สวัสดีคะ ผู้อ่านที่รัก ครั้งนี้ ตัวน้อยขอส่งสามเรื่องนะคะ เพราะไปฉลองวันเกิด (17 ธค .) กับมรณสักขีทั้งเจ็ดที่สองขอน จึงส่งมาให้อ่าน จะได้ไม่ลืมตัวน้อย ตัวน้อยจะคิดถึง และขอพรเผื่อผู้อ่านที่รักเป็นพิเศษด้วยนะคะ กลับมาคงมีเรื่องดี ๆให้แบ่งปันมากมาย ตอนนี้ ขอเชิญอ่าน.......
เรื่องที่ 6 น้ำใจ
“ผู้ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่ง ก็ต้องทำตนเป็นคนรับใช้” (มัทธิว . 20:26)
วันพฤหัสบดี (1 สค. 54) เรื่องอื่นที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน
ทั้ง ๆ ที่เป็นวันที่ตัวน้อยอยากจะพักผ่อน เพราะวันรุ่งขึ้น ต้องตื่นตีสามเพื่อไปรับลูกทัวร์ ไฟล์ตีห้า มีธุระต้องออกไปองค์การโทรศัพท์เพื่อทำเรื่องยกเลิกเบอร์เดิม เปิดเบอร์ใหม่ เพราะ ขอติดตั้งอินเตอร์เน็ตในชื่อของตัวเอง
ตอนตัวน้อยเดินกลับบ้านเดินผ่านพระโต (พระโตคือรูปปั้นพระเยซูทรงรักษาคนตา
บอดที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของวัดนักบุญฟรังซีสซาเวียร์ มาขอพรกันได้นะคะ) ตัวน้อยเห็นคุณยาย รุ่นเดียวกับแม่หยุดไหว้พระโต ถือของมาค่อนข้างหนัก เดินดูไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ มอง สะดุดใจ คิดลังเลอยู่ในใจ ช่วยดี ไม่ช่วยดี ใจน่ะอยากจะช่วยอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยจะกล้าเพราะ กลัวโดนปฏิเสธ นิสัยจริง ๆ ของตัวน้อย คือขี้กลัวนิด ๆ ขี้อายหน่อย ๆ
ตัวน้อยเห็นคุณยายเดินถือของหนัก และดูเหนื่อย... ตัดสินใจเข้าไปทัก “หนูช่วยถือไป ส่งบ้านมั๊ยคะ ท่าทางจะหนัก หนูว่างพอดี”
คุณยายทำหน้าแปลกใจ แต่ก็ยิ้ม และบอกว่า “ไม่เป็นไร บ้านใกล้แค่นี้เอง ขอพระอวยพร
นะ” ตัวน้อยตอบ “ขอพระอวยพรสคุณยายเช่นกันคะ” ไหว้ลาแล้วเดินกลับบ้าน(อีกสองเดือนต่อมา เมื่อเข้าประชุมพลมารี ได้พบข้อความพระวาจาว่า “จงปฏิบัติแก่สตรีอาวุโสอย่างมารดา”
ทิโมธี 5:2)
พอตัวน้อยไปวัดตอนหนึ่งทุ่ม ได้ซื้อพวงมาลัย และเดินไปถวายแม่พระกับนักบุญ ยอเซฟที่หน้าพระแท่น คุณยายเขาเห็นตัวน้อยได้กระซิบคุยลูกสาวที่มาด้วย ตัวน้อยยิ้มให้
พอวัดเลิก ตัวน้อยเดินออกมาก็พบคุณยาย คุณยายได้ทัก และซักถามลูกเต้าหล่าใคร
ปรากฏว่า คุณยายรู้จักพ่อแม่ลูกแกะตัวน้อยด้วย จากสายตา จากคำพูดของคุณยายคือชื่นชมที่
ตัวน้อยมีน้ำใจจะช่วยถือของไปส่งบ้านเมื่อเช้า
ตัวน้อยบอกว่า “พอดีเพิ่งศรัทธานะคะ เมื่อรักพระ ก็ต้องรักผู้อื่น เห็นคุณยายถือ
ของหนัก เดินลำบาก ก็เลยอยากช่วยนะคะ”
คุณยายยิ้ม และขอให้พระอวยพร ตัวน้อยมีความสุข รู้สึกอิ่มอก อิ่มใจดีจัง
พอตัวน้อยเดินจากคุณยายมา มีคนยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ ตัวน้อยเห็นกระดาษจำได้ว่า เป็นพระวาจาทรงชีวิตของ เคียร่า ลูบิค (ที่รู้จัก เพราะส่งมาให้ที่บ้านในชื่อพี่ชาย และพี่สาวทุกเดือน ก่อนกลับใจทิ้งถังขยะตลอด พอคืนดีกลับพระเจ้า ได้แกะอ่าน รู้สึกดีมาก ๆ อยากให้ทุกคนได้อ่านด้วยจังเลยคะ) ตัวน้อยรับไว้อย่างงง ๆ นำกลับบ้านพร้อมสารวัด
เมื่อตัวน้อยกำลังเปิดประตูบ้าน น้องขายพวงมาลัยตามมาถึงบ้าน และพูดขอเงินซื้อรองเท้า ให้ลูกชาย (มุขซ้ำอีกแล้ว) หยิบเงินในกระเป๋าส่งให้บอกว่า “พี่ให้ทั้งหมดในกระเป๋านี้” แล้ว เข้าบ้าน ด้วยใจยินดี (ดีมั๊ยคะ น่ารักมั๊ยคะ ไม่ได้อยากอวด หรือต้องการคำชมนะคะ แต่ถ้า เป็นแบบอย่างที่ดีได้ จะดีใจมากกว่า) มาทำกิจการดี ๆ แม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ถวายพระเจ้ากัน นะคะ
