ทำงานต่อไม่ได้ เรื่องที่พิมพ์เสร็จ เมื่อวาน ตัวน้อยส่งอีเมล์ไปให้คุณพ่อ กับซีสเตอร์ช่วยอ่าน และอยากขอคำแนะนำ จะได้รีบแก้ไข ไม่ถึงบ้าง ไม่ได้รับบ้าง อ่านไม่ได้บ้าง (เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย)
วันพุธ ตัวน้อยไปร้านที่ซื้อโน๊ตบุ๊คมา ให้เขาช่วยแก้ ปรากฏว่า ข้อมูลที่พิมพ์หาย
หมด หนึ่งบทนำ สามเรื่อง ต้องพิมพ์ใหม่หมด ตัวน้อยอยู่ที่นั่น ตั้งแต่เที่ยงวันถึงสองทุ่ม ไม่ได้ ลุกไปไหนเลย แม้แต่เข้าห้องน้ำ พอมีปัญหาเรียกน้องเขามาช่วยดูตลอด เกรงใจมาก แต่ทำเอง ไม่เป็นจริง ๆ แล้วส่งอีเมล์ไปให้คุณพ่อ และซีสเตอร์ ขอให้ช่วยกรุณาอ่าน เพื่อตรวจทาน และขอคำติชม เนื่องจากเป็นเรื่องราวที่เขียนจากประสบการณ์จริง ไม่ได้เขียนนวนิยาย ตัวน้อย ต้องอ้างอิงบุคคลจริง จึงต้องขออนุญาติ และให้ท่านตรวจสอบ รวมทั้งยินยอมก่อนเผยแพร่สู่
สาธารณชน
วันพฤหัสบดี คุณพ่อส่งข้อความมาว่า คุณพ่อได้รับ แต่ไม่ครบ และอ่านไม่ได้ สรุปว่า
ตัวน้อยต้องหาวิธิใหม่ ไม่ทราบว่าต้องพิมพ์ใหม่เป็นรอบที่สามอีกหรือเปล่า (เริ่มเหนื่อย และหงุด หงิดมากขึ้น)
ตัวน้อยเริ่มบ่นกับตัวเอง “ทำไม ทำงานเพื่อพระเจ้า ถึงได้ลำบาก ถึงได้ยากอะไรแบบ นี้ ทำอะไรที่มันง่ายกว่านี้ดีกว่ามั๊ย เช่นแผ่ธรรมกับลูกทัวร์ญี่ปุ่นก็พอ สบายกว่ากันเยอะเลยซื้อโน๊คบุ๊ค อย่างดีที่สุด แพงที่สุดมาไว้ถือเล่น ๆ เหมือนมีรถเบนซ์ขับก็ไม่เป็น เข็นก็ไม่ไหว อย่าง ไรอย่างนั้น เขียนเอาง่ายกว่ามั๊ย เฮ่อ แต่ตัวน้อยจะพยายามต่อไป จะต้องใช้แมคบุ๊คโปร ให้เป็น ให้ได้ งานทัวร์ก็มีมาก อยากให้วันหนึ่งมีมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงเสียจริง ๆ ตัวน้อยจะได้มี เวลาทำอะไร ๆ เพื่อ พระเจ้าได้มากกว่านี้ บ่น บ่น บ่น ๆๆๆๆๆๆ”
เพราะวันอาทิตย์ ตัวน้อยติดงานทัวร์คงไปมิสซาไม่ได็ จึงไปวันนี้(วันพฤหัสบดี) แทน ได้ใช่มั๊ยคะ (ผู้ใดทราบคำตอบ ส่งเมล์มาบอก ไขข้อสงสัยหน่อยนะคะ ขอบคุณคะ)
ตอนตัวน้อยเดินเข้าวัด น้องผู้หญิงขายพวงมาลัยไหว้สวัสดีทัก เพราะ เคยช่วยซื้อ เขาขอค่ารองเท้าให้ลูกชาย ให้ไปแล้วสองครั้ง เพราะว่าเขาน่าสงสาร เขาบอกว่า เขาถูกสามีทิ้ง ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว
พอตัวน้อยเข้าวัดแตะน้ำเสก มองไปเห็นสารวัดของวันอาทิตย์ที่ผ่านมายังวางอยู่
ตอนแรกไม่ได้สนใจคิดจะหยิบเลย ตัวน้อยแวะกล่องช่วยคนจนของวินเซนต์เดอปอล เอาเงินใส่ ไปร้อยหนึ่ง แต่ก่อนใส่ตอนไปวัด เพราะบนกล่องเขียนว่า “ขอพระเจ้าตอบแทนน้ำใจดีของท่าน”
แต่เมื่อวันจันทร์ของสามอาทิตย์ที่แล้ว (จ. 8 สค. 54 ) ตัวน้อยได้ตามไปร่วมทำกิจกรรม พลมารีย์ครั้งแรก ได้ไปเยี่ยมคนชรา ที่ท่าน้ำ ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ยากจน ดูสกปรก รก คุณยายอยู่คนเดียว ตามองไม่ค่อยเห็น หูก็ตึง นานมากแล้ว ที่ไม่ได้ไปเห็น ไปสัมผัสอะไร แบบนี้ เพราะงานของตัวน้อยพาลูกทัวร์ชาวญี่ปุ่นไปเที่ยว จะได้เห็นแต่โรงแรม ร้านอาหารชั้นดี สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม
พอตัวน้อยได้ไปเห็น ไปสัมผัส วันอาทิตย์ (14 สค. 54) และได้เข้าประชุมพลมารีย์ ถามคุณพ่อจิตตาธิการว่า “ในเมื่อ พระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคน ทำไมถึงบางคนรวยสุขสำราญ บางคนจนลำบากแสนเข็ญ” แล้วตัวน้อยตอบต่อเองว่า “เมื่อมาคิดดูดี ๆ คงเพราะ พระเจ้าอยาก ให้คนที่มีมากกว่า ช่วยเหลือคนที่มีน้อยกว่า” นี่เป็นเหตุให้ หลังจากนั้น ทุกครั้งที่ไปวัดได้ จะใส่เงินในกล่อง มิใช่เพื่อ “ขอพระเจ้าตอบแทนน้ำใจดีของท่าน” แต่เพราะตัวน้อยต้องการ ช่วยเหลือคนยากจน เพราะเมื่อรักพระแล้ว ต้องรักผู้อื่น และ เพราะรักผู้อื่น จะพยายามแบ่งปัน ช่วยเหลือ ผู้อื่น ให้มากขึ้น (หัวใจเริ่มเปลี่ยนไป ความคิด การกระทำก็เปลี่ยนไป ใช่มั๊ยคะ ดีมั๊ยคะ เลียนแบบได้นะคะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์คะ)
แต่คุณพ่อมีคำตอบที่ดีกว่านั้น คุณพ่อกล่าวใจความว่า “เมื่อมารีอามักดาเลนาใช้น้ำหอม อย่างดีล้างเท้าพระเยซูเจ้า และยูดาสทักท้วงว่า น่าจะเอาน้ำหอมไปขายเอาเงินไปให้คนยากจน พระเยซูเจ้าทรงตรัสตอบว่า คนยากจนจะอยู่จนสิ้นพิภพ แต่เราจะอยู่กับเจ้าอีกไม่นาน” (พระวาจาบท และข้อใด ผู้ใดทราบ กรุณาส่งเมล์มาบอกหน่อยนะคะ ขอบคุณคะ)
แปลว่า ไม่ว่าอีกนานเท่าไหร่ก็มีคนจน ดังนั้นผู้ที่มีมากกว่าจึงควรแบ่งปันให้ความช่วย
เหลือตามกำลัง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักต่อพระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ใช่มั๊ยคะ
ตัวน้อยคิดได้ดังนี้ เลยกวักมือ ชูสองนิ้วเรียกน้องขายพวงมาลัย และช่วยซื้อสองพวง ไปถวายแม่พระกับนักบุญยอเซฟ และแล้วไม่ทราบอย่างไร ปกติตัวน้อยไม่ค่อยหยิบสารวัดมา อ่าน วันนี้ กลับหยิบติดมือ มานั่งอ่านรอมิสซาเริ่ม ก็เลยอ่านเล่น ๆ
และแล้ว ตัวน้อยอ่านพบข้อความโดนใจ การไขแสดงอย่างจัง อีกแล้ว
“พระเป็นเจ้าทรงทำงานในตัวท่าน เพื่อให้ท่านมีทั้งความปรารถนา และความ
สามารถที่จะทำตามประสงค์ของพระองค์ พวกท่านจงทำทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่
บ่นเถิด” (ฟีลิปปี. 2:13-14)
ตัวน้อยอ่านซ้ำไปซ้ำมา และทูลบอกกับพระองค์ว่า “ต่อไป ลูกจะพยายามไม่บ่นแล้ว พระเจ้าข้า ขอพระองค์โปรดประทานพระจิต เพื่อสั่งสอน และเป็นแสงสว่างนำทางให้ลูกรับใช้ พระองค์ได้ตามน้ำพระทัยในทุกกิจการด้วยเทอญ พระเจ้าข้า อาแมน”
พระเจ้าทรงรักผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี (2 โครินทร์ 9:7)
“เราต้องรับใช้พระเจ้าด้วยใจยินดีกันนะคะ”
Good night and God bless you, ลูกแกะตัวน้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น