ตัวน้อยนอนสี่ทุ่มกว่า ตื่นตีหนึ่งกว่า นอนต่อก็นอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาสวดเหมือน ทุกวัน กว่าจะเสร็จเกือบตีสาม ได้เวลาอาบน้ำไปทำงานรับลูกทัวร์พอดี
ช่วงเจ็ดโมงครึ่งถึงสิบโมงครึ่งตัวน้อยว่าง เพราะเมื่อเช้ารับลูกทัวร์เข้ามา ให้พักผ่อนถึง สิบเอ็ดโมงจึงออกเดินทางไปอยุธยา ตัวน้อยมารับประทานอาหารในรถ และได้หยิบ“พระวาจา ทรงชีวิต” ฉบับ กย.2011 ที่ได้รับมาเมื่อวาน มาอ่าน
ปรากฏว่า เป็นเรื่องลูกล้างผลาญกลับใจมาหาพระบิดา เหมือนตัวน้อยเลย ตัวน้อยหลง ทางเพิ่งกลับบ้านมายังไม่ถึงหกเดือน (อึ้ง อีกแล้ว ทำไม อยู่ดี ๆ ก็มีคนเอามายื่นให้ ทำไม ทำไม ใครช่วยตอบทีสิคะ)
ประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบมากล่าวถึงคือ “แต่จำเป็นต้องเลี้ยงฉลอง และชื่นชมยินดี เพราะ
น้องชายคนนี้ของลูกตายไปแล้ว กลับมีชีวิต หายไปแล้ว ได้พบกันอีก” (ลูกา.15:32)
ตอนท้ายกล่าวว่า “พระบิดาเจ้าทรงเรียกร้องให้เราเปลี่ยนแนวคิดคือ เราต้องต้อนรับคน
ที่ผิด และ คนที่รู้สึกเหยียดหยามว่า ต่ำต้อยกว่า เราต้องถือว่า เขาเป็นพี่น้องของเรา สิ่งนี้จะ
ช่วยให้เรากลับใจ เพราะจะช่วยชำระจิตใจของเรา จากการมั่นใจว่า เราดีกว่าคนอื่น ช่วยทำให้
เราเป็นมิตรกับทุกคนที่นับถือศาสนาอื่น และทำให้เรารับความรอดที่พระเยซูเจ้าโปรดให้เรา
ทำให้เราเข้าใจว่า ความรอดเป็นของประทานอันเนื่องมาจากความรักของพระเจ้าอย่างแท้จริง”
เคียร่า ลูบิค
เมื่อตัวน้อยได้อ่าน น้ำตาซึม รู้สึกเหมือนพระเจ้าทรงตรัสกับตัวน้อยว่า “พระองค์ทรงยินดี แค่ไหนที่ตัวน้อยกลับมาหาพระองค์ ความรักความเมตตาของพระองค์ยิ่งใหญ่เพียงใด พระองค์ ทรงปกป้อง เป็นโล่ เป็นกำบังให้ ตัวน้อย จากคนที่จะชี้นิ้วมาที่ตัวน้อยและบอกว่า นี่ไง คนบาปกลับใจ นี่ไง ลูกแกะหลงทาง ฯลฯ ตัวน้อยจะดีใจมาก ถ้าถูกเรียกว่า นี่ไง ลูกแกะตัวนั้น เพราะแม้ตัวน้อยจะเป็นคนบาป แต่พระเจ้าก็ทรงรัก และประทานพระพรให้มากมาย
เพราะตัวน้อยได้ออกโทรทัศน์รายการพระเจ้าสถิตกับเรา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ การกลับใจ (7 และ 14 สค) มีหลายคนที่พบและจำได้ และมีหลายคนที่รู้จัก และได้ดู ตัวน้อย ดีใจที่มีคนดู มีคนฟัง แต่ตัวน้อยก็เขินมากที่มีคนจำได้ ตัวน้อยไม่ได้อยากดัง ไม่ได้อยากเป็นที่รู้จัก ไม่ได้อยากให้ชีวิตเป็นที่จับตา แต่อยากให้เรื่องของตัวน้อยเป็นที่จับใจ เป็นแบบอย่างให้ ลูกแกะหลงทางอีกมากมายกลับมาหาพระเจ้าในเร็ววัน พระองค์รอลูก ๆ ของพระกลับมาหา อย่างใจจดใจจ่อ และเศร้าพระทัยยิ่งนัก เหมือนหัวอกของพ่อแม่ที่ลูกถูกลักพาหายไปจากบ้าน
เมื่อตัวน้อยกลับมาหาพระเจ้า เพราะพระองค์ได้สำแดงความรักมากมายจนตัวน้อยรู้ตัวว่าถูก พระเจ้ารักมากขนาดไหน ความรู้สึกมันล้นใจ จนร้องออกมาเป็นภาษาเพลง ในบทเพลงที่แต่งเอง ใส่เนื้อร้องและทำนองเอง ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการแต่งเพลงหรือ โน๊ต หรือดนตรี ชื่อเพลงว่า “กว่าจะรู้ว่า ถูกรัก” เป็นเพลงแรก เนื้อเพลงคือ
กว่าจะรู้ว่าถูกรัก ก็หยุดพัก ผิดที่ผิดทาง
สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็นคือภาพอำพราง สิ่งที่คว้า สิ่งที่หา คือภาพมายา
จนมาวันนี้ได้พบรักกับพระเจ้า จึงได้รู้ที่มี เพราะพระเมตตา
จากนี้ ชีวิตเพื่อพระองค์ ขอโปรดทรง บอกหนทาง
อยากมีชีวิตนิรันดร์ จะรักมั่นในพระองค์เท่านั้น
โปรดอย่าทิ้งห่างลูกไปไกล ขอสุขใจในรักพระองค์.
ตัวน้อยจึงอยากตอบแทนความรักของพระเจ้าด้วยหนทางที่ง่ายที่สุด ก็คือ “รักพระเจ้า
สุดจิตสุดใจ สุดพลกำลัง สุดสติปัญญา สุดวิญญาณ และ รัก รับใช้ผู้อื่น”
แต่ตัวน้อยกลัวเหลือเกิน ปีศาจในใจตัวน้อยถูกขับไล่ไปหนึ่งตน จะพาพวกมาอีกเจ็ดตน หรือเปล่า ตัวน้อยกลัวแพ้การผจญ กลัวว่าเมื่อรักพระเจ้าแล้ว ต้องแบกกางเขนติดตามพระองค์ไป จะรับไหวมั๊ย
พระองค์ทรงหยั่งรู้ว่า ลูกคนนี้ของพระองค์อ่อนแอ ใจเสาะยิ่งนัก จึงส่งชุมพาบาลทั้งสี่ ลูกแกะพี่เลี้ยง เพื่อนแกะ ผู้คนมากมาย มาดูแล
รวมถึง พระวาจาทรงชีวิตฉบับนี้ หวังในใจว่า จะมีคนมากมายที่ได้อ่าน และยินดีต้อนรับ
ตัวน้อยกลับบ้านอย่างอบอุ่น และมีความสุขด้วยกันในความรักของพระเจ้า
ขอความรักของพระเจ้า และความสัมพันธ์กับพระจิตสถิตกับท่าน (2 โครินทร์ 13:13)
ขอโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าสุดจิตสุดใจ
Good night and God bless , ลูกแกะตัวน้อย
ขออนุญาตินำเสนอ บทสวดสิบห้าบทของนักบุญบริจิตต์แห่งสวีเดน ซึ่งตัวน้อยสวด วันละสองรอบ เพื่อว่า วันที่จากโลกนี้ไป พระเยซู และพระแม่มารีย์ทรงสัญญาว่าจะมารับไปสวรรค์ เป็นส่วนของ บทสรุป นะคะ สั้นหน่อย แต่ตัวน้อย ชอบสุด สุด
ข้าแต่พระเยซูผู้อ่อนหวาน ลูกขอวิงวอนพระองค์ โปรดเสียบแทงดวงใจของลูก ด้วย
พระมหาทรมานของพระองค์ เพื่อว่าน้ำตาแห่งความเป็นทุกข์ เพราะบาปจะได้เป็นอาหารของลูกทั้งวันและคืน ขอโปรดให้ลูกกลับใจทั้งครบเข้ามาหาพระองค์อย่างแท้จริง ขอให้คำภาวนาของลูก
เป็นที่พอพระทัยของพระองค์เสมอ และโปรดให้จุดจบของชีวิตของลูกเป็นที่น่าสรรเสริญ เพื่อลูก
จะได้มีบุญเข้าไปอยู่ในสวรรค์ จะได้สรรเสริญพระองค์ตลอดกาลนิรันดร ร่วมกับบรรดานักบุญทั้ง
หลายของพระองค์เสมอไปเทอญ อาแมน.
(บทสวดนี้ทำให้ตัวน้อยร้องไห้สำนึกผิดบ่อย ๆ ตอนแรกไม่กล้าสวดเพราะกลัวจุดจบที่น่าสรรเสริญ
แต่ตอนนี้รักพระเจ้าสุดจิตใจแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ยอมทุกอย่างแล้ว แต่ ถ้าพระเจ้าจะกรุณา ขอไม่เจ็บได้มั๊ย พระเจ้าข้า แล้วสวดแบบนี้จะเป็นอะไรได้อีกนอกจาก ........ ใช่มั๊ยคะ สวดด้วยกันนะคะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น